×

ธปท.-ก.ล.ต.-คลัง เปิดเฮียริ่งเกณฑ์คุมสินทรัพย์ดิจิทัล เล็งห้ามใช้ชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสด แต่อาจเปิดทางให้ Stablecoin

25.01.2022
  • LOADING...

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกระทรวงการคลัง ออกร่างหลักเกณฑ์ห้ามมิให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตทุกประเภท ได้แก่ ศูนย์ซื้อขาย นายหน้า ผู้ค้า ที่ปรึกษาและผู้จัดการเงินทุนให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ

 

โดยร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้

 

  1. ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโฆษณาเชิญชวนหรือแสดงตนว่าพร้อมให้บริการแก่ร้านค้า เพื่อให้ร้านค้าสามารถรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลได้

 

  1. ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจัดทำระบบหรือเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกใดๆ เช่น QR Code แก่ร้านค้าในการรับชำระด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล

 

  1. ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเปิดบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Wallet) แก่ร้านค้า เพื่อรับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล

 

  1. ในกรณีที่ผู้ซื้อขายทำการขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรับเป็นเงินบาท ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องโอนเงินบาทเข้าบัญชีผู้ซื้อขายเท่านั้น

 

  1. ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการที่มีลักษณะเป็นการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล/เงิน จากบัญชีของผู้ซื้อขายไปยังบัญชีของรายอื่นหรือบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ของการรับชำระสินค้าหรือบริการ

 

  1. ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลดำเนินการในลักษณะอื่นใดนอกเหนือจากข้อ 1-5 ที่เป็นการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าหรือบริการ

 

นอกจากนี้ ในกรณีที่พบว่าผู้ซื้อขายนำบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องแจ้งเตือน/พิจารณาดำเนินการกับผู้ซื้อขายที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการ เช่น ยกเลิกการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือระงับบัญชี เป็นต้น

 

หากผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางกำกับดังกล่าวจะมีโทษปรับ 3 แสนบาท และปรับเพิ่มเติมอีก 10,000 บาทต่อวันไปจนกว่าจะมีการแก้ไข โดยหากการตรวจสอบพบว่าผู้บริหารธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่มีการกำกับดูแลที่ดีพอจะมีความผิดด้วยเช่นกัน

 

จารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในวันนี้ (25 มกราคม) ถือเป็นวันแรกที่ ธปท., ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง มีการเปิดรับฟังความเห็นจากสาธารณชนต่อร่างดังกล่าว โดยจะเปิดรับฟังจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะมีการประกาศบังคับใช้หลักเกณฑ์นี้อย่างเป็นทางการ

 

“สำหรับผู้ประกอบการที่ทำสัญญาหรือข้อตกลงให้บริการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการไว้ก่อนประกาศมีผลบังคับใช้ จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ภายใน 15 วัน นับจากประกาศมีผลบังคับใช้” จารุพรรณกล่าว

 

สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. กล่าวว่า การออกร่างหลักเกณฑ์ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในลักษณะให้บริการชักชวนหรือแสดงตนว่าพร้อมจะให้บริการแก่ร้านค้าและผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น จัดทำระบบและโฆษณาเชิญชวนร้านค้า

 

ซึ่งการที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในลักษณะดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการเป็นวงกว้าง นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงเป็นความเสี่ยงต่อประชาชนและธุรกิจ อาทิ ความเสี่ยงจากการสูญมูลค่าที่เกิดจากความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน

 

หน่วยงานกำกับดูแลต่างตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบดังกล่าว จึงพิจารณาใช้อำนาจตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าหรือบริการในวงกว้าง และจะมีแนวทางกำกับดูแลที่เหมาะสม สำหรับบริการที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่เป็นประโยชน์ต่อนวัตกรรมทางการเงินและไม่สร้างความเสี่ยงเชิงระบบที่กล่าวถึงข้างต้น โดยคำนึงถึงทั้งการเพิ่มศักยภาพของระบบการเงินของประเทศและประโยชน์ของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนต่อไป

 

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ธปท. คำนึงถึงทั้งความเสี่ยงและประโยชน์ของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเทคโนโลยีเบื้องหลัง และมองว่า ณ ขณะนี้การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลายจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ จึงควรมีการกำกับดูแลที่ชัดเจน ขณะที่เทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวก็ควรได้รับการสนับสนุนโดยมีกลไกดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดนวัตกรรมและประโยชน์ต่อประชาชน

 

ด้าน ณพงศ์ธวัช โพธิกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แม้ว่าร่างหลักเกณฑ์ที่ออกมาในระยะแรกนี้จะมีการห้ามใช้สินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทในการชำระค่าสินค้าและบริการ แต่หน่วยงานกำกับก็อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเปิดให้สามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่มีความเสี่ยงเหมาะสม เช่น Stablecoins มาใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้ในอนาคต ซึ่งเป็นแนวทางที่ธนาคารกลางในต่างประเทศบางแห่งพิจารณาอยู่เช่นกัน

 

“สินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มแรกๆ ที่เรามองว่าอาจจะมีการอนุญาตให้นำมาใช้ชำระสินค้าและบริการได้ในอนาคตคือ Stablecoins ที่มีการหนุนหลังมูลค่าด้วยเงินบาท เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบนี้จะมีความผันผวนลดลง มีความใกล้เคียงกับ E-Money มากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการออกกฎเกณฑ์มาควบคุมลักษณะของ Stablecoins ที่ใช้ได้อีกครั้ง” ณพงศ์ธวัชกล่าว

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising