×

‘โอลิมปิก’ อาจเป็นจุดเริ่มต้น! แต่วัคซีนคือกุญแจสำคัญต่อ ‘หุ้นญี่ปุ่น’ นักวิเคราะห์แนะทยอยซื้อในช่วงที่ยังถูก

13.06.2021
  • LOADING...
โอลิมปิก

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกมีโอกาสจะกลับมาจัดได้อีกครั้งระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม 2021 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลังจากต้องเลื่อนจากกำหนดการเดิมที่จะจัดขึ้นตั้งแต่ปี 2020 

 

เดิมทีโอลิมปิกถูกคาดหมายว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ญี่ปุ่นได้ค่อนข้างมาก และมีโอกาสที่จะช่วยให้ภาพการลงทุนโดยรวมกลับมาสดใส รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นด้วย แต่ด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้ภาพดังกล่าวยังไม่ได้สะท้อนออกมาเท่าใดนัก 

 

แม้กระทั่งในปีนี้ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างโดดเด่น ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่าง Nikkei 225 กลับปรับขึ้นได้เพียง 5-6% อย่างไรก็ตามมุมมองของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงมีความน่าสนใจ ในขณะที่มูลค่าหุ้นยังคงไม่แพงนัก 

 

วิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ Vice President Market Solution, Private Wealth Management ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นญี่ปุ่น หากมองปัจจัยในเรื่องของโอลิมปิกอาจจะไม่ใช่ส่วนสนับสนุนหลัก เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังระบาดอยู่ ทำให้การคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวหรือผู้ติดตามกีฬาอาจจะมีจำนวนไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้เดิม 

 

“โอลิมปิกเป็นส่วนสนับสนุนในระยะสั้นมากกว่า แต่สิ่งสำคัญคือโอลิมปิกอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโมเมนตัมเชิงบวกสำหรับหุ้นญี่ปุ่น เพราะกุญแจสำคัญที่จะทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลับมาโดดเด่นได้อีกครั้ง คือการเร่งกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้มากขึ้น” 

 

การกระจายวัคซีนได้ช้ากว่าที่คาดไว้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นญี่ปุ่นยัง Underperform และถึงแม้ว่าช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านจะเริ่มเห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าญี่ปุ่นราว 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังน้อยกว่าตลาดหุ้นอย่างยุโรป ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า 2 พันล้านดอลลาร์ 

 

นอกจากเรื่องของวัคซีนแล้ว จุดเด่นของหุ้นญี่ปุ่นในระยะถัดไปคือการที่ตลาดมีน้ำหนักของหุ้นวัฏจักรประมาณ 30-40% ในขณะที่มูลค่าหุ้นยังถูก โดยเฉพาะกลุ่ม Value ที่เป็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง 

 

โดยปกติแล้วกำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับดัชนี PMI ของ​โลก (Global PMI) ด้วยลักษณะของธุรกิจญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม และที่ผ่านมาจะเห็นว่า Global PMI ปรับขึ้นมาต่อเนื่องหลายเดือน โดยเฉพาะประเทศใหญ่อย่างจีนและสหรัฐฯ

 

“ส่วนตัวเชื่อว่าญี่ปุ่นจะกระจายวัคซีนได้มากขึ้นช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทำให้ตลาดหุ้นจะเริ่มกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง และในเชิง Valuation จะเห็นว่าดัชนีอย่าง TOPIX และ Nikkei มีค่า Forward P/E เพียง 16 เท่า และ 18-19 เท่า ตามลำดับ เทียบกับดัชนีอย่าง S&P 500 ซึ่งเทรดกันอยู่ที่ P/E 22 เท่า ทำให้หุ้นญี่ปุ่นยังน่าสนใจ” 

 

ด้าน รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ หัวหน้าฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บล.บัวหลวง มองว่าข้อดีของตลาดหุ้นญี่ปุ่นคือความเสี่ยงที่ต่ำกว่า จากธีมการลงทุนหลักของโลกที่หันเข้าสู่หุ้น Value รวมถึงความเสี่ยงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจตัดสินใจส่งสัญญาณลดวงเงินอัดฉีด ซึ่งโดยหลักแล้วจะกระทบต่อหุ้นที่ P/E สูงมากกว่า

 

ปัจจุบันจะเห็นว่าโครงสร้างของดัชนีหุ้นญี่ปุ่นอย่าง Nikkei ยังเป็นหุ้น Old Economy ราว 40% ขณะที่รัฐบาลต้องการจะผลักดันให้โครงสร้างดังกล่าวเปลี่ยนไปสู่หุ้นที่อิงกับ New Economy มากขึ้น แต่ก็ถูกระทบจากโควิด-19 

 

“จุดดีของหุ้นญี่ปุ่นในเวลานี้คือมีหุ้นกลุ่ม Value อยู่มาก ทำให้โอกาสที่จะถูกเทขายออกมาในช่วงที่ตลาดปรับฐานมีน้อยกว่า แต่ในมุมของการเติบโตอาจจะยังมีคำถามอยู่ ทำให้หุ้นญี่ปุ่นในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าอาจจะเป็นภาพของการ Sideway มากกว่า” 

 

หากดู GDP ของญี่ปุ่นเมื่อไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ติดลบไป 5.1% ขณะที่หลายประเทศสามารถฟื้นตัวได้ แต่ตัวเลขการส่งออกเมื่อเดือนเมษายนก็ยังติดลบอยู่ 2.7% และดัชนี PMI ยังต่ำกว่าระดับ 50 โดยหลักเป็นผลจากโควิด-19 หลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ 

 

ส่วนแรงหนุนจากโอลิมปิกอาจจะไม่ได้มากอย่างที่คิด เพราะว่าการจัดเก็บรายได้และการผลิตเพื่อรองรับความต้องการด้านต่างๆ อาจจะหดหายไป เพราะฉะนั้นแล้วเชื่อว่าโอลิมปิกอาจจะไม่ได้มีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากนัก 

 

สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปสำหรับญี่ปุ่นคือการพยายามผลักดันอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เริ่มเห็นสัญญาณจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตอบรับมากขึ้น ทั้งในส่วนของการซื้อของออนไลน์ที่มีสัดส่วนเกิน 50% และสังคมไร้เงินสดที่ Morgan Stanley คาดว่าจะขยายตัวมากขึ้นในญี่ปุ่น 

 

ในเชิงกลยุทธ์นักลงทุนอาจมองญี่ปุ่นเป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุนและกระจายความเสี่ยงมากกว่า โดยมีกองทุน ETF ที่น่าสนใจ คือ iShares MSCI Japan ETF (EWJ) ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี MSCI และ iShares JPX-Nikkei 400 ETF (JPXN) ที่เน้นกระจายในหุ้นญี่ปุ่น 400 ตัว 

 

 

อ้างอิง: Morningstar Thailand ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 

พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising