4 เคล็ดลับความสำเร็จของ Amazon ที่ทำให้ เจฟฟ์ เบโซส์ รวยที่สุดในโลก

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พอดแคสต์ The Secret Sauce กับ เคน นครินทร์ ได้พูดคุยและถอดเคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์ไทย ผู้ประกอบการไทยมาแล้วมากมาย

เมื่อได้รับฟีดแบ็กจากแฟนรายการว่าอยากฟังเรื่องราวของแบรนด์ต่างประเทศบ้าง ทางทีมงานจึงได้ไอเดียผุดออกมาเป็นซีรีส์ Global Brand หยิบเคสของแบรนด์ระดับโลกมาถอดรหัสความสำเร็จ เริ่มจากแบรนด์ที่ใครๆ ก็คงรู้จักอย่าง Amazon

ใครจะไปคิดว่าจากธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ที่เปิดครั้งแรกในโรงรถเล็กๆ จะกลายเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า Amazon และทำให้ เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้งบริษัท กลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก

ปัจจุบันชายคนนี้มีทรัพย์สินในครอบครองทั้งหมด 5 ล้านล้านบาท ลองคิดดูว่า GDP ของประเทศไทยอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท เท่ากับว่าเขามีทรัพย์สินมูลค่าเกิน 1 ใน 3 ของ GDP บ้านเราไปแล้ว

Amazon ทำอะไรบ้าง

นอกจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Amazon มีบริษัทในเครืออย่าง Amazon Echo นำเสนอความล้ำของนวัตกรรม ที่รู้จักกันดีคือระบบผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ Alexa หรือ Amazon Go ร้านค้าสะดวกซื้อสุดล้ำ รวมถึงซื้อธุรกิจสื่ออย่าง The Washington Post พร้อมเปิดสตาร์ทอัพนำเที่ยวอวกาศที่ชื่อว่า Blue Origin

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือรายได้หลักกว่า 70% ของ Amazon กลับมาจากระบบคลาวด์ของ Amazon Web Services ซึ่งเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่แทบทุกบริษัทจำเป็นต้องใช้ ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จจากการมองไกลตามวิสัยทัศน์ที่แม่นยำของเจฟฟ์ เบโซส์ อย่างแท้จริง

4 เคล็ดลับความสำเร็จของ Amazon

1. Day one thinking

เจฟฟ์ เบโซส์ เชื่อว่าทุกๆ วันคือวันแรกของการทำงาน หมายความว่าในทุกวัน คนทำงานต้องมีสิ่งใหม่ให้ทดลองสร้างสรรค์และพบเจอความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย ถ้าเมื่อไรที่การทำงานมาถึงวันที่ 2 มันอาจกลายเป็นหายนะที่ทำให้บริษัทเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง นอกลู่นอกทาง จนกลายเป็นความตกต่ำไปในที่สุด

2. Focus on customer

คนส่วนใหญ่มักตั้งคำถามว่า “อะไรบ้างที่จะเปลี่ยนแปลงในอีก 10 ปีข้างหน้า” แต่เจฟฟ์ เบโซส์ กลับถามว่า “อะไรบ้างที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ซึ่งเขาได้อธิบายคำตอบของคำถามนี้ว่าความต้องการที่มากขึ้นของลูกค้าคือสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยน และเป็นหน้าที่ของคนทำธุรกิจที่จะต้องสร้างสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ยกตัวอย่างธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แน่นอนว่าลูกค้าต้องการสินค้าที่ราคาถูกลง ส่งเร็วขึ้น และมีความหลากหลาย ฉะนั้นไม่ว่าจะออกสินค้าอะไรใหม่ก็ต้องโฟกัสลูกค้าให้มาก

ทุกคนในบริษัทต้องทำงานในตำแหน่งคอลล์เซ็นเตอร์ให้ได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้ใกล้ชิดลูกค้ามากที่สุด และทุกความเห็นจากพวกเขาจะเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้ดียิ่งขึ้น – เจฟฟ์ เบโซส์

3. ปรับตัวอยู่เสมอ

Amazon เป็นบริษัทที่เปิดรับเทรนด์อยู่ตลอดเวลาและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆ ได้ดีเสมอ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว วิธีในการอยู่ร่วมกับมันคือการเปิดรับให้ได้ ยกตัวอย่างสิ่งที่ Amazon ทำ เช่น การจัดอันดับสินค้ายอดนิยม เก็บข้อมูลสถิติต่างๆ หรือการใช้ระบบ Machine Learning ทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า หรือกลับมาตอบโจทย์เรื่อง Focus on customer

4. ตัดสินใจรวดเร็ว

เจฟฟ์ เบโซส์ รู้ดีว่าการจะรักษาดีเอ็นเอขององค์กรที่อยู่มานานกว่า 20 ปีให้สดใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่ผู้นำต้องทำคือต้องตัดสินใจให้รวดเร็ว หลายครั้งที่บริษัทล้มเหลวไม่ใช่เพราะพวกเขาตัดสินใจผิด แต่พวกเขาตัดสินใจถูกต้องในเวลาที่ช้าเกินไปต่างหาก ยิ่งในโลกที่หมุนเร็ว เราไม่สามารถรอข้อมูลยืนยันถึง 90% แล้วค่อยลงมือทำบางสิ่งได้ บางครั้งอาจเจอความท้าทาย แต่ขอให้เป็นความเสี่ยงที่ยังควบคุมได้ และพยายามมองภาพระยะไกล เช่น เวลาตัดสินใจลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เจฟฟ์ เบโซส์ มักมองหาธุรกิจที่มีโครงสร้างและผู้นำดีมากกว่าบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูง เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งนั้นจะสร้างความมั่นคงในระยะยาวได้มากกว่า

ฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce โดยแอปฯ Podcasts (สำหรับผู้ใช้ iOS), Spotify, Podbean, SoundCloud, YouTube หรือแอปฯ ประเภท Podcast Player ยี่ห้อใดก็ได้ (สำหรับผู้ใช้ Android)