The Rube เป็นที่รู้จักจากความเป็นไทยที่อยู่ในเพลงฮิตอย่าง I’m Sorry (สีดา) ที่ต้องยอมรับว่าเอาเรื่องราววรรณคดีไทยและการร้องเอื้อนแบบไทยๆ มาอยู่ในเพลงป๊อปได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม
แต่ก่อนหน้านี้ The Rube ก็เป็นวงดนตรีฝีมือดีวงหนึ่งที่ผ่านการเปลี่ยนแปลง ศึกษา และทำการบ้านมาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะสรุปได้ว่าการนำความเป็นไทยมาผสมผสานในเพลงที่พวกเขาเรียกว่า Modern Traditional คือเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวง
ที่มาที่ไปของความเป็นไทยและวง The Rube
ก่อนหน้านี้ก็เคยออกซิงเกิลมาแล้ว จนวันหนึ่งรู้สึกว่าทำไมมันเงียบจัง นักร้องนำก็ชอบร้องลูกทุ่งเล่น ทีมงานก็เลยปิ๊งขึ้นมาว่าทำเป็นแนวนี้ดีกว่า Modern Traditional ก็ต้องขอบคุณวง Mild ที่ช่วยกันสร้างเอกลักษณ์ของวง The Rube ขึ้นมา
แนวนี้ยังไม่มีใครใช้ วงพยายามเอาสิ่งใหม่ที่สุดมาผสมกับดนตรีแบบเก่า ต้องทำการบ้านเยอะมาก นอกจากฟังเพลงและเครื่องดนตรีไทยแล้วยังกลับไปศึกษาเรื่องราวของดนตรีไทยเก่าๆ หรือความไทยเก่าๆ อีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ไทยไปทั้งหมด ก็ต้องผสมกัน บางเพลงการร้องเมโลดี้เก่าแล้ว เครื่องอื่นก็เอาความโมเดิร์นใส่ บางเพลงยังไม่มีความไทยใส่เข้าไปมากเท่าไรก็โซโลกีตาร์เป็นเพนทาโทนิก (เมโลดี้แบบเอเชีย)
ตอนทำเพลง I’m Sorry (สีดา) ก็มีเพลงอยู่แล้ว เป็นเพลงป๊อปไทยสากลที่คิดว่าฮิตได้แน่ แต่ขาดความเป็นไทยอย่างที่ตั้งใจ โปรดิวเซอร์ก็ฮัมท่อนไทยๆ ที่ต่อมาใส่ไว้กลางเพลงขึ้นมา แต่ยังไม่มีเนื้อเพลงใส่ เก็ต (ศิวพงษ์ เหมวงศ์ – ร้องนำ) ก็ไปศึกษาเรื่อง รามเกียรติ์ จนไปถึงช่วงนางสีดาลุยไฟที่สะเทือนใจเก็ตมาก เลยเอาท่อนนี้มาแต่ง
แรงบันดาลใจในการเล่นดนตรีของสมาชิกวง The Rube
เจน (ณัชรพงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ – กลอง) เริ่มเล่นกลองยาวมาตั้งแต่ประถม จากนั้นพี่ชาย (จุ๊บ – มือกีตาร์) ก็เล่นกีตาร์ แต่เจนกลับไม่รู้สึกอยากเล่น อยากตีกลองมากกว่า ส่วนเพลงที่ชอบมากในสมัยเริ่มเล่นดนตรีคือ คนที่ถูกรัก ของ Bodyslam เป็นเพลงแรกที่หัดเล่นเลย
น็อต (ทรงพล ศรีสะอาด – เบส) ชอบ Dream Theater ของ John Myung ชอบมาก แต่พอโตมาก็ดูพวกมือเบสโซโลมากกว่า เช่น Nathan East หรือ Marcus Miller
จุ๊บ (ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์ – กีตาร์) สมัยเด็กๆ ชอบพี่ป๊อป The Sun ฟังเพลงรัก เพลงอกหัก พอจบช่วงมัธยมก็ค้นพบแนวที่ตัวเองชอบที่ร้านแซกโซโฟน ได้ฟังเพลงแนว Fusion Jazz เป็นครั้งแรก ก็ชอบแนวนี้มาตลอดนับแต่นั้น
เก็ต นักร้องนำ เริ่มมาจากการฟังและร้องเพลงลูกทุ่ง พอตั้งวงดนตรีกับเพื่อนก็ถึงได้ตั้งวงสตริง ตอนเด็กๆ เพลงแรกที่ฟังคือเพลงของอาจารย์ชินกร ไกรลาศ เพลง ยอยศพระลอ ฟังแล้วร้องตามก็พบว่าตัวเองร้องได้ เอื้อนได้ จากนั้นก็เริ่มสนุกไปกับมัน
พูดถึงเพลง เสีย ที่เพิ่งเล่นไปเมื่อต้นรายการ
เป็นเพลงที่พยายามตัดเรื่องราวที่ซับซ้อนออกไป ก็ไม่รู้ว่าเป็นแนวคิดที่ผิดหรือเปล่า เพราะวงพยายามจะตัดอะไรที่เป็นความเสี่ยงของเพลงเพลงหนึ่งออกไป ก็คิดเรื่องผลประกอบการมากขึ้น มีความกดดันจากความฮิตของเพลงก่อนๆ จากความสำเร็จที่เคยได้ ก็เลยกดดัน
ปีหน้า 2018 ก็คิดว่าน่าจะมีอัลบั้มเต็มออกมาให้ได้ฟังกัน รับรองว่ามีเซอร์ไพรส์แน่นอน
Eargasm Combo
เพลงที่ 1 – เป็นเพลงที่ร่วมสมัยจริงๆ และเป็นเพลงแรกที่ The Rube เอามาเล่นโดยปรับให้เป็นแนว Modern Traditional ที่วงต้องการ และชอบมากๆ
เพลงที่ 2 – เป็นเพลงที่จุ๊บคุมน็อตอัดเบส เป็นแนว Smooth Jazz ที่จุ๊บชอบฟัง
เพลงที่ 3, 4 – เป็นเมดเลย์สองเพลงรวมกัน เป็นศิลปินที่จุ๊บชื่นชอบ และเพลงนี้จุ๊บก็ร้องเองซะเลย เป็นเมดเลย์พิเศษที่เล่นที่นี่ที่เดียว
เพลงที่ 5 – เป็นไอดอลของยุคนี้ที่ไม่เคยเห็นเลยว่าเขาพลาด เซนส์ความป๊อปของเขาดีมาก เก็ตไม่ค่อยได้ร้องเพลงสากลที่ไหน ก็เล่นที่นี่เป็นเซอร์ไพรส์
Eargasm Combo Song List
- ลาวดวงเดือน – พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
- ที่จริงเราไม่ได้รักกัน – Mild
3.-4. Gravity & Vultures – John Mayer
- That’s What I Like – Bruno Mars
Credits
The Host แพท บุญสินสุข
The Guest ศิวพงษ์ เหมวงศ์
ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์
ทรงพล ศรีสะอาด
ณัชรพงศ์ วัฒนาจารุพงศ์
Show Creator แพท บุญสินสุข
Show Producer นทธัญ แสงไชย
Episode Editor นทธัญ แสงไชย
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director กริณ ลีราภิรมย์
Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล
Proofreader ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
Music Westonemusic.com