วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา ศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงรวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจและประเด็นอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมการอภิปรายของฝ่ายค้าน พร้อมหยิบยกตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ในทันที โดยไม่ควรรอการดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทเท่านั้น
แม้ว่ารัฐบาลจะยังใช้งบประมาณปี 2567 ไม่ทัน แต่ในฐานะกรรมาธิการยืนยันว่าพิจารณาอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จในชั้นกรรมาธิการ และสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2-3 ได้เร็วกว่าที่กำหนดไว้ 2-3 สัปดาห์ พร้อมแนะให้รัฐบาลทำคนละครึ่ง โดยสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำงบประมาณออกมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ไม่ควรรอแต่โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น
“ตอนนี้ระหว่างที่งบประมาณปี 2567 ยังไม่ออก ยังมีหลายเรื่องที่รัฐบาลสามารถใช้มาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น เงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีกว่า 1.8 แสนล้านบาท แน่นอนว่ามีการปลดล็อกให้สามารถนำมาใช้ได้ง่ายขึ้นเพียงแค่ผ่านการอนุมัติในแต่ละสภาของแต่ละท้องถิ่นซึ่งสามารถทำได้เลย เพียงแต่ยังไม่มีแรงจูงใจจากภาครัฐส่วนกลางที่จะให้ท้องถิ่นนำเงินออกมาใช้เพื่อให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นหรือเศรษฐกิจฐานรากสามารถดำเนินต่อไปได้ระหว่างที่งบประมาณยังไม่ออก เราเสนอว่ารัฐบาลควรมีมาตรการคล้ายๆ คนละครึ่ง หากท้องถิ่นนำเงินออกมาใช้ครึ่งหนึ่งแล้วรัฐบาลสมทบอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ 1.8 แสนล้านบาทมากขึ้นเป็น 3 แสนล้านบาท โดยใช้งบกลางที่มีการอนุมัติงบไปก่อนกว่า 60,000 ล้านบาท” ศิริกัญญากล่าว
ศิริกัญญากล่าวยืนยันการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมนี้ว่าจะมีการอภิปรายจากฝ่ายค้านแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจว่าจะเป็นการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อให้ข้อเสนอแนะกับทางรัฐบาลนำไปพิจารณาปรับใช้ด้วยการชี้ให้เห็นถึงปัญหา หรือจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งใช้สิทธิอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือ 152 โดยยอมรับว่าเรื่องการพักโทษของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประเด็นหนึ่งที่จะนำไปสู่การอภิปรายของฝ่ายค้านในครั้งนี้ด้วย
“หนึ่งในประเด็นที่เราต้องพิจารณาว่าจะนำไปอภิปรายในครั้งนี้คือ เรื่องของมาตรฐานการปฏิบัติโดยที่ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังแบบใด รวมไปถึงนโยบายอื่นที่เราคิดว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเกี่ยวกับการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. ต่างๆ การทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้น อาจจะยังไม่ถึงตัวรัฐมนตรีก็ตาม อาจจะเป็นข้าราชการระดับสูง เราต้องหยิบยกขึ้นถกเถียงอภิปรายเพื่อแจ้งให้ฝ่ายบริหารได้รับทราบและนำไปสู่การแก้ไขในอนาคต” ศิริกัญญากล่าว
ศิริกัญญากล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ว่า นายกรัฐมนตรีควรเป็นตัวกลางแก้ไข เนื่องจากปัญหามาจากหลายกระทรวง หลายหน่วยงาน โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วย โดยเฉพาะ One Map ที่จะเป็นแผนที่เดียวทั้งประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับประชาชน หน่วยงานรัฐกับหน่วยงานรัฐให้จบ ซึ่งขณะนี้กำลังรอท่าทีที่เด็ดขาด แต่ยังไม่ค่อยเห็นจากนายกรัฐมนตรี