ศรีริต้า เจนเซ่น คือนักแสดงคนหนึ่งที่เราเห็นตั้งแต่เธอถ่ายแบบลงนิตยสารวัยรุ่น เล่นละครหลายสิบเรื่อง แต่สิ่งที่แทบจะเป็นตัวแทนของเธอตลอดมาคือความสวยระดับนางฟ้า และดูเป็นคนดีจนบางครั้งถูกค่อนแคะว่าโลกสวย จนเธอได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองด้วยบทบาทการเป็นเมนเทอร์ในเรียลิตี้ค้นหานางแบบ หลายคนก็มองเธอเปลี่ยนไป
ตลอดเวลาของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ศรีริต้าเน้นอยู่ 2 เรื่องหลักๆ ที่พาเธอมาถึงทุกวันนี้ คือคำว่า ‘Mindset’ และ ‘โอกาส’ เธอผ่านประสบการณ์อะไรจึงเชื่อว่าการเลือกมองโลกด้วยมุมบวกจะส่งผลดีกับชีวิต และในขณะที่สปอตไลต์ของวงการบันเทิงกำลังส่องเธออยู่ เธอบริหารโอกาสอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
จะสอนใครต้องเข้าใจเขาก่อน
จุดแข็งของริต้าที่คนอื่นไม่รู้คือริต้าเป็นคนที่ทำอะไรแล้วอยากทำให้ดี นิสัยเราเป็นคนเก็บรายละเอียด เพราะส่วนตัวเราทำธุรกิจเองทั้งหมดโดยไม่มีหุ้นส่วน เราคุมพนักงานทั้งหมด 40 คน เราสร้างแบรนด์ตั้งแต่มันไม่มีอะไรจนทุกวันนี้เข้าคิง เพาเวอร์ ศรีวารี สยามพารากอน มีแฟลกชิปของตัวเอง และกำลังจะเปิดที่สยาม ทาคาชิมาย่า ริต้าทำเองทั้งหมด โดยเฉพาะการคุมคนที่ต้องทำทั้งร้านอาหาร สปา ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก รายละเอียดทุกอย่างมันเยอะไปหมด มันเป็นสิ่งที่คนไม่รู้และริต้าไม่เคยถ่ายทอดออกมาว่ามีส่วนนี้ คนแค่เห็นเราหน้ากล้องหรือตอนสัมภาษณ์กับนักข่าว แต่คนไม่เคยเห็นเราในฐานะนักธุรกิจหรือการบริหารงานของเราเลย ริต้ามองว่าการเป็นเมนเทอร์ก็ไม่ต่างจากนี้ การสอนเด็กก็เหมือนสอนพนักงานของเรา สำคัญที่สุดการที่จะสอนใครได้คือต้องเข้าใจเขาก่อน บอกเลยว่าริต้าไม่ใช่เมนเทอร์ที่เก่ง แต่เป็นเมนเทอร์ที่เข้าใจเด็ก เพราะถ้าเราเข้าใจเขาเมื่อไร เราจะสอนเขาได้
ธรรมชาติของมนุษย์คือการปกป้องตัวเอง
การทำธุรกิจสอนให้เราเป็นคนละเอียดมากค่ะ ริต้าเองก็ไม่เคยรู้ว่าในรายการมันจะดึงศักยภาพเราออกมามากขนาดนี้ ริต้าเคยผิดพลาดนะคะ ไม่ใช่ว่าจะทำได้ดีตลอด เพราะนี่คือครั้งแรกที่มาเป็นเมนเทอร์ แต่รายการนี้เป็นรายการที่ดึงศักยภาพเราออกมาโดยปกปิดไม่ได้ ถึงปิดมันก็ดูออก เพราะมีสถานการณ์ที่บีบบังคับให้เราได้ใช้สติ ประมาท กลัว พลาดพลั้ง ทุกแคมเปญที่เข้ามามันวัดไหวพริบเราหมดเลย แต่สำคัญคือต้องมีสติ เพราะมันคือเทกเดียว กล้องดูเราอยู่ ริต้ารู้สึกว่าเขาคงทำให้เราดูเอ๋อ โง่ ทำอะไรไม่ถูก ดูไม่ดี ดูเป็นคนถูกรังแก หรือเป็นคนที่สู้คนไม่ได้ เหมือนสังคมมนุษย์เรา ถ้ามีใครมารังแกเรา เราก็ต้องปกป้องตัวเอง
ไม่มีใครทำอะไรเราได้นอกจากตัวเราเอง
พอเราโตขึ้น เราจะรู้ว่าไม่มีอะไรทำให้เราเจ็บได้นอกจากตัวเราเอง ไม่มีใครทำอะไรเราได้ทั้งนั้นนอกจากเราทำตัวเอง ฉะนั้นถ้าเกิดเราดูแลตัวเองให้ดี มีสติ ระวังคำพูด มันไม่มีใครทำอะไรเราได้
ให้คิดถึงวันนี้วันเดียว วันหน้ามันจะมาเองถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด
มนุษย์จะพัฒนาศักยภาพได้ ถ้ามีความกลัว
การที่คนเราจะพัฒนาศักยภาพมันต้องมีความกลัวเกิดขึ้น คุณต้องผลักดันตัวเอง คุณเห็นไหม เราโดนตัดแล้ว ถ้าคุณยังอยากอยู่ที่นี่ต่อ คุณต้องสู้ และถ้าเกิดเราไม่ตัด เราจะแข่งกันให้เหนื่อยทำไม
ทำวันนี้ให้ดีและสนุก
ริต้ารู้สึกว่าการทำงานเราต้องสนุกกับงาน อันนี้เป็นวิสัยทัศน์ของเราอย่างหนึ่ง ริต้ามาทำงานทุกวันนี้ต้องสนุกกับมัน คุณพ่อสอนริต้ามาตั้งแต่เด็กว่าต้องรักและสนุกในสิ่งที่เราทำ ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ริต้าให้ตลอดคือให้เด็กมีความสนุก อย่าคิดว่าใครจะไปไฟนอลวอล์กหรือจะเอาชนะ คิดแค่ว่าวันนี้เราจะมาทำอะไรที่มันสนุกมากๆ กัน ให้คิดถึงวันนี้วันเดียว วันหน้ามันจะมาเองถ้าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด
การทำงาน ความไว้ใจเป็นเรื่องสำคัญ
เราอยากได้คนที่เหมือนเราอยู่แล้ว ยิ่งได้เพื่อนสนิทมาทำงานด้วยคงโชคดีมาก แต่เกมนี้ไม่ใช่เกมนั้น เราไม่ได้คนที่นิสัยเหมือนกันหรือไม่ได้เพื่อนสนิทมาทำงานด้วย ทุกอย่างเลยต้องเรียนรู้ คนเราเมื่ออายุมาถึงขั้นหนึ่ง การที่เราจะเชื่อใจใครสักคนหนึ่งมันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก การที่ริต้าจะไว้ใจใครพอที่จะเล่าความเป็นตัวเองออกมาหรือเปิดเผยตัวตนให้เขารู้มันใช้เวลา มันไม่ใช่นิสัยเราที่สนิทใจกับใครตั้งแต่วันแรก
การเปลี่ยน Mindset คือการเปลี่ยนทุกอย่าง
ริต้ารู้สึกว่าชีวิตนี้เกิดมาแล้วเราเลือกได้ เราเลือกที่จะทุกข์หรือสุขได้ ริต้าเลือกที่จะสุขดีกว่า พอเราเลือกจะสุข คนก็บอกว่าอีนี่โลกสวย น่ารำคาญ แต่เรารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราเลือก เราอยากจะมีความสุข อยากแบ่งปันรอยยิ้ม อยากแบ่งปันความตลก สนุก เราอยากแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้คนอื่น แล้วพอมีความสุขก็มีโอกาสจะมอบสิ่งดีๆ ให้คนอื่นมากมาย มันเป็นสิ่งที่ทำอยู่ตลอด แน่นอนว่าเวลาทำงานเราเป็นคนซีเรียส นอนไม่หลับก็เคย ไม่ใช่ว่าโลกสวยแล้วทุกอย่างมันจะดี แต่เราเป็นคนหนึ่งที่จริงจังและงานออกมาดี แต่สุดท้ายแล้วมันจะดีหรือไม่ดี เราก็เลือกด้านที่เรารู้สึก คือเราต้องมีความสุขทุกโมเมนต์ ถึงเครียดก็อย่าให้มันอยู่กับเรานาน และอย่างที่บอกว่าตั้งแต่ทำธุรกิจมา มันมีปัญหาเยอะแบบมรสุมมาก ปัง! แรกๆ ก็มีเครียดบ้าง แต่พอตอนหลังเรามองว่าปัญหามันไม่ใช่ปัญหา แต่มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต มันมีไว้เพื่อแก้ไขและเป็นเรื่องปกติ ริต้าเลยเชื่อคำว่า Mindset มันเป็นคำที่สำคัญมาก บางครั้งที่เราไปเจอลูกทีมแล้วเขาบอบช้ำมาก สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องเปลี่ยน Mindset เขา การเปลี่ยน Mindset เป็นสิ่งสำคัญและมีพลังมาก บางทีคลิกเดียวเราจะมองว่าเป็นเรื่องเครียดหรือมองเป็นอีกแบบก็ได้
โอกาสไม่เดินกลับมาหาเราเป็นครั้งที่ 2
ริต้ารู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้รับโอกาสมาอยู่ตรงนี้ เลยอยากให้โอกาสคนอื่นกลับไปบ้าง นั่นคือสิ่งที่เราทำอยู่เสมอ เหมือนเราโชคดีที่อยู่ๆ เรามีชื่อเสียง หาเงินได้ มีพี่ๆ ที่น่ารัก แต่แน่นอนว่ามันมีคนที่เขาไม่ได้รับโอกาสแบบนี้อีกมากมายที่เราพยายามจะถ่ายทอดออกไป คนเราบางทีมีโอกาสเข้ามา เราไม่รู้หรอกว่ามันจะดีหรือไม่ดี เหมือนที่เขาถามว่าริต้ามาเป็นเมนเทอร์ไหม ริต้าก็ไม่รู้ว่ามันจะดีหรือร้าย แต่เมื่อมันมีโอกาส สิ่งที่เราต้องทำคือต้องรับโอกาสนั้นและทำมันให้ดีที่สุด โอกาสมันไม่ได้เดินกลับมาให้เราเป็นครั้งที่ 2 ถ้าคุณปฏิเสธครั้งนี้ คุณกำลังดังอยู่ สปอตไลต์ส่องอยู่ที่คุณ แต่คุณปฏิเสธด้วยอารมณ์ จะด้วยอารมณ์หรืออะไรก็ตาม มนุษย์เรามาคู่กับอารมณ์อยู่แล้วค่ะ คุณปฏิเสธไป แต่อย่าลืมว่ามันจะไม่ย้อนกลับมาให้คุณอีกแล้ว มันจะผ่านเลยไป แล้ววันหนึ่งคุณจะมานั่งเสียดาย ถ้าทำแล้วมันไม่ดีหรือเลวร้าย อย่างน้อยเราก็ได้ลอง
Credits
Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข
Interviewer ท้อฟฟี่ แบรดชอว์
The Guest ศรีริต้า เจนเซ่น
Episode Producer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์
Photographer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Music Westonemusic.com