×

แพทองธาร ประกาศหมดเวลาหน้ากากคนดี ต้องคนเก่งบริหารประเทศหลุดพ้นความจน เศรษฐา ขออาสานำพาความเจริญสู่ ปชช.

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2023
  • LOADING...

วันนี้ (23 มีนาคม) พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัย ‘อยุธยา คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ที่ตลาดน้ำอโยธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, เศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, จาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ จิรทัศ ไกรเดชา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ได้แก่ อัณณพ อารีย์วงศ์สกุล, สุรเชษฐ์ ชัยโกศล, องอาจ วชิรพงศ์, อาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ท่ามกลางประชาชนเข้ามาฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่เกือบ 20,000 คน

 

นพ.ชลน่านกล่าวว่า รายได้ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงเป็นลำดับ 3 ของประเทศ รายได้ต่อคนสูงเป็นลำดับ 6 ของประเทศ โดยมีรายได้อยู่ที่ 490,000 บาทต่อปี หรือเดือนละ 40,000 บาท แต่ในความเป็นจริงเมื่อได้สอบถามชาวอยุธยาพบว่า ไม่มีใครมีรายได้ถึง 40,000 บาท ปัจจุบันได้ค่าแรงแค่ 300-400 บาทเท่านั้น จึงมีความสงสัยถึงที่มาของตัวเลขดังกล่าว เหตุใดจึงมีรายได้จริงต่ำกว่า 20,000 บาท ดังนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยเข้ามาจะทำให้พี่น้องมีรายได้ขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันให้ได้ และครอบครัวไหนมีเงินรายได้ต่อครัวเรือนต่ำกว่า 20,000 บาท เราจะเติมเงินในกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล กระตุ้นเศรษฐกิจ

 

“เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ พาพี่น้องคนไทยออกจากไอซียูให้ได้ เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคนทั้งพรรคเพื่อไล่ประยุทธ์ออกไป เอาอนาคตกินดีอยู่ดี รายได้ที่ดี อนาคตลูกหลานได้เรียนหนังสือกลับมา” นพ.ชลน่านกล่าว 

 

แพทองธารกล่าวว่า อยุธยาเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ พี่น้องประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรมายาวนาน แต่กลับเป็นหนี้เป็นสินมากมาย พรรคเพื่อไทยจึงขอนำเสนอนโยบายที่จะแก้ไขชีวิตความเป็นอยู่ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งการนำเทคโนโลยีการเกษตรเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของพี่น้องเกษตรกรให้เหนื่อยน้อยลง แต่มีรายได้มากขึ้น เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนเหนื่อยมาพอแล้ว พรรคเพื่อไทยจึงนำเสนอนโยบายดีๆ มากมาย อย่าง ‘ขึ้นค่าแรง 600 บาท’ ที่เพื่อไทยจะทำให้ได้ก่อนปี 2570 และทำได้แน่นอน รวมถึงขออาสาให้พรรคเพื่อไทยเป็นเซลส์แมน นำสินค้าเกษตรไปขายในตลาดทั่วโลกให้พี่น้องประชาชน

 

“พอกันทีกับปัญหาความยากจน ดั่งคำกล่าวอยุธยาไม่สิ้นคนดี แต่วันนี้เราไม่ต้องการหน้ากากคนดี เราต้องการคนเก่งเข้ามาบริหารประเทศ คืนชีวิตที่กินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะทำทันทีหลังมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ขอโอกาสชาวอยุธยาเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัด” แพทองธารกล่าว

 

เศรษฐากล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีโบราณสถานมากมาย มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แสดงว่าการท่องเที่ยวน่าจะดี แต่เพราะผู้นำที่ไร้สมรรถภาพ ทำให้การท่องเที่ยวตกต่ำ รายได้หดหาย ซ้ำรัฐบาลยังไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาของประเทศชาติได้ อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด เพื่อไทยก็ไม่สิ้นนโยบายดีๆ ฉันนั้น นับตั้งแต่ไทยรักไทยจนมาถึงเพื่อไทย เราใช้นโยบายนำพาความเจริญมาให้พี่น้องประชาชนโดยตลอด ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่ดีมาเสนอ 3 นโยบาย ได้แก่ นโยบายเติมเงิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน นโยบายเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปใช้จ่ายในพื้นที่ท้องถิ่น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะโคม่าให้ฟื้นคืนชีวิต ปั๊มหัวใจคนไทยให้มีศักดิ์ศรีและกินดีอยู่ดีอีกครั้ง เพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าในเวลา 4 ปี และยังมีทางออกสำหรับ PM2.5 ที่ส่วนหนึ่งมาจากการเผา

 

“คนอยุธยาส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร มีอาชีพหลักคือทำนา ผมมาอยุธยาเป็นที่แรกหลังเข้ามาสู่เวทีการเมือง ได้มาฟังปัญหาการทำนา นำไปปรึกษาหารือทีมเศรษฐกิจ ปัญหาข้อหนึ่งพบว่ามีเรื่อง PM2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่ทั่วประเทศ มีคนว่าเพราะอยุธยาทำนาเสร็จก็เผา ทำให้เกิด PM2.5 พรรคเพื่อไทยจะช่วยพี่น้องด้วยการใช้นวัตกรรมทำให้ไม่ต้องเผา แต่จะใช้จุลินทรีย์ทำลายซากข้าวแทน ถ้าอยากได้นโยบายดีๆ 14 พฤษภาคมนี้ โปรดเลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 5 เขต ให้แลนด์สไลด์ทั้งอยุธยา” เศรษฐากล่าว

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising