ในเวิ้งเล็กๆ ติดซอยเฉยพ่วงซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนจตุจักร คือที่ตั้งของ Otsu Bar บาร์สไตล์ญี่ปุ่นที่ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรวมเท่าไรนัก แต่อาจเป็นข้อดีก็ว่าได้ เพราะความไม่เข้าพวกนี้เองที่ทำให้ไฟสีแดงฉานของหน้าร้านดูโดดเด่นแบบที่ถ้าเดินหาก็ไม่มีทางหลง
The Vibe
จากหน้าร้านดูมีความซับซ้อนด้วยที่นั่งตั้งอยู่ติดกับป้ายร้าน ถัดไปทางขวามือคือซุ้มโค้งที่จะนำพาไปยังประตูเข้าร้านอีกที (รู้สึกถึงความเป็นพิธีรีตองเล็กน้อย) แต่ทันทีที่เลื่อนประตูออก ความน่ารักและการใส่รายละเอียดของร้านนี้ก็ปรากฏให้เห็น เริ่มตั้งแต่สติกเกอร์รูปสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษด้านล่างบานประตูที่ชนแก้วกันเมื่อประตูเลื่อนเปิด ก็ทำให้ลูกค้าหลายคนถึงกับต้องหยุดถ่าย Boomerang หรือ IG story กันเป็นแถบ
เมื่อเข้าไปในตัวร้านก็มีขนาดเล็กจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ดูแน่นขนัดหรือทำให้รู้สึกอึดอัด แต่การจัดวางแสงในร้านอาจไม่ได้เข้านัก ทำให้ถ้าหรี่ไฟก็มืดไป ถ้าเปิดขึ้นอีกหน่อยก็สว่างเกิน ในขณะที่เคาน์เตอร์บาร์อาจมืดไปสำหรับนักดื่มหรือนักกินที่ทำให้การถ่ายรูปเช็กอินลำบากสักนิด หรือถ้าคุณไม่ใช่คนที่เห่อโลกโซเชียลมากนักก็ยังถือว่ามืดไปอยู่ดี เพราะไม่ได้เห็นรายละเอียดของอาหารและเครื่องดื่มมากเท่าที่ควร
The Dishes
ที่นี่มีของกินเล่นมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นถั่วแระ มันทอด หรือหมึกทอดที่เอาไว้แกล้มเหล้า นอกจากนี้ยังมีอาหารเป็นจานๆ ที่สามารถกินอิ่มอย่าง ข้าวหน้าปลาไหล (330 บาท) ชิ้นโตที่อย่างจนสุกหอม หรือ ไก่คาราเกะ (สอบถามราคาได้ที่ร้าน) ซึ่งก็หากินได้ทั่วไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคงไม่พ้น Otsu Style Nissin Cup Noodle (99 บาท) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทางร้านใส่ความตั้งใจด้วยซอสพิเศษ ซึ่งทำให้รสชาตินั้นมีความกลมกล่อมขึ้นและมีรสสัมผัสที่แตกต่าง ซอสที่ว่านั้นคือมายองเนสนั่นเอง ซึ่งต้องเป็นมายองเนสญี่ปุ่นเท่านั้นจึงให้รสสัมผัสแบบนี้ได้ เข้ากับทั้งน้ำซุปและเส้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา Nissin อย่างน่าประหลาดใจ จานนี้เสิร์ฟมาในถ้วยเซรามิกขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงคล้ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยของยี่ห้อดังกล่าว
Otsu Style Nissin Cup Noodle (99 บาท) และไก่คาราเกะ (สอบถามราคาได้ที่ร้าน)
The Drinks
ที่นี่มีสาเก อูเมะชู โซจู และเบียร์เย็นๆ ไว้รองรับนักดื่มที่เพรียกหาสิ่งเรียบง่าย แต่สายค็อกเทลก็สามารถมานั่งดื่มดริงก์ดีๆ ที่นี่ได้อย่างสบายตัว โดยดริงก์ตัวแรกที่ได้ชิมคือ Evening Tea (280 บาท) ที่มีกลิ่นชาเอิร์ลเกรย์อ่อนๆ จาก Little Kiss Liqueur แต่เบสคือสาเก ใช้น้ำแอปเปิ้ลและน้ำมะนาวเสริมให้ดริงก์มีความสดใส เปรี้ยวหวาน
Evening Tea (280 บาท)
Kyoho Yoguru (320 บาท) เป็นดริงก์ที่เบสด้วยสาเกเช่นกัน แต่มีความหวานจากลิเคียวที่ทำจากองุ่นเคียวโฮ เพิ่มความครีมมี่ด้วยลิเคียวที่ทำจากโยเกิร์ต บาลานซ์ด้วยน้ำว่านหางจระเข้และน้ำมะนาว เพื่อให้ได้ดริงก์ครีมมี่ที่มีความหวานอมเปรี้ยวนั้นชุ่มชื่นในตัว
Kyoho Yoguru (320 บาท)
Wasabi Chuhai (280 บาท) เบสคือเหล้าชูไฮ ยูซุ น้ำมะนาว วาซาบิและท็อปด้วยโซดา เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ แต่รสชาตินั้นน่าสนใจมาก เพราะถึงแม้จะมีวาซาบิ แต่ความแสบร้อนที่ขึ้นจมูกนั้นกลับไม่มี สิ่งที่มีคือรสชาติเฉพาะของวาซาบิที่เขากับองค์ประกอบอื่นๆ ได้อย่างสมดุล
Wasabi Chuhai (280 บาท)
ใครแวะเวียนไปแถวนั้น ลองแวะไปดูหากว่าเบื่อย่านอารีย์แล้ว ขยับมาอีกนิดเป็นจตุจักรก็น่าจะเปลี่ยนบรรยากาศได้ไม่น้อย
Otsu Bar
Open: วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 17.30-00.00 น. และวันเสาร์ 18.00-00.00 น.
Address: 1064/59 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ 10900
Budget: 99-350 บาท
Contact: 06 5539 2654
Page: https://www.facebook.com/otsubar.bkk/
Map:
- Chuhai (ชูไฮ) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อัดกระป๋องของญี่ปุ่นที่ทำจากเหล้าโซจู