วันนี้ (20 ตุลาคม) ที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อเวลา 14.30 น. เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ถูกนำตัวขึ้นรถคุมขังของสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งระหว่างรถเคลื่อนออกจากเรือนจำ เพนกวินได้ชูสามนิ้ว ขณะที่ตำรวจได้ขับรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น 10 นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี ได้ปล่อยตัว ณัฐชนน ไพโรจน์ โดยได้เดินชูสามนิ้วออกจากเรือนจำด้วยเท้าเปล่า พร้อมสวมชุดเดียวกับวันที่ถูกจับ พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าตนนั้นถูกตำรวจบุกเข้าจับกุม โดยไม่ให้โอกาสได้เตรียมตัว แม้กระทั่งขาเทียมยังไม่ได้นำมาด้วย ซึ่งตนมองว่าการดำเนินคดีกับแกนนำหรือผู้ชุมนุมเป็นการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม สะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมของรัฐ ทั้งๆ ที่การชุมนุมถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ตนยืนยันว่าจะยังคงไว้ซึ่งจุดเดิม และจะเป็นตัวแทนของแกนนำทุกคนที่ยังถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ เข้าร่วมการชุมนุมอย่างแน่นอน เนื่องจากไม่ได้ขัดเงื่อนไขการปล่อยตัวของศาล
ส่วนกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และแสดงให้เห็นว่าชัยชนะของมวลชนใกล้สำเร็จแล้ว แต่ยืนยันว่าทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายคือ รัฐบาลจะต้องทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของผู้ชุมนุม
ณัฐชนน ยังกล่าวถึงการใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ 6 วันว่าเป็นไปอย่างปกติ ไม่มีอะไรเป็นอันตราย โดยตนอยู่ในแดนสุดท้ายชั้นบนสุด อีกทั้งผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำหลายคนถูกดำเนินคดีด้วยความไม่เป็นธรรม ดังนั้นบรรยากาศภายในเรือนจำจึงเปรียบเสมือนการมาพบปะและใช้ชีวิตกับรุ่นพี่รุ่นน้องที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
ณัฐชนนกล่าวอีกว่า ระหว่างที่ตนถูกคุมขัง ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับแยกตัวไม่ให้เจอกับรุ้ง และเพนกวิน แต่ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันบ้างเวลาที่มีทนายความมาเยี่ยม โดยทุกคนยืนยันว่าจะต้องสานต่อเจตนารมณ์ในการเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล