×

จาก ‘No More Bets’ ภาพยนตร์ตีแผ่ทุนจีนสีเทา ถึงปมฉาวซิงซิง เศรษฐกิจใต้เงาอาชญากรรมข้ามชาติ จีนทิ้งตั๋วเที่ยวตรุษจีนไทย 15.6%

30.01.2025
  • LOADING...

จากความกังวลเรื่องการลักพาตัวดาราชาวจีน หวังซิง ทำให้เราเห็นการรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวจีนยกเลิกเที่ยวตรุษจีนที่ไทย และเมื่อมองย้อนไปตอนที่ภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์ No More Bets เข้าฉายไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก็ยิ่งสะท้อนว่าปัญหาทุนจีนสีเทาใต้เงาอาชญากรรมข้ามชาติมีอยู่จริง และส่งผลกระทบถึงทุกวันนี้

 

ไม่ใช่แค่ไทยเท่านั้น ปมปัญหายังขยายวงกว้างไปถึงเมียนมา กัมพูชา และกระทบภาคการท่องเที่ยวทั่วทั้งอาเซียน ซึ่งหากแก้ไขช้า นับวันปัญหานี้ก็ยิ่งกัดกร่อนทำลายจนเกิดเป็นบาดแผลทางเศรษฐกิจ

 

โดยสำนักข่าว CNBC รายงานข้อมูลจาก Subramanian Bhatt ซีอีโอบริษัทวิเคราะห์การบิน VariFlight ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แม้ว่าจะยกเลิกในระดับที่น้อยก็ตาม

 

“แต่ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือไทย รวมไปถึงเพื่อนบ้าน ถือเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เพราะผู้คนจำนวนมากวางแผนที่จะเดินทางไปทั่วภูมิภาคอาเซียนนี้ครบจบในทริปเดียว ดังนั้นบางคนจึงยกเลิกทริปที่เดินทางประเทศเหล่านี้ด้วยเช่นกัน”

 

ขณะที่บริษัทด้านการตลาด China Trading Desk รายงานว่า ยอดการจองทริปท่องเที่ยวไทยช่วงตรุษจีนปีนี้ลดลง 15.6%

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

จีนเปลี่ยนแผนเที่ยวตรุษจีนอาเซียน ไปออสเตรเลีย-ดูไบ-เกาหลีใต้

 

ส่งผลให้ในช่วงสัปดาห์เดียวกันของเดือนมกราคม นักท่องเที่ยวชาวจีนจองทริปในช่วงตรุษจีนไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ มากขึ้น โดยมีทั้งออสเตรเลีย (+4.8%) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (+4.7%) และเกาหลีใต้ (+3.9%) แม้ในช่วงที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์วิดีโอที่สร้างด้วย AI เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนว่าการเดินทางมายังประเทศไทยนั้นปลอดภัย และทางการจีนย้ำว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามพรมแดนก็ตาม

 

 

ด้าน หยางเล่ย นักวิเคราะห์จาก China Galaxy International บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินในฮ่องกง ให้สัมภาษณ์กับรายการ Squawk Box Asia ของ CNBC ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนลังเลและเริ่มระมัดระวังมากขึ้นในการเดินทางไปยังไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน

 

โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจีนในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา

 

ชาวจีนยังผวาภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ No More Bets ตีแผ่ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ทุนจีนสีเทา

 

CNBC รายงานอีกว่า การลักพาตัวซิงซิงที่เป็นขบวนการล่อลวงมาทำงานในไทยยิ่งทำให้ชาวจีนหวาดกลัว แม้เจ้าหน้าที่ของไทยจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ให้กลับคืนมา

 

ทว่า หากย้อนไปนับตั้งแต่ภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์เรื่อง No More Bets ซึ่งเข้าฉายเมื่อปี 2023 ที่สะท้อนเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพล็อตเรื่องคือคู่รักชาวจีนที่ถูกหลอกให้มาทำงานยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

“แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสมมติ แต่ก็เล่าถึงสถานการณ์ที่สหประชาชาติ (UN) ประเมินและบันทึกข้อมูลไว้ว่ามีการล่อลวงผู้คนไปหลายแสนคนจริง”

 

ตามรายงานของ UN ระบุว่ามีการตั้งถิ่นฐานผิดกฎหมายในหลายแห่งบริเวณชายแดนไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ ‘แทบไม่มีอำนาจหลักนิติธรรม’ ไร้ซึ่งกฎหมายควบคุม และเต็มไปด้วยยาเสพติด การค้าสัตว์ป่า และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ

 

ในปีนั้น No More Bets สร้างรายได้ทั่วโลกมากกว่า 532 ล้านดอลลาร์ และทันทีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย กัมพูชาก็ประสบปัญหาไร้นักท่องเที่ยวชาวจีนนับตั้งแต่นั้นมา โดยเฉพาะเมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นที่ตั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศอย่างนครวัด

 

“เหตุการณ์ในกัมพูชาจึงสะท้อนมาถึงทางการไทยที่กังวลว่าอาจตกอยู่ในชะตากรรมที่คล้ายคลึงกัน”

 

ตามการรายงานของ China Trading Desk ระบุว่า เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มียอดการจองตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้น โดยยอดจองตั๋วไปสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 14.2% และมาเลเซียเพิ่มขึ้น 6.2% จากปี 2019 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจีนยังนิยมไปเที่ยวเกาหลีใต้ในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนมากขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวจีนในช่วงตรุษจีนนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดน้อยกว่าเท่าที่ควร

 

โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาญี่ปุ่นยังคงลดลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2019 และยังอยู่ในระดับไม่คงที่ แม้ว่าการเดินทางออกนอกประเทศจากจีนจะดีขึ้น แต่ก็ยังห่างไกลจากจุดหมายปลายทางระยะไกล เช่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา

 

‘ความเป็นกลางทางการเมือง’ มีผลต่อทริปชาวจีน หันเที่ยวสิงคโปร์-มาเลเซียแทน

 

นอกเหนือจากความปลอดภัยแล้ว ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และต้นทุนค่าครองชีพยังเป็นปัจจัยที่ผลักดันทัศนคติการเดินทางของจีนอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมประเทศที่ ‘เป็นกลางทางการเมือง’ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย จึงมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ส่วนการเดินทางไปยุโรปมีราคาแพงขึ้นเนื่องจากรัสเซียปิดน่านฟ้า ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวจากจีนเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจมานาน โดยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเกือบ 7 ล้านคนเดินทางมาเยือนในปี 2024 เพียงปีเดียว แต่รายงานข่าวล่าสุดวันนี้ (30 มกราคม) เผยว่าชาวจีนยกเลิกการเดินทางอย่างน้อย 10,000 ทริปในช่วงวันตรุษจีน

 

เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมการบินของไทยระบุว่า แม้โดยรวมจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากจีนระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2025 นั้นมีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าจำนวนที่บันทึกไว้ในปี 2024

 

ผวา ‘จีนหลอกจีน’

 

แม้แต่ชาวจีนด้วยกันเองอย่าง ฮูหยางฟาน นักท่องเที่ยววัย 25 ปีที่เดินทางมาจากมณฑลเจ้อเจียงก็ยอมรับว่า เขาหวาดกลัวและระมัดระวัง และเขาต้องหลีกเลี่ยงการสนทนากับเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยกันเองขณะเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ

 

ณ เวลานี้รัฐบาลไทยกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ใช้ความพยายามทางการทูตเพื่อสะสางปัญหา โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของจีนเดินทางเยือนไทยเพื่อหารือกับรัฐบาลในการดำเนินการปราบปรามกลุ่มอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง

 

ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางเยือนจีนสัปดาห์หน้า และจะใช้โอกาสนี้หารือกับ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ‘เที่ยวเมืองไทยปลอดภัย’

 

ภาพ: fang xia nou, Jo Panawat / Shutterstock, Getty images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising