สมาคมโรงแรมภูเก็ต (Phuket Hotels Association – PHA) ร่วมกับ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) ได้เผยแพร่รายงานผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่อการพัฒนาโรงแรมในภูเก็ต โดยระบุว่า 69% ของโรงแรมในขณะนี้ถูกชะลอหรือถูกระงับ ขณะที่ข้อมูลจากท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ระบุว่า ผู้โดยสารขาเข้ามีจำนวนลดลงถึง 65% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมของปีนี้
“ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวภูเก็ตกำลังเข้าขั้นวิกฤต” สมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมกับระบุว่าสิ่งที่ชัดเจนคือห้องพัก 86,000 ห้องในสถานประกอบการที่พักที่จดทะเบียนในภูเก็ตไม่สามารถคุ้มทุนได้จริง หรือแม้กระทั่งรักษากระแสเงินสดให้เป็นบวกต่อนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเท่านั้น (Domestic Tourism)
“หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล หรือไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา จะสร้างความสูญเสียอย่างมาก รวมถึงจะมีการว่างงานถึง 50,000 ตำแหน่งในภาคโรงแรมในปีนี้”
แอนโทนี ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าวว่า ตัวเลขการเข้าพัก (Occupancy) โรงแรมในภูเก็ตตอนนี้เป็นเลขหลักเดียว อุปสงค์การท่องเที่ยวภายในประเทศไม่มากพอที่จะสามารถป้องกันการสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินของเจ้าของและผู้ประกอบการลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงขอสนับสนุนการเปิดเมือง (Reopening) ที่ปลอดภัย ปฏิบัติได้จริง และมีกลยุทธ์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ประการแรก ต้องมีการเจรจาเชิงรุกระหว่างภาครัฐและเอกชนมากขึ้น ต้องดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ประการที่สอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องพิจารณามาตรการเงินกู้ระยะสั้นเพื่อช่วยเหลือโรงแรมในการดำเนินงาน เพื่อรับมือกับพายุเศรษฐกิจและรักษาตำแหน่งงานในภาคธุรกิจ เพราะหากปราศจากการปกป้องและดูแลพนักงานก็จะไม่มีการฟื้นตัวเช่นกัน
ในแถลงการณ์ดังกล่าวยังได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดตัวโครงการการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ‘ภูเก็ตโมเดล’ (Phuket Model) แต่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ซึ่ง บิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ระบุว่า ความล้มเหลวของประเทศไทยในการเปิดตัวภูเก็ตโมเดล ทำให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมการบริการของภูเก็ต
“ผลกระทบแบบโดมิโนไม่เพียงแต่กับโรงแรมและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนา สิ่งนี้จะก่อให้เกิดการพังทลายของงานในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ การค้าปลีก และในที่สุดก็จะปรากฏในลำดับชั้นของผู้บริโภค สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะเลวร้ายลง เนื่องจากโรงแรมที่ดำเนินกิจการยังคงต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างต่อเนื่อง”
“ดังนั้น แผนการเปิดเมือง (Reopening) ไม่เพียงแต่จะต้องมีการวางแผนอย่างดี แต่ต้องเอาชนะใจคนไทยให้ได้ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ ในขณะที่เกาะนี้อาจถือเป็นกุญแจสำคัญของไทยในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว แต่ประเด็นที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ การที่โรงแรมจะต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขาในสภาพปัจจุบันจะทำได้อย่างไร”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวในภูเก็ตเห็นว่า สถานการณ์ของโรงแรมในภูเก็ตยังคงมีการโต้เถียงกันอย่างมาก และการขาดความเห็นพ้องต้องกันในระดับชาติและระดับท้องถิ่นเกี่ยวกับโปรแกรม Safe and Sealed (การพักระยะยาวที่ปลอดภัย) ในขณะที่ ธปท. ออกคำเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างหนัก ส่งผลให้ช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงของภูเก็ตยังคงมีความท้าทายอยู่มาก
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์