วันนี้ (8 กันยายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลได้เปิดตัวแคมเปญ ‘รีเซ็ตประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่’ ภายหลังจากที่รัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 4 ฉบับ
พิธากล่าวว่า เป็นความผิดหวังอีกหนึ่งครั้งที่ไม่สามารถปิดสวิตช์สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยข้อเสนอการตัดอำนาจ ส.ว. เป็นข้อเสนอพื้นฐาน มีความขัดแย้งมากที่สุด และมีความสำคัญกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจากการลงมติเมื่อวานนี้ (7 กันยายน) พบว่ามีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหลายฉบับที่ได้รับความเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง แต่ที่ไม่ผ่านเนื่องจากคะแนนเสียงของ ส.ว. ไม่ถึงตามเกณฑ์ จึงขอเรียกร้องให้ ส.ว. ใช้จิตสำนึกในการไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้า
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน โดยจะล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อทำประชามติถามประชาชนว่าต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนฉบับปี 2560 หรือไม่ ซึ่งหากสามารถรวบรวมรายชื่อได้ก็จะส่งตรงไปยังคณะรัฐมนตรีให้อนุมัติการจัดทำประชามติ เพื่อผ่าทางตันวิกฤตรัฐธรรมนูญ โดยที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ และ ส.ว. ไม่มีอำนาจในการยับยั้งได้ อีกทั้งการจัดทำประชามติสามารถทำพร้อมกับการเลือกตั้งได้เลย เพื่อประหยัดงบประมาณ
พิธากล่าวต่ออีกว่า พรรคก้าวไกลเตรียมพร้อมสู้การเลือกตั้งมาโดยตลอด โดยเฉพาะผู้สมัครทั้ง 400 เขต โดยตั้งเป้าให้ได้ ส.ส. มากกว่าครั้งที่ผ่านมา และหวังให้เป็นพรรคระดับประเทศ และเน้นให้มี ส.ส. เขตทุกภูมิภาค และมากกว่า ส.ส. บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ไม่กังวลเรื่อง ส.ส. ย้ายพรรค เพราะได้มีขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครอย่างเข้มข้นทั้งทัศนคติและอุดมการณ์