หนิง ศรัยฉัตร คือ Working Woman คนหนึ่ง เธอเป็นพิธีกรงานอีเวนต์ที่มีคนต้องการตัวมากอันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็น Full-time mom ที่ทุ่มเทเวลาในการเลี้ยงลูกสาวคนเก่งจนได้ดิบได้ดี ชนะเวทีประกวดเต้นมานับครั้งไม่ถ้วน
ซินดี้ สิรินยา คุยกับ หนิง ศรัยฉัตร เรื่องการเลี้ยงลูก บริหารชีวิตคู่ และดูแลตัวเองในรายการ Balanced Mama Podcast
Perfectionist ที่ทุ่มเทเวลาให้ลูกไม่แพ้การทำงาน
หนิงเปรียบเทียบความเป็นแม่ของตัวเองกับอาชีพของเรา เรามีความเป็น Perfectionist ทุกอย่างที่ลงมือทำต้องมีแพตเทิร์น อย่างเวลารับงานพิธีกร มันไม่ได้อยู่ที่ว่าหน้าที่บนเวทีของเราดีแค่ไหน แต่หนิงให้ความสำคัญตั้งแต่มาให้ตรงต่อเวลาก่อนเริ่มงาน มันมีกระบวนการแบบนี้ในการเป็นแม่เช่นกัน หน้าที่ของหนิงเริ่มตั้งแต่วันที่ยังไม่คิดจะมีลูก จนถึงวันที่พร้อม หนิงก็เริ่มมาคิดและวางแผนว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ครึ่งหนึ่งของหนิงคือการทำงาน แต่อีกครึ่งหนึ่งก็เป็น Full-time mom บางคนบอกว่าคุณแม่ที่ออกไปทำงานนอกบ้าน ไม่นับว่าเป็น Full-time mom แต่หนิงว่าทันทีที่เราเดินเข้าบ้าน เราก็เลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ ทุ่มเทไม่แพ้การทำงานเลย
ตอนยังไม่มีลูก เวลาทำงานหนิงเป็นคนซีเรียส ไม่มีผ่อนปรน ทุกอย่างต้องเป๊ะ เคยเอาเพื่อนรักมาเป็นผู้ช่วย เขาตามเราจนวันหนึ่งทนไม่ไหว โยนของทิ้งตรงสถานีรถไฟฟ้าและบอกว่า “ฉันทำงานอาชีพอื่นมาไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้ ทำไมเธอต้องวิ่งตลอดเวลา ทำไมเธอต้องรีบกินข้าว ฉันเหนื่อยมาก เธอนั่งมอเตอร์ไซค์ไปทำงานก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป” มันทำให้หนิงได้ฉุกคิดว่าเราทำงานสู้กับเวลามาโดยตลอด มันอาจถึงเวลาที่เราต้องเบาลง สายสัก 10 นาทีก็ไม่เป็นไร ผ่อนบ้าง นิดหน่อยก็ปล่อยบ้าง ผิดหวังบ้างก็ไม่เป็นไร ผิดเป็นครู ทุกอย่างคือการเรียนรู้
https://www.instagram.com/p/BdPk1_rHFgF/?taken-by=ningsaraichatt
แม่ทุกคนต้องเคยเจอเรื่องเฟลของตัวเอง
คงไม่มีแม่คนไหนที่เลี้ยงลูกได้สมบูรณ์แบบและถูกต้องทุกอย่าง แม้กระทั่งตำราเลี้ยงลูกที่เราอ่านมาหมดก่อนคลอด ก็ไม่มีที่สามารถระบุความเป็นไปต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ทุกอย่างเกิดจากการเรียนรู้ Learning by doing เลยจริงๆ
เรื่องแรกที่เฟลและอายมากคือ ลูกไม่ยอมนั่งกินข้าวที่โต๊ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมการกินข้าวของลูกเราถึงดูเป็นเรื่องทรมาน ในขณะที่เด็กคนอื่นไม่เห็นเป็นอะไร ประกอบกับบ้านเรามีพี่เลี้ยงเป็นคุณปู่คุณย่าที่เห็นหลานไม่ยอมกินก็คอยตามป้อน มันทำให้เขายิ่งติดนิสัย หนิงเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณหมอ เขาบอกว่าไม่มีใครปล่อยให้ตัวเองหิวข้าวจนอดตายหรอก เดี๋ยวหิวก็กินเอง ทุกวันนี้เลยต้องใช้วิธีว่ารอจนลูกหิวแล้วถึงยอมกิน
เรื่องที่สองคือลูกเราไม่ยอมนั่งรถเข็น จับลงรถเมื่อไรเป็นดิ้นพล่าน หนิงเลยเป็นแม่ที่ต้องอุ้มลูกถึง 6-7 ขวบ อุ้มเขาตลอดเวลา มันเป็นเรื่องเฟลเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังไงคนเป็นแม่ก็ต้องเจอ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็พยายามมองเรื่องที่ตัวเองทำแล้วประสบความสำเร็จ และไม่ไปโฟกัสกับจุดเฟลของตัวเองมากเกินไป
https://www.instagram.com/p/Bgp1ZvCn6ju/?taken-by=ningsaraichatt
สื่อสารด้วยเหตุผลไม่ใช่อารมณ์
เวลาคุยกับลูก เราต้องคุยกันด้วยเหตุผลและพยายามไม่ใช้อารมณ์ มันคงมีสักวันตอนที่เรายังเป็นเด็ก และรู้สึกว่าแม่ไม่เข้าใจหนูเลย หนิงเลยอยากเป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่เข้าใจลูกมากขึ้น เราเข้าใจเขา เขาเข้าใจเรา ทำงานกันเป็นทีม อย่างลูกมาบอกว่าอยากเป็นศิลปิน เราก็พยายามทำให้เขาเข้าใจว่า การเป็นศิลปินมันต้องหาเลี้ยงตัวเองได้ด้วยนะ ไม่ต้องมาเลี้ยงดูแม่ตอนแก่ก็ได้ เอาตัวเองให้รอดก็พอ ถึงแม้ในใจจะกลัวลูกเป็นศิลปินไส้แห้งก็ตาม (หัวเราะ) แต่เราก็ต้องเข้าใจเขา
ทุกวันนี้สิ่งที่ลูกเรียนมาจากสิ่งที่เขาสนใจ อย่างเรื่องเรียนเต้น เราไม่เคยไปบังคับเลย แต่มีอยู่คอร์สหนึ่ง เหมือนลูกไม่ถูกโฉลกกับยิมที่สอน ไปเรียนได้ 2 ครั้ง ร้องไห้งอแงตลอด แถมหนิงจ่ายเต็มไป 12 ครั้งแล้วด้วยนะ แต่เราก็มาคิดว่าไม่อยากให้ลูกฝังใจและจดจำในความรู้สึกที่ไม่ดีแบบนี้ เลยบอกเขาว่า โอเค ไม่ต้องไปแล้วก็ได้ แต่ถ้าครั้งต่อไปลูกจะเรียนอะไรขอให้คิดให้ดีก่อน ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้วยกเลิกไปเรื่อยๆ แบบนั้นไม่โอเค ลูกก็เข้าใจ ครั้งต่อไปเวลาจะเรียนอะไรเขาก็คิดให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ
ชีวิตดำเนินได้ด้วยความสุนทรีย์
หนิงว่าทุกอาชีพต้องมีศิลปะ เวลาเราดูการเต้น ร้องเพลง ภาพวาด มันเป็นสิ่งที่มา
เสริมให้ชีวิตเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และมันทำให้การทำงานอื่นๆ ในด้านที่เป็นศาสตร์ของเรา มีความเป็นศิลป์มาควบคู่ การมีชีวิตที่บาลานซ์ต้องมีความสุนทรีย์ บางคนไม่ต้องวาดรูปเก่ง แต่แค่ได้หยิบปากกาดินสอขึ้นมาขีดเขียนบ้าง ก็ทำให้เราไม่ลืมสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราเป็น
https://www.instagram.com/p/BhJOG-xHKYc/?taken-by=ningsaraichatt
‘ถ้าคุณมีความสุขกับอะไร ผมจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสิ่งนั้น’
จากคะแนนเต็ม 100 หนิงเป็นภรรยาที่ทำหน้าที่ได้ดีแค่ 70 ยอมรับเลย เพราะตั้งแต่มีลูก เราให้ลูกเป็นความสำคัญอันดับ 1 แต่โชคดีที่สามีเข้าใจ เพราะเดือนแรกลูกเป็นโคลิก ส่วนหนิงมีอาการซึมเศร้าหลังคลอดหนักมากถึงขั้นน้ำหนักลดลงไป 15 กิโลกรัม หมกตัวอยู่แต่ในห้องกับลูก ห้ามใครมาจับ ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทั้งที่เราพยายามที่จะไม่เป็นแบบนั้นแต่มันทำไม่ได้ สามีเลยพาออกจากบ้านไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน
ปรากฏหนิงกินข้าวไปก็ร้องไห้ไป เพราะคิดถึงลูกและรู้สึกผิด สามีเลยบอกว่า เขาเข้าใจแล้ว ถ้าในวงกลมความสุขของหนิงคือการอยู่กับลูก เขาจะเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในนั้น มันเป็นการเสียสละเพื่อเรา ทุกวันนี้เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ก็เป็นเพราะว่ามันคือความสุขของเรา 3 คน ที่พร้อมจะไปด้วยกันได้ทุกที่
ทุกวันนี้หนิงกับสามีอยู่กันเหมือนเพื่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตคู่คือมิตรภาพที่มีให้กัน เราจำเป็นต้องมีเพื่อนคู่คิด เลยทำข้อตกลงกันว่า จุดมุ่งหมายของเราคือเราจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย
ดังนั้นการที่เราจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย เราต้องซื่อสัตย์ ต้องดูแลกันและกัน เวลาทำอะไรต้องคิดถึงอีกคนหนึ่ง แต่ลึกๆ หนิงเผื่อใจไว้เสมอ เพราะเราโตมาในครอบครัวที่มีการหย่าร้าง หนิงรู้ดีว่าชีวิตคู่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ดังนั้นเราจะทำยังไงก็ได้เพื่อดูแลชีวิตคู่ให้เป็นสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ลูกมีความสุข
https://www.instagram.com/p/BfkCZ4EnVD2/?taken-by=ningsaraichatt
ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย
หนิงพยายามจัดสรรสิ่งที่อยู่รอบตัวให้ชีวิตมันง่ายขึ้น เช่น ให้ลูกเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน จะได้ช่วยประหยัดเวลาแม่ ไม่ต้องรีบออกจากบ้าน ไม่ต้องเจอรถติด ส่งลูกเสร็จยังมีเวลามาออกกำลังกายครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยออกไปทำงาน
เคยมีคนบอกว่าจุดที่ยากที่สุดในการออกกำลังกายคือจุดเริ่มต้น ถ้าคุณผ่านช่วงแรกไปได้ต่อไปทุกอย่างจะง่ายขึ้น
จงมองการออกกำลังกายเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ อย่ามองว่าเป็นงานอดิเรก เราต้องทำเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง จะได้อยู่ดูแลลูกไปได้นานๆ และเป็นแบบอย่างให้เขาเห็นว่ามันสำคัญจริงๆ
บทเรียนสำคัญที่ได้จากการเป็นแม่
มันทำให้หนิงรู้ว่าเรารักการเป็นแม่ หนิงมีความสุขทุกวันที่ตื่นขึ้นมา ลูกคือลมหายใจและแก้วตาดวงใจ นอกจากนั้นมันยังทำให้เรารู้ว่าแม่รักเราขนาดไหน เราเข้าใจแม่มากยิ่งขึ้นตอนที่ได้มาเป็นแม่เอง และสุดท้ายมันทำให้หนิงได้เรียนรู้ว่าไม่มีเด็กคนไหนเหมือนกันในโลกใบนี้ จงภูมิใจที่เราได้สร้างสรรค์ลูกขึ้นมา หนิงเชื่อในเรื่องของสภาวะแวดล้อม แม่คือไอดอลคนแรกของลูก และลูกทำให้เราอยากเป็นคนที่ดีขึ้น
ติดตาม BALANCED MAMA PODCAST ได้ทางหน้าเว็บไซต์ที่ TheStandard.Co/Podcast หรือถ้าคุณฟังพอดแคสต์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วย iOS หรือ Android ไม่ว่าจะใช้แอปฯ อะไรฟังอยู่ ใช้แอปฯ นั้นๆ เสิร์ชได้เลยว่า Balanced Mama หรือเสิร์ช THE STANDARD ก่อน แล้วดูลิสต์รายการพอดแคสต์ทั้งหมดในเครือ เมื่อเจอแล้วก็ Follow หรือ Subscribe เอาไว้ได้เลย
Credits
The Host ซินดี้ บิชอพ
The Guest ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา
Show Creator ซินดี้ บิชอพ
Episode Producer ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor นทธัญ แสงไชย
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์
Photographer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์
Proofreader พรนภัส ชำนาญค้า
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Music Westonemusic