สัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกที่ร้านอาหารเหนือ ‘อองตอง’ ได้จับมือทำงานร่วมกับ เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ ซึ่งก็น่าจะเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่อองตองเปลี่ยนสไตล์การเสิร์ฟจากแบบ A La Carte ที่เราคุ้นเคย มาจัดเต็มเป็น Chef’s Table ขนาด 8 คอร์ส ในเซ็ตที่มีชื่อว่า ‘Ongtong Tei Kiminotok’
เชฟแบล็กอธิบายว่า เซ็ตนี้เกิดจากการเอาเมนูอาหารเหนือมาตีความใหม่อีกที แต่ละจานที่เราได้เห็นก็จะไม่เหนือเสียทีเดียว เพราะหยิบยืมสไตล์และเทคนิคที่ค่อนไปทางญี่ปุ่นมาใช้ แต่ชูวัตถุดิบและรสชาติอย่างเหนือ ที่สำคัญใน 8 คอร์ส มีลาบ ก้อย แกงอ่อม แอ็บ มาครบไปจนถึงข้าวกั้นจิ้น
ความเป็นญี่ปุ่นที่ว่ามีให้เห็นในหลายๆ จาน เช่น ‘ออร์เดิร์ฟ’ ที่ปกติเราจะชินกับการเสิร์ฟออร์เดิร์ฟเมืองในขันโตก แต่จานนี้เลือกทำเป็น ‘ฮัสซุน’ ในการเสิร์ฟของญี่ปุ่นไคเซกิ เพราะฮัสซุนคือคอร์สที่จะรวมวัตถุดิบตามฤดูกาลหลากหลายอย่างหลากหลายวิธีการปรุงไว้ในจานเดียว เสิร์ฟให้กินเล่นตอนช่วงต้นมื้อ จานนี้ก็เช่นกัน เชฟเลือกของกินเล่นหลายอย่างมาให้เรากินเล่นก่อน ตั้งแต่ข้าวแรมฟืนทอดกินกับซอสมะขาม, เมี่ยงขนมจีนที่นำเส้นไปผัดกับน้ำตาลเคี่ยว, ปีกไก่ยัดไส้จิ้นส้มหมกกินกับขิงดอง, อั่วหน่อหรือหน่อไม้ยัดไส้ กินกับน้ำพริกที่ดัดแปลงจากน้ำพริกหนุ่มมาใช้พริกจินดาและพริกชี้ฟ้าแทน ปิดคำสุดท้ายด้วยเมี่ยงลาว
Chef’s Table 8 คอร์ส จะเสิร์ฟถึงวันอาทิตย์นี้ก็จริง แต่ว่าจานหลักอย่าง ‘ไส้กรอกข้าวกั้นจิ้น ซอสน้ำเงี้ยวกับซี่โครง น้ำย้อย’ จะเสิร์ฟแบบ A La Carte สั่งได้ต่อด้วย จานนี้เสิร์ฟขนมจีนน้ำเงี้ยวและข้าวกั้นจิ้น เชฟเล่าให้ฟังว่า โดยปกติร้านน้ำเงี้ยวจะมีข้าวกั้นจิ้นเสิร์ฟด้วย แต่หลังๆ เริ่มเห็นน้อยลง เน้นขายเมนูเดียว เชฟเลยจับมาคู่กัน โดยทำข้าวกั้นจิ้นออกมาแบบไส้กรอก กินกับซี่โครงที่นำไปตุ๋นกับเครื่องน้ำเงี้ยว (ใช้เครื่องสูตรของอองตองด้วยนะ) กินคู่กับกะหล่ำเผา กระเทียมเจียว และมะเขือเทศดอง
นอกจากจานนี้ก็ยังมีตือคาโคกุ้งและน้ำจิ้มที่สามารถสั่งได้ที่อองตองทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม – 15 พฤษภาคม 2565 ส่วน Chef’s Table เสิร์ฟระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคมนี้เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ongtongkhaosoi