×

เปโดร ซานเชซ นายกฯ หน้าหล่อ ผู้ไม่นับถือศาสนา กับอนาคตของสเปนและกาตาลุญญาที่ยังรอคำตอบ

05.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MINS READ
  • ผู้นำพรรคฝ่ายค้านสเปนประสบผลสำเร็จในการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี กรณีลูกพรรคพัวพันคดีทุจริตคอร์รัปชัน กวาดคะแนนเสียงจากพรรคขนาดเล็กเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ส่งผลให้นายราฆอยเป็นนายกรัฐมนตรีสเปนคนแรกที่ถูกถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งตามกระบวนการประชาธิปไตย นับตั้งแต่ปี 1975
  • นายเปโดร ซานเชซ ผู้นำคนใหม่ของสเปนได้รับฉายาว่า ‘นายกฯ หน้าหล่อ’ และเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสเปนที่เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยปราศจากการใช้คัมภีร์ไบเบิลและไม้กางเขนในการประกอบพิธี เนื่องจากไม่นับถือศาสนาและไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า
  • นักวิชาการไทยชี้ “ปัญหาวิกฤตสเปนและกาตาลุญญาจะยังไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไข การขาดเสียงสนับสนุนจะทำให้การเมืองสเปนเข้าสู่สภาวะ Deadlock และนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ในที่สุด”

เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการเมืองสเปน นายกรัฐมนตรีมารีอาโน ราฆอย ผู้นำรัฐบาลที่มาจากพรรคอนุรักษนิยม (PP) ผู้คัดค้านการแบ่งแยกดินแดนของแคว้นกาตาลุญญาและบริหารประเทศมานานกว่า 7 ปี ต้องก้าวลงจากอำนาจ หลังรัฐสภาสเปนลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จากกรณีปมทุจริตของอดีตลูกพรรคและมีมติให้เขาพ้นจากตำแหน่งในที่สุด

 

 

แกนนำคนสำคัญที่เดินหน้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไม่ใช่ใครคือ นายเปโดร ซานเชซ (Pedro Sanchez) หัวหน้าพรรคสังคมนิยม (PSOE) วัย 46 ปี คู่ปรับคนสำคัญของนายราฆอย ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้แก่เขามาแล้วถึง 2 ครั้งในปี 2015 และปี 2016

 

การลงมติไม่ไว้วางใจดังกล่าว ทวงถามความรับผิดชอบจากนายราฆอยในฐานะผู้นำพรรคและหัวหน้ารัฐบาล หลังอดีตเหรัญญิกของพรรคถูกตัดสินจำคุกนานถึง 33 ปี ในข้อหาฟอกเงิน รับสินบน และทุจริตในคดีเงินภาษี ด้านนายซานเชซซึ่งมีที่นั่งในรัฐสภาเพียง 84 ที่นั่ง จากทั้งหมด 350 ที่นั่ง สามารถกวาดคะแนนเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ ไปได้รวม 180 เสียงต่อมติคัดค้าน 169 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง

 

ทำให้นายราฆอย หนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของสเปนต้องลงจากอำนาจ นับเป็นนายกรัฐมนตรีสเปนคนแรกที่รัฐสภามีมติถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งตามกระบวนการประชาธิปไตย นับตั้งแต่ระบอบเผด็จการทหารของนายพลฟรังโกสิ้นสุดลงเมื่อปี 1975 โดยไม่ใช้วิธีการรัฐประหาร

 

 

เปโดร ซานเชซ คือใคร?

นายซานเชซเป็นอดีตนักเศรษฐศาสตร์และนักกีฬาบาสเกตบอลตัวท็อปของมหาวิทยาลัย ที่ตัดสินใจหันมาลงเล่นในเกมการเมือง เขาเป็นอดีตสมาชิกสภาเมืองมาดริดตั้งแต่ปี 2004 ก่อนที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค PSOE เมื่อปี 2014 เพื่อลงสู้ศึกชิงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลครั้งแรกในปีถัดมา

 

นอกเหนือจากความรู้ความสามารถและพื้นฐานทางสังคมแล้ว รูปลักษณ์ของนายซานเชซก็ไม่เป็นสองรองใคร จนเขาได้รับฉายาว่า ‘Mr. Handsome’ ที่ตอนนี้อาจจะต้องยกให้เขาเป็น ‘นายกฯ หน้าหล่อ’ ของสเปน ที่เพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งใหม่นี้ไปหมาดๆ

 

 

ผู้นำคนใหม่ของสเปนพึ่งเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 แห่งสเปน เพื่อสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) และเนื่องจากนายซานเชซเป็นบุคคลที่ไม่นับถือศาสนา ไม่ศรัทธาในพระเจ้า (Atheist) จึงทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสเปนที่เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยปราศจากการใช้คัมภีร์ไบเบิลและไม้กางเขนในการประกอบพิธี

 

ด้วยบทบัญญัติภายใต้รัฐธรรมนูญสเปนที่ระบุว่า พรรคการเมืองใดก็ตามที่ยื่นเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีสำเร็จ จนเป็นเหตุให้ผู้นำรัฐบาลเดิมถูกขับให้พ้นจากตำแหน่ง พรรคการเมืองนั้นจะต้องเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศแทน โดยนายซานเชซจะจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นและบริหารประเทศต่อไปอีก 2 ปี ก่อนที่จะครบวาระการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2020 ตามกำหนดการเดิม

 

อนาคตของสเปนและกาตาลุญญาที่ยังรอคำตอบ

หากเราทำความรู้จักสเปนในหลากหลายแง่มุม โดยเฉพาะบริบททางประวัติศาสตร์ เราจะพบว่า ประเทศแห่งนี้ผูกพันกับศาสนจักรเป็นอย่างมาก ชาวสเปนประกาศตนเป็นคริสต์ศาสนิกชนที่ดีและนำศาสนาคริสต์ไปเผยแพร่ยังดินแดนอาณานิคมต่างๆ ทั่วโลก การที่ผู้นำประเทศคนใหม่เป็นผู้ไม่นับถือศาสนา ไม่เชื่อมั่นในพระเจ้า จะส่งผลต่อการบริหารประเทศหรือแรงสนับสนุนของประชาชนชาวสเปนหรือไม่ อะไรเป็นอุปสรรคสำคัญที่ผู้นำคนใหม่ต้องพบเจอ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำทั้งของสเปนและแคว้นกาตาลุญญา จะส่งผลต่อวิกฤตการณ์ที่ยืดเยื้อครั้งนี้อย่างไร

 

 

ดร.เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ ปรัชญา และวรรณคดีอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมลาตินอเมริกา จะเป็นผู้ไขคำตอบในเรื่องเหล่านี้ โดยชี้ว่า “การไม่นับถือศาสนาของผู้นำคนใหม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และอาจไม่มีผลต่อการบริหารประเทศ เพราะในทางปฏิบัติแล้ว สเปนถือเป็นรัฐโลกวิสัย (Secular State) มีความเป็นกลางในประเด็นเกี่ยวกับศาสนา”  

 

ยิ่งไปกว่านั้น จากผลการสำรวจประชากรชาวสเปนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปของ Centro de Investigaciones Sociológicas เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2017 ที่ผ่านมาพบว่า สเปนมีผู้ไม่นับถือศาสนาและไม่เชื่อมั่นในพระเจ้าสูงถึง 26% เลยทีเดียว

 

 

ดร.เชาวฤทธิ์มองว่า “อุปสรรคสำคัญที่นายซานเชซต้องเจอคือ ความยากลำบากในการผลักดันร่างกฎหมายและงบประมาณต่างๆ เนื่องจากพรรคสังคมนิยมของนายซานเชซมีที่นั่งในรัฐสภาสเปนเพียง 84 ที่นั่งเท่านั้น ไม่ถึง 1 ใน 4 ของที่นั่งทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่ ‘สภาวะผีดิบ’ ที่รัฐบาลแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย การรวมเสียงสนับสนุนเป็นเรื่องยากและอาจเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างกัน

 

“ในประเด็นเรื่องการแบ่งแยกดินแดน ดูเหมือนว่านายซานเชซจะมีท่าทีรอมชอมและประนีประนอมมากกว่านายราฆอย เขาแสดงความต้องการที่จะขอเปิดการเจรจากับผู้นำคนใหม่ของกาตาลุญญาอย่างนายกิม ตอร์รา เพื่อหาข้อสรุปของวิกฤตดังกล่าว โดยชี้ชัดว่าข้อเสนอและผลลัพธ์ของการเจรจาจะต้องไม่ละเมิดรัฐธรรมนูญและอำนาจอธิปไตยของสเปน

 

 

“สิ่งที่น่าจับตามองคือ หากนายซานเชซยื่นข้อเสนอให้สิทธิและอำนาจแก่ชาวคาตาลันเพิ่มมากขึ้น มีการเปลี่ยนโทนเสียงไปจากเดิม อาจจะทำให้กลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มชาตินิยมต่างๆ ไม่พอใจและปะทุออกมาเป็นความขัดแย้งได้อีก มีลักษณะ Compromise but Complicated เพิ่มมากขึ้น การเมืองสเปนจะเข้าสู่ภาวะชะงักงัน ด้วยข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง ประเด็นเรื่องกาตาลุญญาจะยังไม่ได้รับการแก้ไขในรัฐบาลชุดใหม่นี้อย่างแน่นอน และอาจจะนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่เพื่อหาเสียงสนับสนุนในที่สุด”

 

การเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นก่อนกำหนดหรือไม่ สเปนจะผ่านพ้นวิกฤตติดหล่มทางการเมืองครั้งนี้ไปได้อย่างไร ต้องจับตา!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising