ถ้า สตีฟ จ็อบส์ ยังมีชีวิตอยู่ วันนี้เขาจะมีอายุครบ 66 ปีพอดี
สำหรับคนในโลกยุคใหม่ คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก สตีฟ จ็อบส์ ผู้นำโลกไอทีแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทั้งนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นนวัตกรผู้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งยังเป็นนักคิดผู้มีวิสัยทัศน์ ซึ่งนำพาโลกไปสู่อนาคต โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ iPhone ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปตลอดกาล
สตีฟ พอล จ็อบส์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1955 ในเมืองซานฟรานซิสโก แม้ชีวิตในวัยเด็กของเขาจะไม่ราบรื่นนัก เพราะพ่อแม่ทอดทิ้งเขาไปตั้งแต่เกิด แต่เขาก็เติบโตมาอย่างดีกับครอบครัวพ่อแม่บุญธรรมอย่าง พอล และคาลารา จ็อบส์ ในพื้นที่ที่เรียกว่า Silicon Valley แหล่งอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของโลก
สตีฟ จ็อบส์ ซึมซับทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์จากพ่อบุญธรรมที่พยายามสอนให้เขาประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาตั้งแต่เด็กๆ ในวัย 19 ปี เขาจึงเข้าร่วมสมาคม Homebrew Computer Club รวบรวมผู้ที่สนใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย และทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่ Atari ผู้ผลิตวิดีโอเกมชื่อดังในยุคนั้น และที่นั่นเองทำให้เขาได้พบกับ สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ในเวลาต่อมา
ในวัย 21 ปี สตีฟ จ็อบส์ และสตีฟ วอซเนียก ร่วมก่อตั้ง Apple โดยใช้โรงรถข้างบ้านของพ่อบุญธรรมเป็นออฟฟิศ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ Apple I ที่ทำมาจากไม้ ก่อนจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจน Apple กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ขายดีจนสามารถนำ Apple เข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชนในปี 1980
ชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ โลดแล่นในแวดวงไอที ผ่านทั้งขาขึ้นและขาลง เขาเคยถูกบีบให้ลาออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งมาด้วยมือ ก่อนจะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ Apple อีกครั้งด้วยการเปิดตัว iPhone ครั้งแรกในวันที่ 9 มกราคม 2007 โดย iPhone รุ่นแรกเป็นการรวมกันระหว่าง iPod โทรศัพท์ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้โลกของสมาร์ทโฟนในยุคนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่ต้องใช้แป้นกดแบบ Qwerty หรือใช้ปากกาจิ้ม ก็กลายเป็นระบบทัชสกรีนที่ใช้งานได้สะดวกกว่า อีกทั้งยังทำให้โทรศัพท์มือถือทำอะไรได้มากกว่าเดิมอีกมากมาย
สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตในวัยเพียง 56 ปี ด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน หลังประกาศเปิดตัว iPhone 4s ได้เพียงวันเดียว
หลังการเสียชีวิตของจ็อบส์ เว็บไซต์ Apple (Thailand) ได้แสดงข้อความไว้อาลัยว่า “Apple ได้สูญเสียอัจฉริยบุคคลผู้มีวิสัยทัศน์ และมีความคิดสร้างสรรค์ โลกสูญเสียบุคคลอันน่าทึ่ง ผู้ที่มีโอกาสได้รู้จักและร่วมงานกับจ็อบส์ก็สูญเสียเพื่อนผู้เป็นที่รัก และผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ จ็อบส์คงเหลือไว้ซึ่งบริษัทที่มีเขาเพียงผู้เดียวที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ จิตวิญญาณของเขาจะยังคงเป็นรากฐานของ Apple ตลอดไป”
