วันนี้ (21 มกราคม) ศิวพร รังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ช่วงค่ำวันนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังปรับตัวสูงขึ้นในทุกพื้นที่เกินมาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 6 พื้นที่ คือ ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน, ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม, ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ, ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ, ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ส่วนตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ค่าฝุ่นเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 69 พื้นที่ เช่น ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, เขตคลองสามวา, ริมถนนสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่, ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน, ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
ส่วนฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM10 เกินระดับสีส้ม 20 พื้นที่ เนื่องจากปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาและลมสงบจนเกิดการสะสมตัวของฝุ่น โดยศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันลดฝุ่นละออง ด้วยการงดการเผาในที่โล่ง จอดรถดับเครื่องยนต์ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับการดำเนินงานกำกับดูแลแหล่งกำเนิดอย่างเข้มงวด เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ สวมใส่หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันตนเองเมื่อออกนอกบ้าน หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ
ขณะที่ทั่วประเทศค่าฝุ่น PM2.5 และ PM10 ยังปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันทั้งระดับสีส้มและระดับสีแดง โดยเกินในระดับสีแดง 8 พื้นที่ เช่น ตำบลมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย, ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี เนื่องจากพบการเผาในที่โล่ง โดยทาง คพ. ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์