วันนี้ (12 กุมภาพันธ์) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่กลับมาสูงเกินค่ามาตรฐานติดอันดับโลกอีกครั้งในพื้นที่ กทม. ว่า ตอนนี้ยังมีช่องว่างหลายอย่างระหว่างรัฐบาลกับผู้ว่าฯ กทม. เช่น เรื่องการมอบอำนาจให้ผู้ว่าฯ กทม. เป็นเจ้าคณะตรวจตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก สามารถตรวจรถยนต์ที่มีจำนวน 6 ล้อขึ้นไป ซึ่งมีอีกหลายมาตรการที่ท้องถิ่นรอการกระจายอำนาจจากส่วนกลาง รวมถึงการประกาศให้ กทม. เป็นเขตควบคุมมลพิษ เพื่อให้มีกลไกในการกำกับดูแลปัญหามลพิษอย่างรอบด้านมากขึ้น
“หากเรามองย้อนไปหลายเดือน หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีการออกข้อสั่งการ ให้ข่าว ออกนโยบายมาเยอะมาก เพียงแต่ว่าการกระทำที่ช่วยอุดช่องว่างต่างๆ เหล่านั้นได้มีการดำเนินนโยบายอย่างจริงจังแค่ไหน อาจจะยังไม่เห็นประสิทธิภาพเท่าที่ควร ก็คาดหวังว่าในที่ประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พรุ่งนี้ เราอยากจะได้ความชัดเจนจากตัวแทนที่นายกรัฐมนตรีหรือผู้ว่าฯ กทม. ส่งมา” ณัฐพงษ์กล่าว
รอ ‘วันนอร์’ ชี้แจงคลิปเสียงคุย ‘สุชาติ’ ต่อรองตำแหน่ง
ณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงกรณีการปล่อยคลิปเสียงหลุด ที่อ้างว่าเป็น วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กับ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ผู้ได้รับความเห็นชอบให้เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าผู้ที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดคือ วันมูหะมัดนอร์ ซึ่งตนในฐานะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระก็จะดำเนินการตรงไปตรงมา
ทั้งนี้จะพูดคุยกับวันมูหะมัดนอร์ในเวทีของกรรมการสรรหาเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ พร้อมระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อรองทางการเมืองมีเจตนาในการเขย่าเก้าอี้ประธานรัฐสภา
จับตา ครม.สัญจร รัฐบาลเดินสร้างสันติภาพ
ณัฐพงษ์ยังระบุถึงการลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความเห็นในจังหวัดปัตตานีว่า จังหวัดชายแดนใต้มีหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะที่นี่อากาศไม่มีฤดูฝุ่นเหมือนกับจังหวัดอื่น และเราอยากให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษที่น้อยลง ใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในวงประชุมร่วมกับ ศอ.บต.เมื่อวานนี้ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงควบคุมตัว อับดุลอาฟิร เซ็ง อายุ 21 ปี นักกิจกรรมและอาสาสมัครนักข่าว สำนักสื่อวาร์ตานี ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เมื่อวานนี้ (11 กุมภาพันธ์) นั้น ต้องรอดูความชัดเจนของเจ้าหน้าที่ เราไม่อยากให้เกิดการใช้กฎหมายพิเศษหรืออำนาจพิเศษโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ไปคุกคามหรือกดทับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงต้องรอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าเข้าจับกุมด้วยข้อหา หรือการกระทำอะไร ซึ่งพรรคประชาชนมีตัวแทนในพื้นที่เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ณัฐพงษ์ระบุอีกว่า เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ไว้เนื้อเชื่อใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพ
อีกไม่นานนายกรัฐมนตรีจะจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในพื้นที่ภาคใต้ สิ่งที่น่าจับตาคือ รัฐบาลจะมีการสื่อสารเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยการแต่งตั้งตัวแทน หรือหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย ซึ่งเป็นตัวแทนในการเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อมีธงชัดเจนว่าเราจะมุ่งเป้าไปที่กระบวนการสร้างสันติภาพ การผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน จึงต้องเดินคู่ขนานกัน
