เมื่อนายหัวของ SpaceX และ Tesla ได้เข้าเทกโอเวอร์บริษัทโซเชียลมีเดียนกสีฟ้าในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ดีลมหากาพย์ระหว่าง อีลอน มัสก์ และ Twitter จะปิดฉากลง แต่นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป โลกของเราอาจไม่เหมือนเดิม
อีลอน มัสก์แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่า การเข้าซื้อครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจ แต่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มที่ให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่ออารยธรรมของมนุษย์
สิ่งที่น่าสนใจคือภายใต้บังเหียนของอีลอน มัสก์ Twitter จะมีทิศทางในการดำเนินงานอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานอย่างเราอย่างไร
บทความเกี่ยวข้อง
Executive Espresso อีพีนี้ เคน นครินทร์ ชวนคุณมองปรากฏการณ์นี้ และคาดเดาถึงโลกในอนาคตร่วมกันว่า ‘โลกของ Twitter จะหมุนไปทางไหน’
สรุปไทม์ไลน์การเข้าซื้อ Twitter ของ อีลอน มัสก์
14 มีนาคม 2022 อีลอน มัสก์เข้าถือหุ้น 9.2% ใน Twitter
ซึ่งเป็นจำนวนกว่า 73 ล้านหุ้น มูลค่า 2.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อีลอน มัสก์กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในเวลานั้น และทำให้ราคาหุ้นของ Twitter ทะยานขึ้นไปประมาณ 25%
11 เมษายน 2022 อีลอน มัสก์ปฏิเสธตำแหน่งกรรมการบริหารของ Twitter แบบไม่ใยดี หลังจากนั้น พารัก อักราวาล ออกมายืนยันว่า แม้อีลอน มัสก์จะตัดสินใจเช่นนั้น แต่บอร์ดบริหารและ Twitter ก็ยังจะเปิดรับการเสนอความคิดเห็นจากอีลอน มัสก์ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของพวกเขาเสมอ
14 เมษายน 2022 อีลอน มัสก์ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้น 100%
อีลอน มัสก์ทวีตข้อความผ่าน Twitter ว่า “ผมได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว” พร้อมแนบลิงก์เอกสารที่เขาได้แจ้งความจำนงในการเข้าซื้อหุ้นของ Twitter ในสัดส่วน 100% ต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตามราคาตลาด ซึ่งอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
26 เมษายน 2022 อีลอน มัสก์ซื้อ Twitter 100% ในราคา 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยหลังจากที่ข่าวนี้ได้เปิดเผยสู่สาธารณชน อีลอน มัสก์ได้แถลงผ่านบัญชี Twitter ของตัวเองไว้ว่า
“เสรีภาพทางการพูดคือรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย และ Twitter นั้นเปรียบเสมือนกับจัตุรัสเมืองของโลกดิจิทัลที่มีการถกเถียงถึงประเด็นต่างๆ ที่สำคัญต่อมนุษยชาติ
“ผมมีความต้องการที่จะปรับปรุงแพลตฟอร์ม Twitter ให้ดียิ่งกว่าเดิมด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ สร้างอัลกอริทึมในรูปแบบ Open Source เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ กำจัดบอตสแปม และรับรองความถูกต้องของมนุษย์ทุกคน
“Twitter มีศักยภาพในการเติบโตมากมายอย่างมหาศาล ผมมองไปถึงการทำงานร่วมกับบริษัทและชุมชนผู้ใช้งานเพื่อที่จะปลดล็อกศักยภาพดังกล่าว”
4 ทิศทางในอนาคตของ Twitter
1. เสรีภาพในการแสดงออกและการควบคุมเนื้อหา
อีลอน มัสก์มักแสดงความกังวลว่า Twitter นั้นมีการควบคุมเนื้อหาและเข้าแทรกแซงบนแพลตฟอร์มมากเกินไป ซึ่งเขานั้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ก่อนที่ข่าวการซื้อ Twitter ของเขาจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการ อีลอน มัสก์ได้ออกมาทวีตว่า เขาหวังว่าแม้แต่ ‘นักวิจารณ์ที่แย่ที่สุด’ จะยังคงใช้แพลตฟอร์มนี้ต่อไป “เพราะนั่นคือสิ่งที่หมายถึงเสรีภาพในการแสดงออก” จึงมีแนวโน้มว่าในต่อไป Twitter จะให้ความสำคัญเรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นหากเป็นไปตามคำกล่าวของอีลอน มัสก์
2. ท่าทีต่อ โดนัลด์ ทรัมป์
อีลอน มัสก์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะว่าเขาจะจัดการกับบัญชี Twitter ที่ถูกแบนตั้งแต่ปีที่แล้วของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร
แต่จากความคิดเห็นโดยเสรีของเขาทำให้เกิดการคาดเดาว่า Twitter ภายใต้ความเป็นเจ้าของของเขา จึงอาจมีแนวโน้มในอนาคตที่อีลอน มัสก์จะคืนบัญชี Twitter ให้กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
3. อัลกอริทึม
บนเวที TED อีลอน มัสก์ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการที่จะทำให้อัลกอริทึมของ Twitter เป็น Open Source Model ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เห็นโค้ดที่แสดงว่าโพสต์บางรายการปรากฏในไทม์ไลน์ของตนอย่างไร อีลอน มัสก์มองว่าวิธีดังกล่าวนั้นดีกว่า และจะช่วยลดความสงสัยต่อผู้ใช้งานกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม
4. การใช้งานบนแพลตฟอร์ม
ก่อนหน้าที่จะเข้าซื้อ Twitter อีลอน มัสก์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานบนแพลตฟอร์ม โดยบัญชีที่มีผู้ติดตามมากที่สุด 10 อันดับแรกอย่างอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา, จัสติน บีเบอร์ และ เคที เพอร์รี
มักไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนัก ดังนั้นหนึ่งในแผนหลังการเข้าซื้อครั้งนี้
คือตั้งเป้าที่จะกำจัดบัญชีสแปมและบอตต่างๆ
ประเด็นที่น่ากังวลเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความเห็น
สังคมที่ไม่ถูกตีกรอบเรื่องเสรีภาพทางคำพูดจะเป็นอย่างไร เพราะในปัจจุบันยังมีประเด็นเรื่อง Cyberbullying หรือข้อความที่แฝงไปด้วยความเกลียดชังมากมาย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสมนี้
คริส แอนเดอร์สัน ผู้ดำเนินรายการ TED2022 ในหัวข้อ ‘Twitter, Tesla and how his brain works’ ได้ตั้งคำถามกับอีลอน มัสก์ในงานนี้ว่า
“แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีเสรีภาพทางการแสดงออกอย่างสูงสุดนั้น อาจส่งผลให้เกิด Hate Speech แล้วอีลอน มัสก์จะมีการจัดการกับปัญหาตรงนี้อย่างไร หากมีผู้คนมาทวีตว่า “ฉันเกลียดนักการเมืองคนหนึ่งมากๆ และไม่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่” หรือ “ภาพของนักการเมืองคนหนึ่งที่มีเป้าปืนเล็งไปที่ใบหน้าของเขา พร้อมกับบอกที่อยู่” คุณจะมีวิธีการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร? อัลกอริทึมของคุณจะสามารถจัดการปัญหาตรงนี้ได้จริงๆ หรือ? หรือว่าเรายังต้องการให้มนุษย์เป็นผู้ตรวจสอบดูแลเรื่องเหล่านี้”
ทางฝั่งของอีลอน มัสก์ได้ตอบกลับมาว่า
“แนวทางการดำเนินงานของ Twitter จำเป็นที่จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของประเทศด้วย เพราะนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ เพียงแต่คำว่าเสรีภาพในการแสดงออกของผมหมายถึง หากบางทวีตได้รับการฟีดให้มีการมองเห็น โดยที่ทวีตอีกกลุ่มถูกลดการมองเห็น ผมมองว่าสิ่งนี้คือเรื่องที่อันตรายและต้องได้รับการแก้ไข
“หากข้อความดังกล่าวเป็นข้อความที่มีความ ‘เทาๆ’ แน่นอนว่าผมอาจจะไม่ทำอะไรกับมัน แต่หากเป็นข้อความที่รุนแรงมากๆ ผมยังไม่มีคำตอบในส่วนตรงนี้ให้ แต่ที่แน่ๆ คือเราจะให้ความสำคัญกับการแบนบัญชีถาวร และพยายามที่จะไม่ให้สิ่งนั้นต้องเกิดขึ้น”