วันนี้ (17 กันยายน) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม นำโดย นัสเซอร์ ยีหมะ, พิชิต ไชยมงคล, อานนท์ กลิ่นแก้ว, ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว) จัดกิจกรรมชุมนุมปราศรัยคู่ขนาน การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล
แกนนำขึ้นเวทีปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียง ระบุว่า วันนี้ ครม. นัดแรก นำโดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการถกเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่กลุ่มมองว่าเป็นโครงการที่ทำลายประเทศ และในวันนี้กลุ่มก็มายื่นหนังสือ เนื่องจากเรื่องที่กลุ่มเคยมายื่นไว้ยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องการสื่อสารไปยังรัฐบาลภายใต้การนำของแพทองธารว่าจะดำเนินการอย่างไรกับข้อเรียกร้องของกลุ่ม
ทั้งในเรื่องการตรวจสอบข้าราชการที่ให้ความช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประเด็นการพักโทษ, การให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี, การนิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งอาจรวมคดีมาตรา 112, คดีทุจริตคอร์รัปชัน และคดีอาญาร้ายแรง ทางกลุ่มก็จะออกมาคัดค้านอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ คปท. ยังปราศรัยโจมตีข้าราชการและนักการเมือง ที่คอยช่วยเหลือทักษิณไม่ให้ถูกคุมขังตัวในเรือนจำ ซึ่งถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ในขณะเดียวกัน กลุ่มข้าราชการและนักการเมืองเหล่านี้ก็ยังมุ่งจะช่วยเหลือทักษิณจนลืมแก้ไขปัญหาของประชาชน ส่งผลให้ประชาชนยังคงต้องเผชิญกับปัญหาและความเดือดร้อน
ด้านพิชิตระบุด้วยว่า แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลจาก เศรษฐา ทวีสิน มาเป็นแพทองธาร แต่นโยบายยังคงเป็นนโยบายเดิม พร้อมมองว่าทักษิณครอบงำและครอบครองรัฐบาล ส่วนเรื่องการผลักดันนโยบาย Entertainment Complex โดยเฉพาะคาสิโนที่อ้างว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ส่วนใหญ่รายงานว่าเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก จึงตั้งคำถามว่าการเปิดคาสิโน เปิดเพื่อเส้นทางทำกินของเครือข่ายหรือหวังเงินเข้าประเทศกันแน่ เหตุใดต้องเปิดเพราะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ
ขณะที่เรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย ตั้งคำถามว่าเป็นไปเพื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ใช่หรือไม่ เพราะหากนโยบายนี้สำเร็จ ยิ่งลักษณ์ก็จะสามารถกลับประเทศได้ตามที่ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ และไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว รวมทั้งถ้าหากครอบคลุมคดีมาตรา 112 ก็จะทำให้ทักษิณรอดคดีไปด้วย อย่างไรก็ตาม วันนี้มาเพื่อยื่นหนังสือและจะมาติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในเดือนตุลาคม และถ้าหากแพทองธารยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง ทางกลุ่มมีการปักค้างแรมบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐเหมือนเดิม
ส.ก.ท.ฟ. ยื่นหนังสือเร่งรัดแก้หนี้สินเกษตรกร
ขณะที่กลุ่มเครือข่ายสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ส.ก.ท.ฟ.) เดินเท้ามาจากบริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากปักหลักค้างแรมมาเป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อมายื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ดำเนินการเรื่องหนี้สินเกษตรกรของ 4 ธนาคารรัฐ และสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนเอาไว้แต่ตกหล่น รวมถึงติดตามทวงถามเรื่องงบประมาณของโครงการรัฐบาลที่ค้างอยู่ในปี 2567 ซึ่งเกษตรกรยังไม่ได้รับการดูแลในส่วนนี้
แกนนำย้ำว่า ส.ก.ท.ฟ. ไม่ได้มาเคลื่อนไหวทางการเมืองและไม่มีใครหนุนหลัง โดยดูแลอาหารการกินด้วยตัวเอง จากนั้น นลินี มหาขันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน ออกมารับหนังสือแทนนายกฯ
