ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยดูเหมือนจะตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหาด้านโครงสร้างประชากร ทั้งสังคมผู้สูงอายุ อัตราการเกิดต่ำ และปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม มีการนำปัญหามาพูดคุยกันอย่างแพร่หลาย และนำเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จากการคาดการณ์ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่าจำนวนประชากรไทยจะถึงจุดสูงสุดประมาณปี 2030 จากนั้นจะค่อยๆ หดตัวลงหากไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งปัจจุบันหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันในสร้างความตระหนักรู้และแก้ไขประเด็นนี้
ในระยะสั้นและระยะกลาง ได้มีการแก้ปัญหาด้วยการยืดอายุของวัยเกษียณ และทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวขึ้น แต่ทางออกสำหรับประเทศไทยในระยะยาวคือ การเพิ่มประชากรเด็กเกิดใหม่อย่างมีคุณภาพ นั่นคือพ่อแม่ควรต้องมีความพร้อมทั้งปวง แต่ปัญหาที่ยังเป็นอุปสรรคก็คือการตั้งครรภ์โดยขาดการวางแผน ไม่เพียงแต่เฉพาะในวัยรุ่นเท่านั้น แต่เกิดได้ในทุกช่วงอายุ ซึ่งผู้หญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมจะมีปัญหาด้านสังคมและจิตใจตามมา หลายคนสามารถปรับตัวและหาหนทางแก้ไขปัญหาได้ แต่บางคนตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งโดยมากเป็นการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหรือการเสียชีวิตของทั้งทารกและมารดาได้
ด้วยเหตุนี้ การแก้ไขปัญประชากรอย่างยั่งยืนจึงต้องเพิ่มทั้งการเกิด และแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมไปด้วยกัน เพื่อทำให้เด็กที่เกิดมามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ผู้เป็นพ่อแม่สามารถให้การศึกษา อบรมเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มีอาชีพการงานที่มั่นคงได้ และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติต่อไป พ่อแม่ก็จะมีสุขภาพจิตที่ดี เนื่องจากไม่ต้องกังวลว่าจะรับผิดชอบภาระในการเลี้ยงดูได้หรือไม่
แน่นอนว่าการแก้ปัญหาโครงสร้างประชากรเป็นภาระหนักที่ไม่สามารถผลักให้เป็นความรับผิดชอบของภาครัฐหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเดียว แต่ต้องร่วมมือกัน หลายภาคส่วนได้เข้ามาร่วมกันรณรงค์ในเรื่องนี้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และทำให้คนไทยเข้าถึงการวางแผนครอบครัวได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้น
หนึ่งในภาคเอกชนที่ส่งเสริมในด้านนี้อย่างต่อเนื่องคือ บริษัท ออร์กานอน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์เพื่อสุขภาพของผู้หญิง ที่แม้จะก่อตั้งมาไม่นาน แต่มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงเกิดกับประเทศไทย แต่เป็นปัญหาทั่วโลก
Mr. Koen C. Kruijtbosch กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์กานอน (ประเทศไทย) จำกัด
Mr. Koen C. Kruijtbosch กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์กานอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ออร์กานอนเป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์ระดับโลกเพียงหนึ่งเดียวที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อผู้หญิง เราตระหนักว่าผู้หญิงมีบทบาทที่สำคัญในสังคม การส่งเสริมสุขภาพของผู้หญิงจึงเป็นรากฐานของการทำให้โลกมีสุขภาวะที่ดีขึ้น เรารับฟังและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้หญิงมาโดยตลอด สำหรับในประเทศไทย หนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบคือการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้หญิง ที่ต้องขาดโอกาสทั้งในการทำงาน การศึกษา หรือการทำความฝัน แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพของประชากรเด็กที่เกิดใหม่ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต”
จากสถิติของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ หรือ UNFPA ระบุว่าการตั้งครรภ์ทั่วโลกเกือบ 50% หรือ 121 ล้านการตั้งครรภ์ เกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผน ออร์กานอนจึงได้ทำงานทั้งในเชิงความร่วมมือและการสื่อสาร เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ทั้งในประเทศไทยและในระดับสากล
ออร์กานอนเข้าร่วมการสัมมนาเชิงนโยบาย เพื่อระดมความรู้และทรรศนะเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวคุณภาพ เพื่อรับมือความท้าทายด้านประชากรที่หลายเขตเศรษฐกิจเอเปคกำลังเผชิญ
ในเชิงความร่วมมือออร์กานอนได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น กระทรวงสาธารณสุข ในการผลักดันการสร้างครอบครัวคุณภาพ ลดปัญหาการท้องไม่พร้อม รวมถึงปัญหาอัตราการเกิดต่ำ เพื่อให้ผู้หญิงมีสิทธิในการเลือกตั้งครรภ์เมื่อพร้อม โดยหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การใช้โอกาสสำคัญที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (SOM3) ในการร่วมกับภาคีเครือข่ายเปิดเวทีสัมมนา ‘ครอบครัวคุณภาพ (Smart Family)’ เพื่อระดมความรู้และทรรศนะเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวคุณภาพ เพื่อรับมือความท้าทายด้านประชากรที่หลายเขตเศรษฐกิจในเอเปคกำลังเผชิญ
ล่าสุดออร์กานอนยังเข้าร่วมการประชุมวิชาการวางแผนครอบครัวนานาชาติ หรือ International Conference on Family Planning: ICFP 2022 พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลก ในการประกาศเดินหน้าตามพันธกิจปี 2030 หรือ FP2030 ที่จะส่งเสริมการวางแผนครอบครัว ด้วยการให้ความรู้และการเข้าถึงทางเลือกในการคุมกำเนิดแก่ผู้หญิงมากกว่า 100 ล้านคน ใน 70 กว่าประเทศทั่วโลกที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง โดยมีเป้าหมายที่จะลดการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ 120 ล้านครั้ง และป้องกันการเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการท้องไม่พร้อม ในทารก 2.1 ล้านราย และมารดา 2.5 แสนราย
ส่วนในการสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ ที่ผ่านมาออร์กานอนได้ร่วมกับภาคีในการเข้าร่วมกิจกรรมและโครงการมากมายในประเทศไทย เพื่อให้ความรู้และการตระหนักรู้เกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น LINE Teen Club, โครงการก้าวท้าใจ, งาน Gender Fair สานพลังเครือข่ายร่วมขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ออร์กานอนร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดตัวภาพวาดศิลปะบนกำแพง ‘We are Tomorrow’
นอกจากนี้ออร์กานอนได้ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย, กระทรวงสาธารณสุข, กรุงเทพมหานคร และ UN Women ในการส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสุขภาพของผู้หญิง ผ่านภาพวาดศิลปะบนกำแพง ‘We are Tomorrow’ ที่สร้างสรรค์โดย อแมนด้า พึ่งโพธิปักขิยะ ศิลปินหญิงเชื้อสายไทยที่โด่งดังในระดับโลก เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการบอกเล่าสิทธิที่ยังไม่ถูกเติมเต็มของผู้หญิง รวมถึงสิทธิในการเลือกตั้งครรภ์เมื่อตนเองพร้อมเช่นกัน
ออร์กานอนรับรางวัลองค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น ประจำปี 2022 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย
จากการดำเนินงานที่โดดเด่นและต่อเนื่อง ทำให้ออร์กานอนได้รับรางวัลองค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น ประจำปี 2022 จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในสาขาการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศผ่านกิจกรรมชุมชนและอุตสาหกรรม จากเวที UN Women 2022 Thailand Women’s Empowerment Principles (WEPs) ซึ่งทั้งสองรางวัลจัดขึ้นเพื่อยกย่ององค์กรที่มีการดำเนินงานอย่างยั่งยืน และมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงอย่างแท้จริง
ต้องยอมรับว่าปัญหาโครงสร้างประชากรไทยคงไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันและเริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เพิ่มประชากรเด็กเกิดใหม่ของไทยอย่างมีคุณภาพ ดังเช่นที่ออร์กานอนได้ริเริ่มมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ผ่านการวางแผนครอบครัวที่เข้าถึงง่ายและแพร่หลาย ซึ่งจะเป็นแนวทางที่แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
เชื่อว่าการทำงานและโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้น บวกกับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่เมื่อรวมกันก็จะเป็นพลังที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้