ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยมีเทคโนโลยีมาเป็นแรงผลักดันสำคัญ ทำให้วันนี้หมดยุค Mass Media ที่โฆษณา 1 ชิ้นใช้กับทุกสื่อ แต่โฆษณายุคใหม่ต้องเป็น Omni Customer Journey
วรินทร์ ทินประภา Chief Strategy Officer ของ MI Group (หรือ Media Intelligence Group) ระบุว่า เราหมดยุค Mass Media มาหลายปีแล้ว การที่จะวางแผนสื่อสารแบบ One Size Fits All คือ งานโฆษณา 1 ชิ้นนำไปใช้สื่อสารบนสื่อดั้งเดิมเพียงไม่กี่สื่อ แต่คาดหวังผลลัพธ์ที่ดีคือ การรับรู้ ไปสู่สนใจ-ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม-ตัดสินใจซื้อ-ซื้อซ้ำหรือแฟนพันธุ์แท้ มันไม่ง่ายแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภูมิทัศน์สื่อชัดขึ้นจากโควิด-19 คนปรับตัวรับแพลตฟอร์มใหม่ นักการตลาดต้องปรับตัวกับความไม่แน่นอน
- ถอดมุมมอง ‘การตลาด’ ในวันที่ Creativity Marketing และ Performance Marketing ต้องมาคู่กัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่กว่า 80% ของผู้บริโภคชาวไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เยาวชน Gen Y หรือ Gen Z อีกต่อไป การระบาดของโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้เราเห็นภาพดังกล่าวมานี้ได้ชัดเจนและเร็วขึ้น
“การเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค Omni Customer Journey (หรือเส้นทางของผู้บริโภคที่เข้ามาสัมผัสกับแบรนด์ ทำให้เกิดประสบการณ์ในเรื่องต่างๆ กับแบรนด์ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีต่อแบรนด์ เช่น ยอดขาย) จึงเป็นหัวใจสำคัญในงานของเรา”
วรินทร์ระบุว่า หัวใจหลักของ MI Group ในการวางแผนสื่อสารการตลาดให้กับแบรนด์หรือสินค้า จะเน้นให้ความสำคัญกับ Insight-Led Media Planning โดยไม่แยกสื่อออกเป็นออฟไลน์และออนไลน์ แต่เน้นว่าต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงตัวตนของกลุ่มเป้าหมายที่จะสื่อสาร หรือที่เราเรียกกันว่า Lifeline ผ่านการใช้เครื่องมือต่างๆ
เช่น Social Listening Tools, การใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่จัดเก็บอย่างถูกต้องและได้รับการยินยอม (Consent & PDPA Compliance) หรือ Data-Driven Communications ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Communication Strategists ในการวางแผนสื่อสารการตลาดในยุคปัจจุบัน เราต้องมีส่วนร่วมในการรับมือกับความไม่แน่นอนและวิกฤตต่างๆ ของแบรนด์ (Crisis Management) ที่อาจมีเข้ามาด้วยเช่นกัน
โดย MI Group ให้ความสำคัญในการพัฒนาและติดอาวุธให้ Communication Strategists หรือนักวางแผนกลยุทธ์สื่อสาร ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อออกแบบการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดคือ ‘ต้องสื่อสารให้ถูกกลุ่ม โดยคอนเทนต์ต้องโดนใจ ในช่องทางที่ใช่ และช่วงเวลาที่กลุ่มเป้าหมายเปิดใจ’ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ทางการตลาดของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งจะทำให้แคมเปญประสบความสำเร็จได้
ล่าสุด MI Group ร่วมส่งผลงานเข้าประกวด 22 ผลงาน ได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย (Finalists) จำนวน 14 ผลงาน และสุดท้ายสามารถคว้า MAAT Media Awards ของสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ในสาขาต่างๆ ได้ถึง 10 ผลงานด้วยกัน ได้แก่
Gold Award 2 รางวัล
- IMC/Multiple Platform Awards – Using 3 or more medium – 2021: Future is Ready with ORA Good Cat
- Best Response to COVID-19 – 2021: Mitsubishi ร่วมด้วยช่วยไทย Best Response to COVID-19
Silver 5 รางวัล
- Best Full-Funnel Strategy – 2021: Hatakabb The Return of The Grandmaster
- Effectiveness Awards – 2020: Slimma Eat What You Want and Get in Slimma Shape!, 2020: M-150 Changing the game with M-Point, 2021: Hatakabb The Return of The Grandmaster
- Best Use of Media for Good – 2021: MI GROUP The Survival Hacks for SMEs 2022
Bronze 3 รางวัล
- Best Use of Audio – 2019: Mitsubishi Triton
- IMC/Multiple Platforms Awards – 2021: Hatakabb The Return of The Grandmaster
- Best response to COVID-19 – 2021: Hatakabb The Return of The Grandmaster
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP