เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือแจ้งต่อทางการญี่ปุ่นว่า จะมีการปล่อยดาวเทียมระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 11 มิถุนายน 2023 ซึ่งทางฝั่งญี่ปุ่นยังคงไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธและอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ อยู่หลายครั้ง รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่นใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง
เกาหลีเหนือแจ้งต่อหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นว่า การปล่อยวัตถุดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 11 มิถุนายน 2023 และอาจส่งผลกระทบต่อน่านน้ำใกล้กับทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออก และทางตะวันออก ของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่สำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเรียกร้องให้เกาหลีเหนืองดเว้นการยิงขีปนาวุธ และกล่าวว่า ทางการจะประสานงานกับชาติพันธมิตรอย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากการปล่อยดาวเทียมหรือวัตถุใดๆ ของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นระบุด้วยว่า ทางการพร้อมที่จะยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหากรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของประเทศ โดยจะใช้ระบบขีปนาวุธอากาศยาน Patriot PAC-3 เพื่อทำลายขีปนาวุธดังกล่าว
ฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่า การปล่อยวัตถุใดๆ ของเกาหลีเหนือจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพลเมืองชาวญี่ปุ่น แม้เกาหลีเหนือจะเรียกว่านี่คือการปล่อยดาวเทียมก็ตาม
ด้าน ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) อย่างร้ายแรง
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ สั่งเดินหน้าแผนการปล่อยดาวเทียมสอดแนมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจร หลังทางการเกาหลีเหนือพัฒนาดาวเทียมดังกล่าวได้สำเร็จ ขณะที่เมื่อช่วงไม่กี่วันมานี้ คิมจองอึนยังได้ควงคู่บุตรสาว คิมจูแอ เข้าตรวจสอบโครงการพัฒนาดาวเทียมสอดแนมทางทหารของประเทศ โดยเป็นโครงการที่สื่อทางการเกาหลีเหนือให้นิยามว่า ‘เป็นแผนปฏิบัติการแห่งอนาคต’
นักวิเคราะห์กล่าวว่า โครงการดาวเทียมสอดแนมดังกล่าวเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะยกระดับเทคโนโลยีเพื่อการสอดส่องตรวจตรา รวมถึงโดรน และการพัฒนาความสามารถในการโจมตีเป้าหมายในกรณีที่เกิดความขัดแย้งขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้สื่อเกาหลีเหนือเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์แผนการของเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่ตกลงเชื่อมต่อระบบเรดาร์เข้าถึงกัน เพื่อให้สามารถแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้แบบเรียลไทม์ โดยระบุว่า นี่คือมาตรการอันชั่วร้ายที่มีขึ้นเพื่อกระชับความร่วมมือทางทหาร
แฟ้มภาพ: KCNA / Pool / Latin America News Agency via Reuters Connect
อ้างอิง: