วันนี้ (21 มีนาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (คกก.ปชด.) โดยมี พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธาน คกก.ปชด. พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ. พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้การต้อนรับ
การเดินทางมาในครั้งนี้ถือเป็นการเยือนกองทัพบกครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมประชุม คกก.ปชด. แก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดตามแนวชายแดน
นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมว่าได้ติดตามการปฏิบัติงาน ย้ำถึงความร่วมมือของทุกฝ่าย และที่ผ่านมาได้จับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก แต่ยอมรับว่าการผลิตยาเสพติดยังมีจำนวนมาก จึงต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปรากฏว่าราคายาเสพติดสูงขึ้นและหายากขึ้น ขอชื่นชมทุกหน่วยงานที่สามารถทำให้ยาเสพติดลดลง สำหรับผู้ที่ติดยาเสพติดก็จะได้รับการบำบัดเพื่อกลับคืนเข้าสู่สังคม
นายกรัฐมนตรียังระบุถึงการสกัดกั้นยาเสพติดทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ว่ายาเสพติดบางประเภท เช่น ยาไอซ์ ยาเค จะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมกับยืนยันว่ามีการทำงานกันอย่างบูรณาการ จึงมีความคืบหน้าและประสบความสำเร็จพอสมควร
ส่วนความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลังพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ถูกหลอกจากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ. ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ และยืนยันว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือ 100% ในขณะที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถประสานงานระหว่าง 2 ประเทศได้ตลอด
นอกจากนี้ยังได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่ามีปัญหาอะไรอีกหรือไม่ จะต้องมีการขอความร่วมมือกับภาคเอกชนด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ดำเนินการได้มากแล้ว แต่ก็อยากให้หมดสิ้นไป
ส่วนข้อสังเกตว่าคนไทยถูกหลอกจากฝั่งปอยเปต แต่รัฐบาลใช้มาตรการเข้มข้นเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมา จังหวัดตากนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่าเข้มข้น ทางกัมพูชาก็พร้อมที่จะเข้มข้นกับเรา และในการทำงานไม่ได้มีการติดขัดปัญหาว่าทางกัมพูชาไม่ร่วมมือ และขณะนี้ก็ทราบต้นตอปัญหามาเยอะแล้ว และกำลังทำให้จบ
ส่วนที่มีคนไทยร่วมขบวนการหลายพันคน แต่ล่าสุดนำออกมาได้แค่ร้อยกว่าคน ทั้งที่เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลกัมพูชาควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ แต่การดำเนินการล่าช้ากว่าชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตากนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือ คนไทยกลุ่มแรกที่นำกลับมาก็ถูกดำเนินคดี และไม่ได้ติดขัดปัญหาอะไร ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ มีการประสานงานอยู่
ด้าน พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในกระบวนการพูดคุยขับเคลื่อน และทางกัมพูชายืนยันว่าจะมีการระดมกวาดล้าง ซึ่งต้องรอดูช่วงเวลา เนื่องจากกัมพูชามีกฎหมายที่จะต้องออกหมายค้น ในการดำเนินการต่างๆ และยืนยันว่าในทางปฏิบัติอย่างไม่พบปัญหาอะไร
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตความสัมพันธ์ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย- กัมพูชา ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า “จะเอาให้ได้เลยไหม”
สำหรับภารกิจของ คกก.ปชด. ชุดนี้จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและการจำหน่ายด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด และเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติของประชาชน โดยจะเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน