×

มองบวกอีกราย! OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2024 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ โตดีเกินคาด

06.02.2024
  • LOADING...

องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยแนวโน้มการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยรวมในปี 2024 ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ 2.9% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในครั้งก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 2.7% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจนสู่ระดับปกติ

 

ขณะเดียวกัน OECD คาดว่า สหรัฐฯ น่าจะรายงานการเติบโต 2.1% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ที่คาดไว้ในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มการเติบโตในกลุ่มประเทศผู้ใช้สกุลเงินยูโรลดลงเหลือ 0.6% จาก 0.9% ส่วนญี่ปุ่น OECD คาดว่าจะเห็นอัตราการเติบโตไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 1.0% หรือประมาณครึ่งหนึ่งของ 1.9% ในปีก่อน

 

ระยะยาวยัง ‘โตปานกลาง’ หลังชะลอตัว 3 ปีติด

 

นอกจากนี้ รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจของ OECD ระบุว่า แม้จะมีการปรับมุมมองแนวโน้มการเติบโตโดยรวมที่สูงขึ้น แต่การเติบโตทั่วโลกยังคงคาดว่าจะอยู่ที่ระดับปานกลางคือ 3.1% ในปี 2024 ซึ่งถือเป็นการชะลอตัวลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยเป็นผลพวงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางหลักอื่นๆ เพื่อรับมือกับปัญหาราคาที่สูงขึ้น ควบคู่ไปกับการเติบโตที่ชะลอตัวในจีน ท่ามกลางปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์

 

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ในตลาดการเงินประเมินว่า Fed น่าจะได้ฤกษ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า Fed น่าจะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปก็มีแนวโน้มเคลื่อนไหวเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน และในส่วนของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นักวิเคราะห์มองว่า อาจเห็นการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในปีนี้

 

ในส่วนของปี 2025 การเติบโตทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 3.0% โดยได้รับแรงหนุนจาก ‘การผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างกว้างขวาง’ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมาบรรจบกันตามเป้าหมายของธนาคารกลาง และรายได้ที่แท้จริงแสดงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

‘ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์’ ยังกดดัน

 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกยังคงมีปัจจัยเสี่ยงคุกคาม โดย OECD ได้ออกโรงเตือนถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ท่ามกลางสงครามที่ดำเนินอยู่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส โดย OECD อธิบายว่า ความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างหรือบานปลายอาจขัดขวางการขนส่งสินค้าทั่วโลกมากเกินกว่าที่คาดไว้ในปัจจุบัน ทำให้ปัญหาคอขวดของอุปทานรุนแรงขึ้น และผลักดันราคาพลังงานให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่หากการจราจรติดขัดในเส้นทางสำคัญสำหรับการขนส่งน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางไปยังเอเชีย ยุโรป และทวีปอเมริกา

 

รายงานของ OECD ยังประเมินอีกว่า ประเทศเศรษฐกิจหลักๆ มีแนวโน้มเติบโตปานกลางในปี 2025 โดยสหรัฐฯ เติบโตที่ 1.7%, ยูโรโซน 1.3% และญี่ปุ่น 1.0 % โดยตัวเลขคาดการณ์สำหรับยูโรโซนและญี่ปุ่นปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งก่อนในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งระบุว่า ยูโรโซนจะปรับตัวได้ 1.5% และญี่ปุ่น 1.2% 

 

นอกจากนี้ รายงานของ OECD ระบุอีกว่า ในญี่ปุ่นการเติบโตของค่าจ้างน่าจะค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น แต่การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นคาดว่าจะชะลอลงตลอดทั้งปี 2024 และ 2025 เนื่องจาก ‘นโยบายเศรษฐกิจมหภาคเริ่มเข้มงวดขึ้น’

 

ด้านจีน ซึ่งไม่ใช่สมาชิก OECD มีแนวโน้มว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ที่ 4.7% ในปีนี้ และ 4.2% ในปีหน้า ก่อนย้ำว่า แม้นโยบายการเงินควรจะ ‘เข้มงวด’ เป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ซ่อนอยู่นั้นจะมีความยั่งยืน และมีขอบเขตในการลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาและยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2024 ตามลำดับ

 

ภาพ: thitivong / Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising