×

ณัฐวุฒิพาครอบครัวคนเสื้อแดงทวงความยุติธรรม ร้อง DSI ช่วยไต่สวนคดีเสียชีวิตสลายชุมนุมที่ยังคงค้าง

โดย THE STANDARD TEAM
26.12.2024
  • LOADING...
ณัฐวุฒิ DSI

วันนี้ (26 ธันวาคม)​ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ธงชัย พรเศรษฐ์ รองนายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และญาติผู้สูญเสียบุคคลในครอบครัวจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองปี 2553 เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI เพื่อขอให้ไต่สวนหาผู้กระทำความผิดและคืนความยุติธรรมให้ประชาชน โดยมี ร.ต.อ. วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี DSI เป็นตัวแทนรับเรื่อง

 

ณัฐวุฒิกล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ได้ร่วมชะตากรรมกับพี่น้องในเหตุการณ์การสูญเสียจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 และมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ DSI ช่วยดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้มากดดันให้กระทำการนอกเหนือกฎหมาย

 

การเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รวม 99 ราย มีการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งมีการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตในชั้นศาลไปแล้ว 31 ราย ส่วน 17 ราย ศาลชี้ว่าประชาชนเสียชีวิตจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ ส่วนอีก 14 ราย ศาลระบุว่าไม่สามารถชี้ชัดว่าเสียชีวิตจากบุคคลกลุ่มใดหรือใครกระทำ

 

นอกจากนี้ยังคงมีจำนวนร่างผู้เสียชีวิตคงค้างอีก 68 ราย ซึ่งเป็นประชาชนคนไปชุมนุมที่ยังไม่มีการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตโดยศาล และเนื่องด้วยการไต่สวนการเสียชีวิตถูกยุติลงตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ตรงกับวันรัฐประหาร ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตโดยศาลมาอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ตาม จนเวลาล่วงเข้ามาที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ตนและญาติครอบครัวของผู้สูญเสียพยายามติดตามประสานงานกับส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง พบว่ามี DSI กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จนทราบว่ามีการหารือภายในระหว่างสองหน่วยงานไปแล้วก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีต่างๆ หรือขั้นตอนทางคดีอยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรใดบ้าง

 

จนได้ข้อยุติว่าขณะนี้สำนวนคดีทั้งหมดมารวมอยู่ที่ DSI แล้ว และถ้าหากเรายืนยันความประสงค์ที่จะให้เดินหน้าตามกฎหมายต่อไป จึงต้องมาตั้งต้นที่ DSI และขอให้หลังจากนี้ DSI ได้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนตนจะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหลังยุติไป 10 ปี

 

ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า เนื่องด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตคงค้างอีก 68 ราย ที่อาจจะมีขั้นตอนจำนวนมาก ตนจึงประสานไปยังสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เพื่อให้มาช่วยดำเนินการทางขั้นตอนกฎหมายและการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต มีการเก็บรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดจนมาใช้ยื่น DSI ในวันนี้

 

ทั้งนี้ ตนหวังว่าความยุติธรรมจะมาถึงชะตากรรมของผู้สูญเสียในที่สุด และขอเรียนพี่น้องประชาชนและบุคคลทางการเมืองทุกฝ่ายว่าเราไม่ได้ทำเรื่องนี้ให้เป็นกระแสทางการเมือง และไม่ได้ทำเพราะมีเจตนาเคืองแค้นส่วนบุคคลแต่อย่างใด แต่เมื่อมันชัดว่ากฎหมายบัญญัติอย่างไร จึงต้องการให้มันเป็นไปตามกฎหมาย และอยากให้ผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิและกฎหมายจากกระทรวงยุติธรรมเทียมเท่าผู้สูญเสียในคดีอื่นๆ

 

แต่ไม่ว่ากระบวนการยุติธรรมจะมีข้อยุติอย่างไร เราก็เคารพการดำเนินการ ไม่ได้มีความประสงค์จะสร้างพื้นที่เผชิญหน้าทางการเมืองหรือสร้างวิวาทะใด เพราะที่ผ่านมาผู้สูญเสียก็เจ็บปวดกันมามากพอแล้ว และสังคมก็มีบาดแผลจากความขัดแย้งมาเกินพอแล้ว จึงขอให้เรื่องนี้เป็นกระบวนการของศาลและกลไกรัฐที่จะทำให้ความยุติธรรมเดินหน้า

 

ณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานจะให้บอกว่ามั่นใจตนคงไม่กล้าพูด เพราะเหตุการณ์ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว แต่เราไม่เคยสิ้นหวัง เราอยู่กันด้วยความหวัง จึงหวังใจว่าในรัฐบาลปัจจุบันจะทำให้เรื่องนี้มีการเดินหน้าก้าวสำคัญไปสู่ความยุติธรรมได้

 

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอเรียกว่าเป็นการรื้อคดี เพราะมันไม่ได้ถูกเอาไปเก็บไว้ที่ไหนแต่มันถูกหยุดเรื่องเอาไว้ เราเพียงอยากให้เรื่องมันเดินต่อ ดังนั้นหากใช้คำว่ารื้อคดีจะหมายความว่าที่ผ่านมาเรายอมรับว่ามันจบไปแล้ว แต่สำหรับตนมันไม่เคยจบ เพียงแต่ว่าเรื่องมันหยุดนิ่งโดยไม่มีคำอธิบายและมีนัยสำคัญที่เกี่ยวกับอำนาจ

 

ทั้งนี้ ภายหลังการรัฐประหารก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องการไต่สวนการเสียชีวิต และไม่อยากใช้คำว่ารื้อ เพราะจะกลายเป็นว่าพวกตนมาทำให้ความขัดแย้งที่ขณะนี้มันก็คงคุกรุ่นอยู่ จะยิ่งไปเพิ่มเงื่อนไขหรือบรรยากาศหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่มี มันไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายเท่านั้น

 

ถึงขณะนี้เรื่องผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์การชุมนุม 2553 ยังไม่ปรากฏที่ศาลไหนเลย ซึ่งในตอนนั้นมีอดีตนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถูกกล่าวหา โดยท่านได้มีการไปฟ้องแย้งและสู้จนถึงชั้นศาลฎีกา ซึ่งศาลฎีกาชี้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นอำนาจศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

จึงทำให้เรื่องต้องไปตั้งต้นที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเราได้ตามไปที่ ป.ป.ช. ปรากฏว่า ป.ป.ช. ไม่มีการชี้มูลความผิดผู้มีอำนาจสั่งการทั้งหลาย ตนจึงเสนอแก้กฎหมายว่ากรณีที่มีความผิดถึงแก่ชีวิตหาก ป.ป.ช. ไม่มีการชี้มูลหรือชี้มูลแล้วแต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ให้สิทธิ์ผู้เสียหายหรือญาติโดยตรงของผู้เสียชีวิตฟ้องร้องต่อผู้สั่งการเองได้

 

ณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าของร่างแก้ไขประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ซึ่งได้มีการนำกลับมาทบทวนแก้ไขใหม่ และมีการเข้าชื่อยื่นต่อรัฐสภา ขณะนี้ร่างดังกล่าวผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องด้วยมีเนื้อหาบางส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้รับการตีความว่านี่เป็นกฎหมายเกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งโดยขั้นตอนจะต้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับรอง

 

ทำให้ขณะนี้เรื่องเดินไปถึงสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนจึงกำลังติดตามความคืบหน้าและเชื่อว่าในเดือนมกราคม 2568 จะผ่านขั้นตอนดังกล่าว แล้วหวังว่าจะถูกบรรจุเข้าวาระการประชุมของรัฐสภาโดยเร็ว

 

ขณะที่ ร.ต.อ. วิษณุ กล่าวว่า สำหรับการยื่นเรื่องของครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อ DSI เพื่อขอให้ไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตจากการชุมนุมปี 2553 จำนวน 68 ราย ในวันนี้ DSI รับเรื่องไว้เรียบร้อย และจากนี้จะให้กองบริหารคดีพิเศษประมวลเรื่องเพื่อนำเสนออธิบดีกรม DSI มอบหมายให้กองคดีที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวดำเนินการต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X