คิมโยจอง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลี และน้องสาวผู้มากอิทธิพลของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของ เกาหลีเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ในวันนี้ (25 มีนาคม) ว่า ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีแห่งญี่ปุ่น แสดงความตั้งใจที่จะจัดการประชุมสุดยอดร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าต้องการให้การประชุมเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า การเปิดบทใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทางการเมืองของญี่ปุ่น โดยชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะไม่มีวันก้าวหน้า ตราบใดที่รัฐบาลของคิชิดะยังมีการหยิบยกประเด็นพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปยังเกาหลีเหนือในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และต่อต้านสิ่งที่เธอเรียกว่า ‘การใช้สิทธิอธิปไตยของเกาหลีเหนือ’ ซึ่งหมายถึงการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“หากญี่ปุ่นยังคงพยายามแทรกแซงการใช้สิทธิอธิปไตยของเรา และยังคงหมกมุ่นอยู่กับปัญหาการลักพาตัว ซึ่งไม่มีอะไรให้แก้ไขหรือสอบสวนอีกต่อไปแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้อเสนอการเจรจาของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นก็จะถูกตีตราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ว่าเป็นเพียงความพยายามเพื่อฟื้นความนิยมของเขา” คิมโยจองระบุ และยืนยันว่า
“ตราบใดที่ญี่ปุ่นยังเป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ และละเมิดสิทธิอธิปไตยของเรา เราจะถือว่าญี่ปุ่นเป็นศัตรูที่อยู่ในเป้าหมายของเรา ไม่ใช่มิตร นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นควรรู้ว่าเขาไม่สามารถพบกับผู้นำประเทศของเราได้เพียงเพราะเขาต้องการ หรือเพียงเพราะเขาตั้งใจแน่วแน่”
ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ คิมโยจองได้ออกแถลงการณ์ที่คล้ายกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น โดยระบุว่า เกาหลีเหนือนั้นเปิดกว้างที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และยังเชิญคิชิดะมาที่กรุงเปียงยางด้วย แต่เน้นย้ำว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลโตเกียว ‘เลิกนิสัยแย่ๆ ในการยับยั้งเกาหลีเหนืออย่างไร้เหตุผล จากสิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง และไม่วางอุปสรรคเช่นปัญหาการลักพาตัวที่มีการสะสางไปแล้ว’
ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อแถลงการณ์ของน้องสาวคิมจองอึน ขณะที่นายกรัฐมนตรีคิชิดะให้สัมภาษณ์สื่อที่รัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้ ว่าไม่ทราบเรื่องแถลงการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คิชิดะเคยกล่าวว่า เขาเชื่อว่าการประชุมสุดยอดกับคิมจองอึนนั้นมีความสำคัญในหลายๆ ด้าน รวมถึงการแก้ปัญหาพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปยังเกาหลีเหนือ
สั่นคลอนความมั่นคงไตรภาคี
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น โดยชี้ว่าเกาหลีเหนือนั้นกำลังพยายามที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น เพื่อทำให้ความเป็นหุ้นส่วนความมั่นคงไตรภาคีระหว่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ อ่อนแอลง
ส่วนคิชิดะเองก็ต้องการความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับเกาหลีเหนือเพื่อเพิ่มคะแนนนิยมของเขาที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับเกาหลีเหนือและญี่ปุ่นนั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ถูกปิดกั้นมายาวนาน ทั้งจากโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ตลอดจนกรณีการลักพาตัวชาวญี่ปุ่น และการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่นในคาบสมุทรเกาหลีช่วงปี 1910-1945
การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำของสองประเทศเคยเกิดขึ้นในปี 2002 ระหว่าง คิมจองอิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือผู้ล่วงลับและบิดาของ คิมจองอึน กับ จุนอิจิโร โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้น โดยมีการหารือหลักๆ ในประเด็นที่สายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 คนเพื่อนำไปฝึกเป็นสายลับ ซึ่งเกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวชาวญี่ปุ่น 5 คนกลับไป แต่ระบุว่าคนอื่นๆ ได้เสียชีวิตแล้ว
ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเชื่อว่าบางคนอาจยังมีชีวิตอยู่ และเชื่อว่ายังมีชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปอีกหลายร้อยคน
ภาพ: Pool/Getty Images
อ้างอิง: