* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหา
ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่ทราบข่าวว่า เคต บลานเชตต์ จะมาแสดงภาพยนตร์ร่วมกับ ริฮานนา ใน Ocean’s 8 เราต้องถามตัวเอง “นี่ถามจริง?” เพราะดูทีท่านักแสดงดีกรีออสการ์ชาวออสเตรเลียที่รักการเล่นละครเวทีเป็นชีวิตจิตใจและเคยแสดงเป็นราชินีอลิซาเบธ อาจจะไม่สามารถจูนเข้ากับนักร้องสาวจากเกาะบาร์เบโดสที่ร้องเพลง Work, Work, Work แต่ผลลัพธ์ก็กลับ ‘Work’ ตามชื่อเพลงของริฮานนา และเป็นภาพยนตร์ที่มีเสน่ห์ในตัว ล้นไปด้วยกิมมิกป๊อปคัลเจอร์ นักแสดงมีเคมีที่สัมผัสได้ว่านอกจอต้องนับถือกันและกัน และมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ไม่ทำให้งงเหมือนจักรวาลเหล่าซูเปอร์ฮีโร่บางแฟรนไชส์ที่เราต้องวาดแผนผังใยแมงมุมอยู่ตลอดเวลา
Ocean’s 8 เป็นภาพยนตร์ Spin-Off จากแฟรนไชส์ Ocean’s Eleven ของผู้กำกับ Steven Soderbergh (เขาเป็นโปรดิวเซอร์เรื่องนี้ด้วย) ซึ่งได้ แกรี รอสส์ ที่เคยกำกับ Seabiscuit (2003) และ The Hunger Games (2012) ภาคแรก มากำกับให้ โดยเล่าเกี่ยวกับ Debbie Ocean (แสดงโดยซานดร้า บูลล็อก) ขโมยสาวที่เป็นน้องสาวของ Danny Ocean (แสดงโดยจอร์จ คลูนีย์ ในภาคก่อนๆ ของ Ocean’s Eleven) ที่ออกจากเรือนจำหลังติดมา 5 ปี 8 เดือน กับอีก 12 วัน และตลอดระยะเวลานี้ได้แพลนการโจรกรรมสร้อยคอเพชร Cartier รุ่น Jeanne Toussaint มูลค่า 150 ล้านเหรียญ ที่งานการกุศล Met Gala ณ พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art ที่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งนักแสดงสาว Daphne Kluger (แสดงโดยแอนน์ แฮทธาเวย์) จะใส่ไป
แต่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ทาง Debbie ก็ต้องร่วมมือกับสาวๆ อีก 6 คนที่ชำนาญในแต่ละสิ่งไม่เหมือนกัน ทั้ง Lou เพื่อนสนิท (แสดงโดยเคต บลานเชตต์), Amita นักทำเครื่องประดับ (แสดงโดยมินดี้ คาลิง), แฮงเกอร์ Nine Ball (แสดงโดยริฮานนา), แม่บ้าน Tammy (แสดงโดยซาราห์ พอลสัน), แฟชั่นดีไซเนอร์ Rose Weil (แสดงโดย เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์) และ Constance นักปล้น (แสดงโดย Awkwafina) ซึ่งต้องชื่นชมการแคสติ้งว่าผสมผสานกันอย่างลงตัวและมีผู้หญิงหลากหลายรูปแบบที่สำคัญสำหรับบริบทของสังคมยุคสมัยนี้
ต้องบอกก่อนว่าถ้าใครอยากดูภาพยนตร์สไตล์โจรกรรมผสมคอเมดี้ที่ซับซ้อน มีเรื่องราวที่พลิกผันตลอดเวลา และการแสดงของดาราที่มีลุ้นช่วงเทศกาลแจกรางวัล Ocean’s 8 ก็อาจจะไม่ใช่สำหรับคุณ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีดีกรีความ ‘คูล’ เทียบเท่า Ocean’s Eleven กับแบรด พิตต์ และจอร์จ คลูนีย์ แต่เพราะความไม่พยายามและการเดินตามสูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวูดสายคอมเมอร์เชียลที่หลายคนหลงรักมาตลอด เช่น เปิดตัวด้วยทิวทัศน์ของมหานครนิวยอร์ก นั่นแหละทำให้ Ocean’s 8 เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับการไปดูช่วงเสาร์อาทิตย์แบบไม่ต้องคิดมาก พร้อมกินป๊อปคอร์นแบบ Non-Stop เกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งนานแล้วที่เราไม่ได้มีภาพยนตร์ประเภทนี้ออกมา หลังฮอลลีวูดเลือกทำแต่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ ภาพยนตร์รีเมก หรือแนวดราม่าหนักๆ เพื่อล่ารางวัลเป็นหลัก พูดได้ว่าถ้า Ocean’s 8 ปล่อยในยุค 90s เราต้องไปยืมวิดีโอที่ร้าน Blockbuster เป็นประจำ และตอนนี้เราก็นับวันรอที่ภาพยนตร์จะถูกนำมาฉายทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ ในอนาคต
ถ้าต้องเลือกการแสดงที่โดดเด่นสุดใน Ocean’s 8 เราก็ต้องยกให้ แอนน์ แฮทธาเวย์ เพราะเธอสามารถสร้างตัวละครนักแสดงฮอลลีวูด Daphne Kluger ที่ดูโอเวอร์และเป็นดิวาเหมือนที่สื่อ Tabloid เช่นนิตยสาร US Weekly หรือ In Touch ชอบพยายามวาดภาพตัวเธอเองในชีวิตจริง ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาแอนน์ก็ดูเหมือนต้องหนีจากสปอตไลต์ไปสร้างครอบครัวของตัวเอง หลังคนดูเหมือนจะเริ่ม ‘รำคาญ’ ในตัวเธอ แต่เราเชื่อว่า Ocean’s 8 จะทำให้เธอกลับเป็นที่รักอีกครั้งอย่างแน่นอน แถมสิ่งที่น่ารักคือเมื่อ 12 ปีก่อนหลายคนก็รักเธอจากภาพยนตร์ The Devil Wears Prada (2006) ตอนเธอเล่นเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสารที่จัดงานคล้าย Met Gala แต่ใน Ocean’s 8 เธอก็กลายเป็นดาวของ Met Gala
ส่วนสำหรับใครที่กลัวว่าค่าตั๋วจะไม่คุ้มค่า เราก็ต้องบอกว่าจำนวนดาราที่มาโผล่ในเรื่อง Ocean’s 8 ก็ถือว่าล้นหลาม ตั้งแต่ คิม คาร์ดาเชียน เวสต์, จีจี้ ฮาดิด, เซเรนา วิลเลียมส์, แซค โพเซน, ไฮดี คลุม และ แอนนา วินทัวร์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Vogue อเมริกา ที่แม้จะเล่นแค่ 5 วินาที แต่เราก็ไม่อยากให้พลาดความตลกของเธอ
หลายคนตั้งคำถามว่า เหตุผลที่ Ocean’s 8 เป็นจุดสนใจช่วงนี้เพราะเรื่องราวสิทธิของผู้หญิงในวงการฮอลลีวูดที่เป็นประเด็นสำคัญตลอดกว่า 9 เดือนที่ผ่านมา ทั้งกับ Time’s Up, #MeToo และคดีการล่วงละเมิดทางเพศ ความจริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำก่อนเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยซ้ำ และไม่ได้พยายามสร้างจุดยืนของการเป็นเฟมินิสต์หรืออะไรมากมาย แต่สิ่งที่เราพูดได้คือหลังจากดูภาพยนตร์ Ocean’s 8 ก็เป็นการตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมบันเทิงไม่เห็นต้องกลัวที่จะทำภาพยนตร์ที่มีกลุ่มนักแสดงผู้หญิงเล่าเรื่องและชูโรง แบบปราศจากพระเอกถอดเสื้อโชว์ซิกซ์แพ็กดั่งเทพโรมันกินโปรตีนเชกทั้งวี่ทั้งวัน ซึ่งเราหวังว่า Ocean’s 8 จะช่วยผลักดันสิ่งนี้ไม่เพียงแต่เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังด้วย ที่เราก็อยากให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคส่วนของวงการ
ส่วนควรจะมีภาคต่อหรือไม่ เราก็มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำภาคต่อไปได้เรื่อยๆ แต่ต้องมีเรื่องราวและบทที่แข็งแรง เพราะเราคงไม่ต้องการแฟรนไซส์อีกเรื่องที่พอทำภาคต่อก็รีบทำและทำมาเพื่อหวังโกยเงิน ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่ายุคนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว
Photo: Warner Bros.
