×

จุรินทร์ บอกนโยบายรัฐบาลเศรษฐาไม่ตรงปก-มาตรฐานสวนทางความสูง ร่ายยาวนโยบายที่หายไปอย่าเป็นแค่เทคนิคหาเสียง ต้องรับผิดชอบ

โดย THE STANDARD TEAM
11.09.2023
  • LOADING...
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

วันนี้ (11 กันยายน) ที่รัฐสภา จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปรายโดยยืนยันว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านของประชาชน และตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มความสามารถ พร้อมแสดงจุดยืนในการทำหน้าที่ 2 ข้อ คือ 1. จะไม่ค้านทุกเรื่อง แต่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน และรักษาผลประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน และ 2. ในการทำงานร่วมกับฝ่ายค้านจะถือหลักแสวงจุดร่วมสงวน จุดต่าง ในส่วนที่เป็นจุดยืนของพรรคเช่นกัน ไม่แตะมาตรา 112 ซึ่งการหยิบยกสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการป้องกันข้อครหาในอนาคตว่าฝ่ายค้านแตกกัน และจะทำให้การตรวจสอบขาดน้ำหนักไปโดยไม่จำเป็น

 

ส่วนการแถลงนโยบายของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั้น จุรินทร์กล่าวว่า “มาตรฐานของนโยบายชุดนี้สวนทางกับความสูงของนายกรัฐมนตรี จริงๆ การตั้งโจทย์ประเทศคลุมเครือ นโยบายเลื่อนลอยขาดความชัดเจน และฟุ่มเฟือยด้วยวาทกรรม นโยบายที่นายกฯ แถลงกับตอนหาเสียงเป็นหนังคนละม้วน กลายเป็นนโยบายไม่ตรงปกอย่างที่วิจารณ์กัน”

 

จุรินทร์ยังกล่าวอีกว่า นโยบายเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท เป็นนโยบายนินจาที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อท่านได้เป็นรัฐบาล หรือเพราะสัญญาไว้ว่าจะทำในปี 70 ซึ่งช่วงนั้นท่านอยู่ไม่ถึงจึงคิดว่าไม่ต้องทำหรือไม่ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันที่มีการท้วงเพราะเป็นการเพิ่มต้นทุน ซึ่ง SMEs และผู้บริโภครับภาระไม่ไหวหากมีการขึ้นราคาสินค้า ก็หายไปเช่นกัน ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำทันทีก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ล่องหน ถือเป็นการผิดคำพูดครั้งที่ 1 แต่ครั้งที่ 2 ขออย่าทำ ส่วนนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ เติมเงิน 20,000 บาทให้ทุกครอบครัว ก็หายเข้ากลีบเมฆเหมือนกัน

 

จุรินทร์กล่าวว่า ยังมีนโยบายการกระจายอำนาจสูงท้องถิ่นที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่มีความพร้อม ก็ไม่มีในการแถลงนโยบายและถูกแปลงโฉมผู้ว่าฯ CEO เปลี่ยนจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นการรวบอำนาจ สิ่งนี้ถือเป็นแค่ลมปากตอนหาเสียง ไม่เขียนไว้ในนโยบายหรือไม่ 

 

“นโยบายศักดิ์สิทธิ์เพราะผูกพันรัฐสภา ท่านไม่ทำไม่ได้ ผมต้องพูดเพราะมีหน้าที่ตรวจสอบและให้รัฐบาลตระหนักว่า หาเสียงได้แต่ต้องมีความรับผิดชอบ อย่าให้เหมือนตอนไล่หนูตีงูเห่า สุดท้ายทั้งหนูและงูเห่ามาอยู่ด้วยกัน และกลายเป็นแค่เทคนิคการหาเสียงหรือแค่นโยบายการละคร ประชาชนไม่ต้องการ ต้องการยกระดับการหาเสียงของพรรคการเมืองให้สูงกว่านี้ พูดแล้วต้องทำอย่างที่ประชาชนคาดหวัง” จุรินทร์กล่าว

 

ส่วนนโยบายราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีพูดชัดในการลงพื้นที่หาเสียงว่าไม่มีประกันราคาข้าวและไม่มีจำนำข้าว จุรินทร์กล่าวว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะนั่นเป็นนโยบายต้นเหตุการทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้คนที่จะต้องมาชดใช้ต่อไปคือรัฐบาลที่ถัดจากรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้ สส. พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงว่าการอภิปรายดังกล่าวเลยกรอบการอภิปรายและเป็นเท็จ ทำให้รัฐบาลที่ผ่านมาได้รับความเสียหาย 

 

จากนั้นจุรินทร์ได้อภิปรายต่อ พร้อมระบุว่า หากราคาพืชผลเกษตรราคาตกอะไรจะเป็นตัวช่วยให้เกษตรกรยังชีพอยู่ได้ การพักหนี้เกษตรกรเป็นเพียงการต่อลมหายใจให้เกษตรกรชั่วคราว ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รัฐบาลต้องทำเพราะเป็นสัญญาที่หาเสียงไว้ แต่จะทำอย่างไร เอาเงินมาจากไหน เพราะมีเงินงบประมาณเพียงแค่ 200,000 ล้านบาท ซึ่งการที่คนในรัฐบาลบอกว่ายังไม่ได้ข้อสรุป แปลว่านี่เป็นนโยบายไปตายเอาดาบหน้าหรือไม่ และขอเตือนว่าอย่าให้นโยบายนี้กลายเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย

 

ส่วนนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จุรินทร์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนแต่มีข้อสังเกตว่า นโยบายที่เขียนว่าไม่แก้ไขในหมวด 2 พระมหากษัตริย์ แปลว่าหมวดอื่นแก้ได้หรือไม่ ส่วนนโยบายการทุจริตคอร์รัปชัน ตนเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะเอาจริงหรือไม่ เนื่องจากวันที่มีแค่เพียงหนึ่งบรรทัด 

 

“รัฐบาลข้ามขั้ว แม้จะเปลี่ยนชื่อเป็นรัฐบาลสลายขั้ว สลายความขัดแย้งไม่ได้ มีแต่หลักนิติธรรมที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำให้ประเทศของเรามีความหวัง คือทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าคนจน คนรวย คนมีอำนาจ คนไม่มีอำนาจ หรือแม้แต่นักโทษ นักโทษรวย นักโทษจน นักโทษเคยมีอำนาจ นักโทษไม่เคยมีอำนาจ นักโทษทุกคนก็ย่อมเท่าเทียมและต้องได้รับการปฏิบัติจากผู้บังคับใช้กฎหมายโดยเสมอกัน นโยบายนี้คือจุดเริ่มต้นของความหวัง นโยบายนี้จะเป็นจริงได้อยู่ที่ตัวนายกฯ และรัฐบาล” จุรินทร์กล่าว

 

จุรินทร์ยังกล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับพระราชทานอภัยโทษว่า หากมีคำพิพากษาของศาลยุติธรรมในคดีใดเกิดขึ้นอีก ก็ยังจะต้องรับโทษใหม่ในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องตระหนักว่าจะต้องบังคับใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรมเท่าเทียม ถ้ารัฐบาลก่อนหน้าทำไม่ถูก ท่านต้องทำให้ถูก อย่าปล่อยเลยตามเลย อย่าสร้างมาตรฐานใหม่เหยียบย่ำคนรักความยุติธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตให้ต้องหมดกำลังใจ โอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลที่จะทำให้วลีที่เราพูดกันติดปากว่า คุกมีไว้แค่ขังคนจนกับคนไม่มีอำนาจ มลายหายไปได้ โดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ขอให้นายกฯ รักษาคำพูด ยึดมั่นต่อสิ่งที่แถลงต่อสภา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising