×

‘เพราะบทเพลงมีความเป็นมนุษย์’ Oh Wonder วงดนตรีระดับโลกที่ถือกำเนิดจาก SoundCloud

04.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • Oh Wonder เป็นวงดนตรีที่มีจุดเริ่มต้นจากการนำเสนองานเพลงผ่านแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์อย่าง SoundCloud จนมีค่ายเพลงชั้นแนวหน้าดึงตัวเข้าสังกัด
  • โจเซฟินนิยามการทำงานของ Oh Wonder ว่าเหมือนกับการทำงานระหว่าง ฮิวจ์ แกรนต์ และดรูว์ แบร์รีมอร์ ในหนังเรื่อง Music and Lyrics
  • เพลงเดบิวต์ Body Gold มียอดฟังมากกว่าหนึ่งแสนครั้งใน 3 วัน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับวงโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน
  • เส้นทางดนตรีของพวกเขากลายเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย รู้ตัวอีกที Oh Wonder ก็กลายเป็นวงสุดฮอตที่ได้ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก

     การเข้ามามีบทบาทของ Youtube, Soundcloud หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยให้นักดนตรีที่ยังไม่มีชื่อเสียงนำเสนองานเพลงได้สะดวกเพียงปลายนิ้ว มีนักดนตรีมากมายที่ได้รับความสนใจบนโลกออนไลน์ และได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของอาชีพศิลปิน แต่ในขณะเดียวกัน ความสะดวกสบายของยุคดิจิทัลก็ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมดนตรีสูงขึ้น จึงมีวงจำนวนไม่มากที่จะเฉิดฉายอยู่ในวงการดนตรีอย่างมั่นคง

     Oh Wonder ก็เป็นวงดนตรีที่มีจุดเริ่มต้นจากการนำเสนองานเพลงผ่านแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์อย่าง SoundCloud พวกเขาได้กระแสตอบรับท่วมท้น จนมีค่ายเพลงชั้นแนวหน้าดึงตัวเข้าสังกัด ก่อนจะได้บินลัดฟ้าทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก อีกทั้งยังมีสตูดิโออัลบั้ม 2 ชุด ซึ่งเป็นหลักประกันชั้นดีว่า Oh Wonder ไม่ได้เป็นวงกระแสที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

 

 

เคมีที่เข้ากันของสมาชิกสองคนที่ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ

     ส่วนมากการก่อตั้งวงมักเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แต่สองสมาชิกของ Oh Wonder ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทั้งสองมีเส้นทางดนตรีที่ไม่คล้ายคลึงกันด้วยซ้ำ เริ่มแรกโจเซฟิน แวนเดอร์ กัชต์ (Josephine Vander Gucht) มีความฝันอยากเป็นนักแต่งเพลง โดยมีพื้นฐานทางดนตรีคลาสสิก ก่อนจะมุ่งมั่นกับการเป็นศิลปินเดี่ยว ส่วนแอนโทนี เวสต์ (Anthony West) เริ่มต้นสร้างชื่อในฐานะโปรดิวเซอร์และสมาชิกวงดนตรีนอกกระแสอย่าง Futures และ We The Wild

 

    

     จนกระทั่งแอนโทนีมีโอกาสได้โปรดิวซ์งานเพลงให้กับโจเซฟิน ซึ่งในตอนนั้นเธอยังเป็นศิลปินเดี่ยวอยู่ เมื่อทั้งสองทำงานร่วมกันก็สัมผัสได้ถึงเคมีอะไรบางอย่าง เหมือนกับว่าถ้าพวกเขาแต่งเพลงร่วมกันเมื่อไร บทเพลงที่จะออกมาจะทรงพลังที่สุด

     โจเซฟินนิยามการทำงานของ Oh Wonder ว่าเหมือนกับการทำงานระหว่าง ฮิวจ์ แกรนต์ (Hugh Grant) และดรูว์ แบร์รีมอร์ (Drew Barrymore) ในหนังเรื่อง Music and Lyrics ที่มีคาแรกเตอร์ต่างกัน แต่กลับทำงานได้อย่างรู้ใจ

     จากโปรเจกต์ที่ร่วมกันทำโดยบังเอิญเริ่มก่อตัวจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ แอนโทนีและโจเซฟินขลุกตัวทำเพลงกันที่โฮมสตูดิโอในลอนดอน ก่อนจะเริ่มทยอยปล่อยงานเดือนละ 1 เพลง ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างเกินความคาดหมาย โดยเพลงเดบิวต์ Body Gold มียอดฟังมากกว่าหนึ่งแสนครั้งใน 3 วัน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับวงโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน หลังจากทยอยปล่อยเพลงจนครบ ทั้งคู่ก็รวบรวมเพลงทั้งหมด ซึ่งรวมถึง Without You, Drive และ Livewire มารวบรวมใส่อัลบั้มชุดแรกในนาม Oh Wonder


 

 

บทเพลงมินิมัลที่พูดถึงอารมณ์และความสัมพันธ์

     คำถามคือ เหตุใด Oh Wonder จึงมีกระแสตอบรับที่ล้นหลามจนกลายเป็นปรากฏการณ์เล็กๆ ส่วนตัวมองว่านอกเหนือจาก SoundCloud หรือ Youtube ที่ช่วยนำเสนองานเพลงสู่กลุ่มคนฟังวงกว้าง เนื้อเพลงของ Oh Wonder ยังเข้าถึงคนฟังได้ทุกประเภท โดยแอนโทนีและโจเซฟินปักธงว่า เพลงที่พวกเขาเขียนขึ้นจะเน้นเรื่องความสัมพันธ์และอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบพบเจอ จึงไม่แปลกที่หลายคนอินกับบทเพลงของ Oh Wonder ราวกับเป็นซาวด์แทร็กที่มีส่วนสำคัญในชีวิต

     ในแง่ของภาคดนตรี Oh Wonder ใช้หลักการทำเพลงแบบมินิมัล ถึงแม้ทั้งคู่จะได้รับอิทธิพลจากแนวดนตรีหลากหลายประเภท แต่เมื่อถึงเวลาทำเพลง Oh Wonder จะเน้นความเรียบง่ายเป็นแกนหลัก โดยใช้ซาวด์สังเคราะห์และคอร์ดเปียโนที่ไพเราะน่าฟัง พวกเขาตัดทอนไม่ให้เพลงมีความซับซ้อนมากเกินไป ความเรียบง่ายยังถูกนำเสนอผ่านอาร์ตเวิร์กของอัลบั้มชุดแรกที่ออกแบบโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด จึงกลายเป็นปกขาวโพลนที่ไม่มีความหวือหวาใดๆ  อาจมองได้ว่า Oh Wonder ต้องการให้คนให้ความสำคัญเรื่องดนตรีมากกว่าภาพลักษณ์

 

    

      นอกเหนือจากนั้น ความสัมพันธ์น่ารักๆ ของแอนโทนีและโจเซฟินคืออีกประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจว่าพวกเขาคบกันในฐานะอะไร ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่เคยให้คำตอบเรื่องนี้อย่างชัดเจน ราวกับว่าแอนโทนีและโจเซฟินไม่อยากใช้ความสัมพันธ์ของพวกเขาหันเหความสนใจจากบทเพลงที่ทั้งคู่ตั้งใจนำเสนอ

 

 

จากออนไลน์สู่การทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก

     หลังจากได้กระแสตอบรับท่วมท้น Oh Wonder ก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงที่อยู่ในเครือของ Universal Music ซึ่งช่วยผลักดันและขยายการจัดจำหน่ายผลงานให้กว้างขึ้นเป็นทวีคูณ เส้นทางดนตรีของพวกเขากลายเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย รู้ตัวอีกที Oh Wonder ก็กลายเป็นวงสุดฮอตที่ได้ทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย และเอเชีย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังไม่เคยพูดถึงการทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกันอย่างจริงจังเลย

     ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของ Oh Wonder เป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งแอนโทนีและโจเซฟินได้พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้พบกับแฟนเพลงหลากหลายประเทศ หรือการได้ท่องเที่ยวเปิดโลกทัศน์กับสถานที่ใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความตื่นเต้นเร้าใจก็มีความรู้สึกในแง่ลบอยู่บ้าง ทั้งคู่ต้องเดินทางแบบนอนสต็อปจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า บางครั้งก็เกิดความรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเมื่อต้องปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมในที่ใหม่ๆ ตลอดเวลา

“มนุษย์ถือกำเนิดมานานกว่า 200,000 ปีตอนนี้มีมนุษย์กว่า 7 พันล้านคน ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ แต่ยังไม่มีใครสักคนสามารถรับมือกับอารมณ์ตัวเองได้อย่างแท้จริง” -โจเซฟิน แวนเดอร์ กัชต์

 

Ultralife อัลบั้มชุดที่ 2 ลูกเล่นทางดนตรีที่เพิ่มขึ้น กับเนื้อเพลงกินใจที่ไม่เคยเปลี่ยน

     หลังจากเสร็จสิ้นการทัวร์คอนเสิร์ต แอนโทนีและโจเซฟินก็เริ่มต้นทำอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ใช้ชื่อว่า Ultralife ครั้งนี้ทั้งคู่เขียนเพลงส่วนใหญ่ที่อพาร์ตเมนต์ Airbnb ย่านบรูกลินและนิวยอร์ก ซึ่งทั้งคู่ยอมรับว่าแสงสีเมืองนิวยอร์กก็มีอิทธิพลต่อการทำงานในอัลบั้มชุดนี้เช่นกัน

 

    

     เนื้อเพลงในอัลบั้มชุด Ultralife มาจากความรู้สึกส่วนตัวของแอนโธนีและโจเซฟิน โดยเฉพาะตอนทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกัน ซึ่งมีหลากหลายรสชาติ ทั้งความน่าตื่นเต้น หรือความอ้างว้างโดดเดี่ยว ส่วนภาคดนตรีก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาหันมาเน้นเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ เบส กลอง เพื่อเพิ่มลูกเล่นแปลกใหม่ในแบบที่ไม่เคยลองทำมาก่อน ถึงแม้งานชุดใหม่จะมีความหวือหวามากกว่าเดิม แต่พวกเขาก็ยังใส่ใจเรื่องการเขียนเพลงเพื่อให้แฟนเพลงเข้าถึงได้โดยง่าย และนำเสนอความรู้สึกของมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่สื่อสารกับแฟนเพลงได้โดยตรง

     “มนุษย์ถือกำเนิดมานานกว่า 200,000 ปีตอนนี้มีมนุษย์กว่า 7 พันล้านคน ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ แต่ยังไม่มีใครสักคนสามารถรับมือกับอารมณ์ตัวเองได้อย่างแท้จริง” -โจเซฟิน แวนเดอร์ กัชต์

     แฟนเพลงหลายคนมองว่า Oh Wonder เปรียบเสมือน ‘มนุษย์’ ที่อยู่เคียงข้างและคอยดูแลพวกเขา ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตาม แต่ก็มีบางส่วนมองว่า Oh Wonder เป็นเพียงวงที่โด่งดังจากกระแสบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะค่อยๆ ถูกลืมและจางหายไป

     แน่นอนว่า บทเพลงย่อมถูกพิสูจน์ด้วยกาลเวลา แต่ศิลปินที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า อารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากบทเพลงเหล่านั้นคือเรื่อง ‘มหัศจรรย์’ ที่เพียงพอแล้ว

 

 

Photo: www.metrolyrics.com

อ้างอิง:

     – https://goo.gl/rgNyAT

     – https://goo.gl/2yLuE

     – https://goo.gl/mMFYDZ

     – https://goo.gl/5hBr1h

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising