วันนี้ (27 กันยายน) ที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเยี่ยมชมงาน OTOP Midyear 2023 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมายังกรมชลประทาน เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สถานการณ์น้ำท่าในลำน้ำสายหลัก 4 เขื่อนหลักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า แต่เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบและเกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในพื้นที่ภาคอีสาน
โดยนายกฯ กล่าวว่า ตนมีภารกิจจำนวนมาก แต่ก็มาที่นี่เพราะเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้ง โดยเฉพาะจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอย่างอุบลราชธานี เพราะน้ำท่วมทุกปีและน้ำท่วมนาน ซึ่งประมาณอีก 10 กว่าวัน ตนจะเดินทางลงพื้นที่อุบลราชธานี ไปดูสถานการณ์น้ำ เนื่องจากทราบว่าได้รับผลกระทบน้ำท่วม
จากนั้นนายกฯ ยังแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมสอบถามถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออกและนิคมอุตสาหกรรมว่าได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่
ด้านประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า จังหวัดอุบลราชธานีแม้น้ำจะท่วม แต่ตัวเมืองไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ขณะนี้มีน้ำ 59% จาก 1,400 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าดีขึ้น สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี น้ำจะมาช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นเดือนตุลาคม เพราะเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีความจุที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด ในส่วนของลุ่มน้ำมูลขึ้นไปปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก
ขณะที่ภาคเหนือ บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำน้อย ช่วงบริเวณบางบาลและบางไทร สำหรับในพื้นที่ภาคกลาง เจ้าพระยาตอนล่าง เนื่องจากฝนตกท้ายเขื่อน เราได้ใช้เขื่อนเจ้าพระยาเป็นตัวทดน้ำ แต่เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย และมีการผันน้ำออกเพื่อส่งน้ำเข้าไปช่วยในพื้นที่การเกษตรที่ยังไม่เก็บเกี่ยวอีกประมาณ 1 ล้านไร่ ไม่ให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ในพื้นที่ภาคอุตสาหกรรม สถานการณ์น้ำไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่จังหวัดอุบลราชธานีน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะการระบายน้ำตรงแก่งสะพือจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะความจริงแล้วจะต้องทำตั้งนานแล้วคือการบายพาสทางน้ำ
จากนั้นนายกฯ เดินเข้าไปยังห้องปฏิบัติการประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อมอบนโยบายว่า ตนมาที่นี่เพราะมีความเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วม ซึ่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้พบกับ สส. จังหวัดอุบลราชธานี หลายท่าน ซึ่งก็มีความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย และขอฝากเฝ้าระวังในทุกจุด และน่าจะหนักหนาอยู่
ขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ก็จะต้องมีการเฝ้าระวังด้วยเหมือนกัน เข้าใจว่าทุกคนทำงานหนัก แต่เรื่องปัญหาน้ำท่วมก็จะมีผลกับเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งจากที่ได้รับฟังสถานการณ์น้ำในเขื่อนก็มีความเป็นห่วง เพราะยังมีน้ำน้อยอยู่ และควบคุมปริมาณน้ำฝนตกไม่ได้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องพายุที่กำลังจะเข้า ตามมาด้วยสถานการณ์ภัยแล้ง หากประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วมก็ฝากให้ดูแลอย่างใกล้ชิด ขอให้ลืมเหนื่อยกันหน่อยในช่วงนี้ เราต้องวางแผนระยะกลางและระยะยาว เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ข้างหน้า
“ผมทราบอยู่ว่าทุกท่านมีภารกิจเยอะ รัฐมนตรีมาใหม่ก็คงเคี่ยวหนักอยู่ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ถ้าหากมีการกำชับเพิ่มขึ้นก็ขอให้เข้าใจกัน เพราะเราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เพราะประชาชนเดือดร้อน ก็ขอโทษแทนรัฐมนตรีด้วยที่เคี่ยวหนัก” นายกฯ กล่าว