วันนี้ (25 เมษายน) ที่สยามพารากอน THE STANDARD จัดงาน THE STANDARD DEBATE: เลือกตั้ง 66 ENDGAME เกมที่แพ้ไม่ได้ ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป โดยมีตัวแทน 10 พรรคการเมืองร่วมประชันวิสัยทัศน์
สำหรับ Round 2: The Grand Battle ดวลวิสัยทัศน์ตัวต่อในคำถาม ‘การเมืองความฝัน vs. การเมืองความจริง’ คุณคิดว่าการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างการเมือง เช่น ปฏิรูปกองทัพ กำจัดรัฐประหาร สามารถทำได้จริงหรือไม่ในวาระ 4 ปี การนำเรื่องนี้มาหาเสียงถือเป็นการขายฝันที่เกินจริงหรือไม่ อย่างที่มีวาทกรรมว่า ‘ฝันถึงดวงดาวแต่ไปได้ไกลแค่ต้นมะพร้าว’
ระหว่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ วิทยา แก้วภราดัย ตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ใช้สิทธิ Challenge
พิธากล่าวว่า จุดแข็งของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือท่านมาจากฝ่ายความมั่นคง เคยสัญญาว่าจะปฏิรูปกองทัพให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีการกราดยิงที่โคราช คำถามคือจนถึงวันนี้ปฏิรูปกองทัพถึงไหนแล้ว
“การกำจัดรัฐประหาร อยากได้ยินจากตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า เงื่อนไขที่ว่าประชาชนจะขัดแย้งหรือไม่ขัดแย้ง จะยุติวงจรการรัฐประหารจากประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” พิธากล่าว
ด้านวิทยากล่าวว่า การปฏิรูปกองทัพนั้นตนเองไม่ขัดข้อง ถ้าเราสามารถทำกองทัพให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เริ่มต้นจากการฝันว่าไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ไม่ต้องเกณฑ์ก็ได้ เราก็ต้องการทหารที่สมัครใจ แต่ปัญหาคือเรามีอัตราจ้างที่เพียงพอที่จะจ้างคนไปตายได้ เรามีเงินเดือนเพียงพอที่จะตอบแทนเขาหรือไม่ และประเทศเราร่ำรวยพอก็ไม่ต้องเกณฑ์ เรามีทหารอาชีพที่เราต้องการเอามาฝึกเลยครับ ก็ฝึกซ้อมในระยะเวลา 5 ปี 10 ปี เมื่อถึงเวลาก็ไปออกรบ แต่เราต้องมีค่าตอบแทนที่จูงใจเขาจริงๆ และประเทศเราอยู่ในสภาวะอย่างนั้นหรือไม่
ส่วนเรื่องการปฏิรูปการรัฐประหารนั้น ตนคิดว่าทุกครั้งการรัฐประหารหลายครั้งที่ผ่านมา เจอการรัฐประหารมาตั้งแต่พิธายังไม่เกิดด้วยซ้ำ และตนเองก็เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ถูกยิงจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 นักศึกษาที่อยู่ในยุคนั้นทุกครั้งที่มีการรัฐประหาร เกิดจากการต่อต้านรัฐเผด็จการจริงๆ แต่ช่วงหลังที่เรามีการรัฐประหารนั้นมีการโดนเพียงข้อหาเดียวคือนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชัน
วิทยากล่าวต่อไปว่า ตนไม่ได้ขัดข้องเรื่องการปฏิรูปกองทัพ แต่ความคิดเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหารนั้น เราพร้อมที่จะหาคนมาเป็นทหารไหม ถ้าพิธายอมรับว่า ประเทศนี้ต้องปฏิรูปกองทัพก็จบ ถ้าเราพร้อมเมื่อไรหาเงินมาได้มาสร้างกองทัพการสมัครใจเข้ามาอันนั้นเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่ไม่ใช่การปฏิเสธการไม่มีกองทัพ
“เราก็ฝันถึงดวงดาว แต่ไปได้แค่ต้นมะพร้าว คนที่รัฐประหารมาได้ 2 ทางคือ มาด้วยปากกระบอกปืน และสอง มาด้วยเงินทุนกับปากกระบอกปืนที่ยึดได้จากอำนาจรัฐ และเชื่อหรือไม่ว่าคนที่รวยที่สุดมีโอกาสชนะ ส.ส. มากที่สุด ส่วนคนจนจะมีโอกาสยาก หลายครั้งหลายหนเราก็เจอกับปัญหาอย่างนั้น และครั้งนี้ด้วย” วิทยากล่าว
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ขอใช้ Challenge กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องจบคือวงจรอุบาทว์ของการรัฐประหารยึดอำนาจในประเทศไทย จะมาบอกว่ารัฐประหารเพราะนักการเมืองโกง ต้องถามว่าคนดีที่มารัฐประหารไม่โกงหรืออย่างไร วันนี้นักการเมืองที่ประชาชนเลือกมา ถึงเวลาถ้าเขาทำชั่ว เขาโกง ประชาชนจะลงโทษเขาเอง ไม่มีความจำเป็นต้องมีคนดีลากปืนมารัฐประหาร ขอให้ประชาธิปไตยของเราพัฒนาด้วยตนเอง
“วันนี้ไทยสร้างไทยไม่มี ส.ส. สักคนเพราะยังไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง เป็นพรรคใหม่ แต่เราได้ร่างกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว คืนอำนาจให้กับประชาชน โดยการคืนอำนาจให้ประชาชนเลือก สสร. มาร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ต้องไม่มาจากปลายกระบอกปืนของเผด็จการ แต่ต้องมาจากปลายปากกาของประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
