×

PewDiePie ราชายูทูเบอร์ที่มีผู้ติดตาม 100 ล้านบัญชี

30.08.2019
  • LOADING...
PewDiePie

1. PewDiePie กลายเป็นแชนแนลที่ 3 ในยูทูบ (ต่อจาก YouTube Music Channel และ T-Series) ที่มียอดผู้ติดตามแตะหลัก 100 ล้านบัญชี แต่ถ้านับเฉพาะ ‘คน’ ที่ผลิตคอนเทนต์ด้วยตัวเองจริงๆ เขาคือยูทูเบอร์คนแรกที่ไปถึงระดับนี้ได้ 

 

2. PewDiePie มีชื่อจริงว่า เฟลิกซ์ เคลเบิร์ก จากเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ที่ใช้ชีวิตวัยเด็กไปกับการวาดรูปตัวละครเกมที่เขาชื่นชอบอย่างมาริโอ้และโซนิก และมักจะโดดเรียนไปขลุกอยู่กับเพื่อนๆ ที่ร้านเกมอยู่บ่อยๆ ด้วยความสนใจเรื่องเกมและคอมพิวเตอร์ เขาเลือกเรียนต่อในคณะ Industrial Economics and Technology Management ที่มหาวิทยาลัยชาร์ลสเมอร์ส พร้อมกับสมัครแอ็กเคานต์ยูทูบ PewDiePie ขึ้นมาในปี 2010

 

3. ความสนใจในการเรียนของเขาค่อยๆ ลดระดับลง สวนทางกับความสนใจในการสร้างคอนเทนต์โลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาทำรายการในยูทูบแบบเต็มตัวในปี 2011 โดยหาทุนจากการขายงานศิลปะที่เขาสร้างขึ้นด้วยโปรแกรม Photoshop ไปพร้อมๆ กับการเป็นพนักงานขายฮอตด็อก ซึ่งเขาออกมาบอกความรู้สึกในตอนหลังว่าการตัดสินใจแบบนั้นเป็นความคิดที่โง่ที่สุด

 

4. คอนเทนต์ในช่วงแรกๆ ของ PewDiePie ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งโชว์ทักษะด้านการวาดรูปและ Photoshop ไลฟ์สไตล์เวลาอยู่กับเพื่อนๆ และการแคสต์เกมที่ยังไม่มีคนบุกตลาดตรงนี้เท่าไรนัก ด้วยบุคลิกที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา เสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ ทักษะการเล่าเรื่องเป็นเลิศ มีอารมณ์ขัน (หลายครั้งก็เข้าขั้นหยาบคาย) 

 

แต่ที่โดดเด่นมากๆ คือการแคสต์เกมแนวสยองขวัญ (หรือเกมอะไรก็ได้ที่ออกแอ็กชันโวยวายเยอะๆ) ในซีรีส์ Let’s Play รวมทั้งความขยันที่ลงคลิปให้คนดูแทบทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เขามียอดผู้ติดตามถึง 1 ล้านบัญชีในปี 2012

 

5. จากนั้นยอดผู้ติดตามของ PewDiePie ก็เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด แตะหลัก 5 ล้านบัญชีในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ใช้เวลาแค่ 5 เดือนต่อมาผู้ติดตามก็เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านบัญชี และเพิ่มเป็น 15 ล้านบัญชีในเดือนพฤศจิกายน จนตอนนี้ยอดผู้ติดตามของเขาแซงแชมป์เก่าอย่าง Smosh และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอย่างเต็มตัว 

 

มีรายงานว่าในทุกๆ 1.037 วินาทีจะมีผู้ติดตาม PewDiePie เพิ่มขึ้น 1 บัญชี จนในปี 2014 ยอดผู้ติดตามของเขาก็แตะหลัก 25 ล้าน และเพิ่มเป็น 50 ล้านในเดือนธันวาคม ปี 2016 แน่นอนว่าเขาเป็นคนแรกที่ทำแบบนั้นได้

 

6. อิทธิพลของ PewDiePie ในช่วงนั้นเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่ ชนิดที่เรียกว่าลองเขาได้เล่นเกมไหน เกมนั้นจะต้องดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืน ถ้าพอจะจำได้กันได้ Flappy Bird เกมนกข้ามท่อที่ทำให้คนหัวร้อนกันทั้งโลกก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจาก PewDiePie แคสต์เกมนี้ไปไม่นาน 

 

หรืออย่าง Surgeon Simulator เกมจำลองการผ่าตัด ก็ได้ตั้งชื่ออวัยวะภายในของเอเลี่ยนว่า Pewdsball เพื่อขอบคุณ PewDiePie (และแคสเตอร์อีกหลายคน) ที่ช่วยทำให้เกมนี้โด่งดังขึ้นมาในปี 2013

 

7. แต่หลังพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ไม่ถึงเดือน ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2017 PewDiePie ก็ถูกมรสุมลูกใหญ่เล่นงานอย่างหนัก หลังจากโพสต์คลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาต่อต้านชาวยิวและสนับสนุนการกระทำของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จำนวน 9 ครั้ง 

 

ที่รุนแรงที่สุดคือวิดีโอที่มีข้อความว่า Death to all Jews (พวกยิวทั้งหลายไปตายซะ) และ Hitler did absolutely nothing wrong. He was willing to act upon God’s Will (ฮิตเลอร์ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาแค่ทำตามประสงค์ของพระเจ้าเท่านั้น) จนหลายคนคิดว่าเขาคือสมาชิกของลัทธินีโอ-นาซี (กลุ่มคนที่เคลื่อนไหวและสนับสนุนให้ลัทธินาซีกลับมาอีกครั้ง) ด้วยซ้ำ 

 

ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนทำวิดีโอดังกล่าวขึ้นมาเอง แต่ PewDiePie ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเขาได้ว่าจ้างให้กลุ่มคนใน Fiverr เว็บไซต์รวมฟรีแลนซ์ที่รับจ้างทำทุกอย่างทำวิดีโอนี้ขึ้นมา ภายหลัง PewDiePie ออกมาขอโทษ โดยยอมรับว่าเป็นมุกตลกที่น่ารังเกียจ และตัวเขาไม่คาดคิดว่าคนที่เขาจ้างจะทำคลิปชูป้ายข้อความเหล่านั้นขึ้นมาจริงๆ 

 

ผลจากการกระทำครั้งนั้นทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามกับตัวตนและทัศนคติของ PewDiePie รวมทั้งถูกยกเลิกสัญญาจาก Maker Studio บริษัทผลิตคอนเทนต์ยูทูบในเครือของดิสนีย์ที่เป็นผู้สนับสนุนเขามาตั้งแต่ปี 2013

 

8. หลังจากนั้น PewDiePie ก็กลับมาทำคอนเทนต์ของตัวเองตามปกติ แต่ลดดีกรี ‘ความแรง’ ของคอนเทนต์ลงอย่างเห็นได้ชัด จนช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2018 ที่มีคนติดตาม PewDiePie ถึง 66 ล้านบัญชี เกิดหนึ่งในเหตุการณ์ที่ ‘สนุก’ ที่สุดในโลกออนไลน์ เมื่ออยู่ๆ ก็มีคอมเมนต์ของแฟนคลับที่พูดถึงแชนแนลปริศนา T-Series ที่มีคนติดตาม 60 ล้านบัญชีปรากฏตัวขึ้นมา 

 

PewDiePie เริ่มทำคอนเทนต์ในซีรีส์ T-Serie Exposed อ่านคอมเมนต์ที่พูดถึงแชนแนลคู่แข่งจนแฟนคลับเริ่มตั้งแคมเปญ Subscribe to PewDiePie เพื่อชวนให้ชาวยูทูบทุกคนกดติดตาม PewDiePie เพื่อรักษาตำแหน่ง ‘ราชา’ ของเขาเอาไว้ให้นานที่สุด

 

9. รวมทั้ง PewDiePie เองก็สนุก โดยร่วมมือกับวงดนตรี Party In Backyard ทำมิวสิกวิดีโอเพลง Bitch Lasagna ที่มีเนื้อหาล้อเลียนว่าแชนแนล T-Series ใช้บอตเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม และมีแฟนคลับรับลูกเข้าไปถล่มคอมเมนต์ใส่ช่อง T-Series จำนวนมาก แต่ที่เลวร้ายคือเหตุการณ์บานปลายจนมีการคอมเมนต์เชิง ‘เหยียด’ เชื้อชาติคนอินเดีย และกลายเป็นสงครามเพิ่มยอดผู้ติดตามระหว่างแฟนคลับทั้งสองแชนแนลที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

10. โดยเฉพาะฝั่งแฟนคลับ PewDiePie ที่ลงทุนเช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพื่อเชิญชวนให้คนในสหรัฐฯ กดติดตาม PewDiePie มากขึ้น ไปจนถึงมีคนใช้เทคนิคมืดด้วยการแฮกปรินต์เครื่องถ่ายเอกสารข้อความสนับสนุน PewDiePie จำนวนมาก เจาะเข้าระบบ Chromecast และ Android TV ไปจนถึงแฮกเว็บไซต์ของ The Wall Street Journal ที่เคยโจมตี PewDiePie เรื่องเหยียดเชื้อชาติยิวให้ออกจดหมายขอโทษ PewDiePie และชวนให้คนมาสนับสนุนเขาแทน

 

11. ตัว PewDiePie เองที่เริ่มกลับมาเล่นเกม Fortnite, Minecraft, Roblox ฯลฯ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม (เขาโดนแบนไม่ให้เล่นเกมนี้อยู่ช่วงหนึ่ง) และสงครามผู้ติดตามยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่แฟนคลับ PewDiePie เริ่มต้านทานไม่ไหว T-Series ขึ้นแซง PewDiePie เป็นครั้งแรกด้วยจำนวนผู้ติดตาม 86 ล้านบัญชี ก่อนที่ PewDiePie จะใช้เวลา 8 นาทีในการแซงกลับ

 

12. หลังจากนั้นการแข่งขันก็ขับเคี่ยวกันอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อกลางเดือนมีนาคมเกิดเหตุกราดยิงที่มัสยิดแห่งหนึ่งในประเทศนิวซีแลนด์ โดยคนร้ายได้พูดขึ้นมาว่า Subscribe to PewDiePie ก่อนเริ่มก่อเหตุ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 คนจากเหตุการณ์นี้ 

 

ทำให้ PewDiePie ต้องออกมาโพสต์วิดีโอบอกว่าถึงเวลาที่ทุกคนควรจบแคมเปญนี้ได้แล้ว เพราะเขารู้สึกแย่มากที่มีคนใช้แคมเปญนี้ในการก่อเหตุร้าย รวมทั้งมีมบนอินเทอร์เน็ตทั้งหมดที่ถูกใช้ในลักษณะเหยียดเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์ก็ควรจะยุติลงทั้งหมด ทำให้กระแสการแข่งขันเริ่มลดลง

 

13. จนในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาที่ยอดผู้ติดตามของ T-Series เพิ่มขึ้นเป็น 95 ล้านบัญชี ทิ้งห่าง PewDiePie ถึง 1 ล้านบัญชี และไม่มีทีท่าว่า PewDiePie จะตีตื้นขึ้นมาได้ ก่อนที่ T-Series จะขึ้นแท่นแชนแนลที่มีผู้ติดตาม 100 ล้านบัญชีในวันที่ 29 พฤษภาคม 2019 (ปัจจุบันมียอดผู้ติดตาม 110 ล้านบัญชี)

 

14. หลังจากนั้น PewDiePie ก็ยังใช้ชีวิตและสร้างคอนเทนต์ของตัวเองตามปกติโดยไม่ต้องตั้งเป้าแข่งขันกับใครอีก และเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานกับ มาร์เซีย แฟนสาวอดีตยูทูเบอร์ชาวอิตาเลียนที่คบหาดูใจกันมานาน 8 ปี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา 

 

ก่อนที่จะสร้างปรากฏการณ์ขึ้นแท่นเป็นยูทูเบอร์ที่มีคนติดตาม 100 ล้านบัญชีในวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่น่าจะทำให้ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขามากกว่าในช่วงที่เคยก้าวร้าว รุนแรง และทำทุกอย่างเพื่อ ‘แข่งขัน’ รักษาความเป็นหนึ่งมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี 

 

ภาพ: Suhaimi Abdullah / Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising