วันที่ 12 กันยายน 2022 อาจเรียกได้ว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทยอย่างแท้จริง เมื่อองค์กรกีฬาระดับโลกอย่าง ONE Championship ประกาศความร่วมมือกับเวทีมวยประวัติศาสตร์อย่างลุมพินี ที่ย่านรามอินทรา กรุงเทพมหานคร
โดยภายในงาน ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE Championship ได้ประกาศคำมั่นสัญญาในการพัฒนาอุตสาหกรรมมวยไทยไปข้างหน้า ทั้งการประกาศลงทุน 3,600 ล้านบาท ในวงการมวยไทยทั่วโลก การดึงเอาโปรโมเตอร์จากทั่วโลกมารวมตัวกันภายในงาน และการยกระดับมาตรฐานการแข่งขัน ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับ พล.อ. สุชาติ แดงประไพ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (เวทีมวยลุมพินี) ที่ต้องการให้เวทีมวยแห่งนี้ปลอดการพนัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาในแวดวงมวยไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
THE STANDARD ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ชาตรี ศิษย์ยอดธง เพื่อหาคำตอบถึงการแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ของวงการมวยไทย และเป้าหมายของ ONE Lumpiee กับการนำพาเวทีมวยลุมพินีและวงการมวยไทยไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม
การแก้ไขปัญหาการพนันที่ผ่านมาในวงการมวยไทย?
“ที่ผ่านมา 10 ปี ต้องยอมรับว่าวงการมวยไทยตกต่ำลง เพราะการพนันที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสิน มีการติดสินบนผู้ตัดสิน จนทำให้มวยไทยไม่ใช่กีฬาอีกต่อไป ไม่ใช่กีฬาที่ยุติธรรมสำหรับนักกีฬา
“แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน ONE ได้ก้าวขึ้นเป็นองค์กระดับโลก
“ผมคิดว่านี่เป็นเหตุผลที่เวทีลุมพินีให้ความสนใจกับ ONE เพราะพวกเขาเห็นว่าปัญหาไม่ใช่อยู่ที่กีฬามวยไทย แต่ปัญหาอยู่ที่ความยุติธรรมของการแข่งขัน ที่จะได้เห็นนักกีฬาแพ้ชนะกันด้วยฝีมือของพวกเขาเอง
“ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นใน ONE ผมคิดว่ากองทัพไทยมีวิสัยทัศน์ที่ดึงเอา ONE เข้ามาที่ลุมพินี และยังประกาศห้ามไม่ให้มีการพนันในสนามอีกด้วย เพื่อให้ผลการแข่งขันไม่ได้ถูกชี้นำจากคนที่ตั้งใจจะโกง
“เช่นเดียวกับ ONE ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก ด้วยเหตุผลคล้ายกัน”
ONE Lumpinee ไม่ใช่สถานที่ แต่คือยอดวิวจากทั่วโลก
โจทย์ใหญ่สุดของเวทีมวยไปจนถึงสนามกีฬาใหญ่ๆ ในประเทศไทยคือการเดินทางไปยังสนามและการดึงดูดแฟนกีฬาเข้าสนาม เพราะต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งของรายได้สำคัญคือการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขันกีฬา และบรรยากาศของสนามที่แม้ว่าถ่ายทอดสดจะคมชัดแค่ไหนก็ทดแทนบรรยากาศที่สนามไม่ได้
โดยเฉพาะเวทีมวยลุมพินีที่มีโจทย์สำคัญคืออยู่ห่างจากตัวเมือง ต่างกับสมัยก่อนที่ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ใกล้กับศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมืองหลวง แต่วันนี้เวทีมวยลุมพินีอยู่ห่างไกลจนทุกคนที่ตัดสินใจจะไปดูมวยต้องวางแผนการเดินทางเพื่อให้ไม่พบกับปัญหาการจราจร
แม้ว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูเตรียมจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2023 ก็ยังถือว่าอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและต้องใช้เวลาเดินทางพอสมควร
แต่สำหรับ ONE Lumpinee ชาตรีได้ตอบคำถาม THE STANDARD ในมุมมองที่แตกต่างออกไปสำหรับการรับชมการแข่งขันว่า คนดูของ ONE ไม่ได้อยู่ในสนาม แต่อยู่ในทั้งหมด 154 ประเทศที่จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
“แฟนมวยจะสามารถรับชมทางทีวีได้ เพราะรายการนี้จะถ่ายทอดไปทั่วโลก ที่ผ่านมารายได้ของ ONE ไม่ได้มาจากยอดขายตั๋วอยู่แล้ว
“สำหรับผมแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือยอดวิวของคนดูออนไลน์ บรรยากาศสนามเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือยอดวิวจากทั่วโลก นี่คือเรื่องที่ผมให้ความสำคัญที่สุด ผมรู้ว่าเราจะเป็นโปรโมชันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรามีฐานแฟนกีฬาขนาดใหญ่อยู่แล้ว
“การสร้างคุณค่า ฮีโร่ และเรื่องราวนั้นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จตลอดมา และจะทำให้เราประสบความสำเร็จในไทยเช่นเดียวกัน”
ONE Lumpinee ประตูสู่โอกาสทั่วโลกของคนวงการมวยไทย
“ONE Lumpinee จะเป็นโปรโมเตอร์เบอร์หนึ่งของไทย เราจะจ่ายเงินค่าตัวสูงกว่าโปรโมเตอร์อื่นในไทยอย่างน้อย 50% เราหวังจะพัฒนาอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งระบบ สำหรับโปรโมเตอร์ เจ้าของค่าย และนักกีฬา
“คุณจะเห็นนักกีฬาที่ดีที่สุดเติบโตขึ้นจากเวทีแห่งนี้ และคนที่ดีที่สุดจะได้ก้าวต่อไปสู่ ONE Championship ในเวทีโลก ดังนั้น ONE Lumpinee และ Road to ONE Fairtex เป็นเหมือนกับประตูแรกและขั้นตอนแรกในการสร้างซูเปอร์สตาร์ที่จะก้าวต่อไปสู่เวทีโลกกับ ONE”
การร่วมงานกับทุกฝ่ายต่อจากนี้
ในวงการมวยไทย 2 เวทีที่อยู่คู่กับวงการในฐานะเวทีหลักมาโดยตลอดคือ เวทีลุมพินีและเวทีราชดำเนิน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าทั้ง 2 เวทีได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้สังเวียนมวยไทยมีความเป็นสากลมากขึ้น และได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Rajadamnern World Series ที่เริ่มต้นแข่งขันไปแล้ว และ ONE Lumpinee ที่กำลังจะเปิดตัวศึกแรกอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2023 นี้
ซึ่งจากที่ THE STANDARD ได้สอบถามตัวแทนของทั้ง 2 เวที เราได้รับคำตอบเดียวกันซึ่งก็คือการร่วมมือพัฒนาวงการมวยไทยไปด้วยกัน
“ผมขอแสดงความยินดีกับพี่ชาตรีและเวทีลุมพินีครับ ผมมองว่าอนาคตของมวยไทยสดใสมากๆ เพราะการที่เรามีคนที่มีแพสชันเดียวกันหรือใกล้เคียงกันมาทำสิ่งนี้ ซึ่งก็คือการยกระดับมวยไทยให้มวยไทยเป็นกีฬาระดับโลกจริงๆ ผมคิดว่ายิ่งมีคนมาช่วยกันทำสิ่งนี้มากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งดีต่อวงการมวยไทย ทางราชดำเนินก็ยินดีที่จะร่วมเดินตามความเชื่อและแพสชันเดียวกันที่ทำให้มวยไทยเป็นกีฬาระดับโลก” แบงค์-เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร GVS ตัวแทนจากเวทีราชดำเนิน กล่าวถึงการเปิดตัวของ ONE Lumpinee
“ผมหวังที่จะทำงานร่วมกับโปรโมเตอร์ทุกฝ่าย เจ้าของยิม และนักกีฬา ONE คือองค์กรใหญ่ระดับโลกสำหรับมวยไทย เราเป็นพื้นที่ที่ใหญ่สุดสำหรับศิลปะการต่อสู้ สำหรับผมแล้ว ผมอยากทำงานร่วมกับทุกฝ่าย และสร้างโอกาสให้กับทุกคนได้เติบโตขึ้น” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ตอบคำถามถึงความร่วมมือกับเวทีราชดำเนินต่อจากนี้
สำหรับการเปิดตัวของ ONE Lumpinee นับเป็นก้าวสำคัญของวงการมวยไทย ที่ได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากองค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกจาก ONE ที่เข้ามาพร้อมกับเป้าหมายที่จะยกระดับทั้งมาตรฐานการแข่งขันและความเป็นอยู่ของคนในวงการ
การประกาศเปิดตัวครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่มีโอกาสนำพาวงการมวยไทยเข้าสู่ยุคทองที่เต็มไปด้วยโอกาสและการเติบโตในวงการกีฬามวยไทย
