พลภูมิตกเป็นจำเลยในคดีที่ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดว่าจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยเป็นรายการใช้บัตรเครดิตประมาณ 2.2 แสนบาท และเงินฝากในบัญชียอดรวมประมาณ 1.6 หมื่นบาท ซึ่งต่อมาได้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
สำหรับเหตุผลหลักที่ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีนี้ เนื่องจาก ป.ป.ช. ส่งฟ้องตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ 5 ปีไม่ทัน ทำให้การดำเนินคดีทุกอย่างขาดอายุความ
ก่อนหน้านี้เขายืนยันความบริสุทธิ์และพร้อมที่จะน้อมรับต่อคำพิพากษาของศาล ขณะที่ในวันนี้พลภูมิเปิดใจระบุว่าเมื่อผลคำพิพากษาออกมาแบบนี้ ต้องบอกว่าตนเองก็มีความสุขมาก เพราะจะได้มีโอกาสทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนต่อ ขอขอบคุณพ่อแม่ ประชาชน ผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้โอกาสและให้กำลังใจ จากนี้ตนจะทำหน้าที่เป็น ส.ส. ต่อไป