วันนี้ (2 ธันวาคม) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
“นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจาก 1-2 วันที่ผ่านมา สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และประชาชนที่ศูนย์พักพิงบางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้านได้แล้ว แต่คาดว่าจะมีฝนตกหนักลงมาอีกในช่วงวันที่ 3-5 ธันวาคมนี้ ซึ่งผู้อำนวยการ ศปช. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมทั้งด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการคมนาคม และอื่นๆ พร้อมเครื่องจักรกล เพื่อช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง” ศศิกานต์ระบุ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 2-4 ธันวาคม 2567 ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่อ่อนไหวต่อการเกิดดินถล่ม ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส (อำเภอจะแนะ อำเภอศรีสาคร อำเภอสุคิริน อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอเมืองนราธิวาส), จังหวัดปัตตานี (อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอกะพ้อ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอแม่ลาน อำเภอยะรัง อำเภอสายบุรี และอำเภอหนองจิก), จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน อำเภอป่าพะยอม อำเภอตะโหมด อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอศรีบรรพต อำเภอกงหรา อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว), จังหวัดยะลา (อำเภอเบตง อำเภอกาบัง อำเภอธารโต อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอรามัน อำเภอเมืองยะลา และอำเภอกรงปินัง) และจังหวัดสงขลา (อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอควนเนียง อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอนาหม่อม อำเภอเมืองสงขลา อำเภอรัตภูมิ อำเภอสะเดา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสิงหนคร และอำเภอระโนด) ยังคงต้องเฝ้าระวังอันตรายจากเหตุดินถล่มไว้ด้วย
“สำหรับการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังประสบอุทกภัย เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ จัดตั้งศูนย์พักพิง จุดอพยพ โรงครัว รถประกอบอาหาร สนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม เร่งแจกจ่ายถุงยังชีพ และช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัย นอกจากนี้ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบินสำรวจสถานการณ์อุทกภัย เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด” ศศิกานต์กล่าว