NRF ขยายการลงทุนในธุรกิจ Plant-based ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โดยตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และร่วมกับ PTT จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างโรงงาน Plant-based กำลังการผลิตประมาณ 3,000 ตันต่อปี คาดก่อสร้างจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/65
NRF จับมือ PTT ตั้งโรงงาน Plant-based กำลังผลิต 3 พันตันต่อปี, สร้างเสร็จ 4Q65
บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ทั้งสิ้น 2 แห่ง คือ
- บริษัท โนฟ อีทส์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจขายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม Plant-based ให้ผู้บริโภคผ่านช่องทางการค้าปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น อีกทั้งยังขายสินค้าให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งออกภายใต้แบรนด์ของบริษัทร่วมทุน
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF ถือหุ้น 50.99% เบญจมาศ อ่อนศรี ถือหุ้น 0.01% และ เอสเตอร์ อาร์เธอร์ ชูว์ ไฮ ซีน ถือหุ้น 49%
ทั้งนี้ เพื่อกลยุทธ์ส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้าน Plant-based เพื่อรองรับการขยายตัวของการบริโภคอาหารและอุตสาหกรรมโปรตีนจากพืชที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเล็งเห็นถึงโอกาสและความสามารถในการเติบโตและต่อยอดจากภาคการผลิตของบริษัท นอกจากนี้จะทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และสามารถมาปรับใช้และนำความรู้มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ Plant-based ในอนาคตต่อไป
- บริษัท นิวทรา รีเนจเนอเรทีฟ โปรตีน จำกัด หรือ NRPT เพื่อลงทุนจัดตั้งโรงงานอาหารโปรตีนจากพืช หรือ Plant-based โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 3,000 ตันต่อปี คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/65 และมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางในการผลิตและจัดจำหน่ายทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทร่วมทุนจะประกอบธุรกิจผลิตและขายสินค้า Plant-based, Experience Store รวมถึงวิจัยและพัฒนา (R&D) โปรตีนทางเลือกอื่นๆ (Alternative Proteins) ในอนาคต
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ NRPT ประกอบด้วย บริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ถือหุ้น 50% และบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือหุ้น 50%
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้าน Plant-based เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในอุตสาหกรรมที่กำลังนิยมอย่างสูง ขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมให้มีความพร้อมสำหรับการรับจ้างผลิตอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มาจากโปรตีนจากพืช ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทที่มีรูปแบบพร้อมรองรับกระแสนิยมของอาหารแห่งอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดการประหยัดต่อหน่วย ช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อชิ้น และเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP