วันนี้ (21 กรกฎาคม) ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรค, ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวหลังจากที่พรรคก้าวไกลแถลงต่อสาธารณะ โดยมอบภารกิจจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบ เนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง
“เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุด หากผลดำเนินการเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว” นพ.ชลน่านกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การหาเสียงเพิ่มจะพูดคุยกับพรรครัฐบาลเดิมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะต้องหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในการประชุมวันนี้ หลังจากนั้นจึงจะค่อยดำเนินการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะต้องทบทวน MOU ที่ได้ทำร่วมกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า MOU เป็นบันทึกความเข้าใจระหว่าง 8 พรรคร่วม ระหว่างนี้เรากำลังอยู่บนพื้นฐานการพูดคุยระหว่าง 8 พรรค ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะอยู่ในการประชุมหารือวันนี้ เพราะเป้าหมายอยู่ที่การเพิ่มเสียงให้ได้ 375 เสียง ฉะนั้นหนทางใดที่จะต้องใช้เพื่อการเพิ่มเสียงได้และไม่สอดคล้องกับ MOU ก็จะต้องมาหารือกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 27 กรกฎาคม จะมีการเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เลยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นกระบวนการที่พรรคเพื่อไทยต้องมาดำเนินการภายในพรรค ซึ่งส่วนหนึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคได้ทำหน้าที่เรื่องนี้ ได้มอบหมายให้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นผู้ดำเนินการแทน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคในวันที่ 26 กรกฎาคม เวลา 17.00 น.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าการโหวตจะมีผลออกมาซ้ำรอยเดิมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นสิ่งที่เรานำมาเป็นโจทย์หลักในการดำเนินการแสวงหาเสียงเพิ่ม ดังนั้นกลไกที่จะใช้ในการแก้ปัญหาเพื่อให้ได้มาซึ่ง 375 เสียง ก็ต้องมีการเจรจากันทั้งหมด
ด้านภูมิธรรมกล่าวถึงมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ว่า วันนี้ที่จะหารือถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อให้เห็นปัญหาตรงกันว่าขณะนี้ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้คืออะไร มีมาตรา 112 เป็นประเด็นหรือไม่ รวมทั้งจะได้ความเห็นจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
ภูมิธรรมกล่าวว่า สิ่งสำคัญต้องมองว่ามีประเด็นปัญหาอะไรและต้องฝ่าปัญหาอย่างไร ยืนยันว่าเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อออกจากสภาพเดิมๆ เรารอมา 2 เดือนแล้ว เราจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เป้าหมายของเราคือจะต้องได้นายกฯ ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ให้ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โจทย์ของพรรคก้าวไกลที่แถลงวันนี้คือประชาชนต้องการเปลี่ยนขั้วการเมือง หากเสียงไม่พอจะทำความเข้าใจกับพรรคก้าวไกลอย่างไรในการไปหาเสียงเพิ่มจากฝ่ายต่างๆ ภูมิธรรมกล่าวว่า คงต้องคุยกันว่าจะทำอย่างไร หากยืนที่ 312 เสียงเหมือนเดิมเราไม่ขัดข้อง แต่ต้องบอกให้ชัดเจนว่าจะหาเสียงเพิ่มจากไหน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของ ส.ว. ที่ระบุว่า หากมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลจะไม่ยกมือสนับสนุน ภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ขอให้เราทำงานก่อน ที่เราเร่งวันนี้เพราะเราต้องการให้มีเวลามากพอในการให้ได้นายกฯ ในวันที่ 27 กรกฎาคม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะหารือกับพรรคก้าวไกลอย่างไร หลังพรรคก้าวไกลไม่มีท่าทีลดเพดานเรื่องมาตรา 112 ขณะที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย ภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องคุยตรงไปตรงมาว่าขณะนี้อะไรคือปัญหา แล้วจะมีหนทางแก้ไขอย่างไร ถ้าเป็นเรื่องมาตรา 112 ต้องคุยกับพรรคก้าวไกลว่าตราบที่เราจะไปต่อและเป็นรัฐบาลให้ได้นั้น ปัจจัยเงื่อนไขที่เป็นปัญหากับพรรคไหน พรรคนั้นต้องเป็นคนตอบว่าจะคลี่คลายปัญหาอย่างไร ส่วนพรรคก้าวไกลจะไปต่อกับ 8 พรรคหรือไม่นั้น เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ อยู่ที่การหารือกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันนี้
“วันนี้โจทย์เปลี่ยน เราคงต้องทำหน้าที่ใหม่ เพราะคราวที่แล้วเราทำหน้าที่หาเสียงให้พรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำ แต่วันนี้ต้องคุยใหม่ เราจะต้องเริ่มการพูดคุยอย่างเป็นทางการในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล” ภูมิธรรมกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากโหวตชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยไม่ผ่าน พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการอย่างไรต่อ ภูมิธรรมกล่าวว่า เราตั้งใจจะทำให้ผ่าน จึงไม่มีคำว่าถ้า และต้องทำอย่างสุดความสามารถให้บรรลุ เราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้