‘เนื้อหอม คาเฟ่’ ร้านอาหารฝั่งธนที่มีความตั้งใจจะสร้างห่วงโซ่เล็กๆ ของชุมชน ทั้งการเดินสำรวจแต่ละชุมชนในย่านฝั่งธน แล้วดึงเอาเสน่ห์ของแต่ละชุมชนมานำเสนอในอาหารแต่ละจาน สนับสนุนกันภายในชุมชนโดยการใช้วัตถุดิบที่หาง่ายในชุมชน ไม่ว่าจะเนื้อจากตลาดใกล้ๆ หรือไก่และผักจากฟาร์มลุงรีย์ ฟาร์มออร์แกนิกในย่านฝั่งธน
บรรยากาศร้านเนื้อหอม คาเฟ่
Vibe:
ตึกแถวสามชั้นย่านอิสรภาพหลังนี้ถูกรีโนเวตจนสวยงาม และเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน เราจะเข้าใจได้ว่าทำไมร้านอาหารร้านนี้จึงมีคำว่าคาเฟ่อยู่ในชื่อ นั่นเป็นเพราะบริเวณชั้นล่างของร้านนั้นตกแต่งเน้นสีขาว เรียบง่าย น่ารัก บรรยากาศสบายๆ เหมือนนั่งเล่นอยู่ในคาเฟ่ บริเวณเคาน์เตอร์มีชั้นไม้วางคราฟต์ช็อกโกแลตจาก Christoph Chocolate และเครื่องทำสเลอร์ปีที่มีมวลช็อกโกแลตหมุนอยู่ในเครื่อง ยิ่งเสริมรสชาติความเป็นคาเฟ่เข้าไปใหญ่ แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยจะพบกับบริเวณคอร์ตที่โปร่ง โล่ง สามารถมองขึ้นไปถึงชั้นสามได้เลย
บรรยากาศร้านเนื้อหอม คาเฟ่
ตู้วางช็อกโกแลต Christoph Chocolate
แกลเลอรีบนชั้นสามของร้าน
บรรยากาศร้านเนื้อหอม คาเฟ่
บริเวณชั้นสองจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งกินอาหาร มีครัวแบบเปิดและมีเก้าอี้บาร์ เปิดโอกาสให้ลูกค้าคุยกับคนทำอาหารได้ และมีระเบียงขนาดใหญ่พิเศษที่ทางร้านยอมทุบกำแพงตึกเพื่อขยายระเบียงออกไป เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่อยากนั่งชมวิววิถีชีวิตของชาวอิสรภาพในช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ ส่วนชั้นสามนั้นทางร้านตั้งใจให้เป็นพื้นที่แกลเลอรีจัดแสดงศิลปะหรือกิจกรรมต่างๆ ที่หมุนเวียนไปเพื่อให้ลูกค้าได้สนุกกับทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นการฉายหนัง เล่นดนตรี หรือการเปิดเพลงของดีเจ การมาเยือนแต่ละครั้งก็จะได้เห็นกิจกรรมที่แตกต่างกันไป
อาหารของร้านเนื้อหอม คาเฟ่
Food & Drink:
เริ่มที่เมนูซิกเนเจอร์อย่าง เนื้อย่างซอสเนื้อหอม (200 บาท) ปกติแล้วเนื้อย่างราดด้วยซอสแบบนี้จะชวนให้คนกินนึกถึงอาหารญี่ปุ่น แต่เนื้อหอมได้เพิ่มพริก กระเทียม หอม ขิง และสมุนไพรไทยลงไป ก็จะมีทั้งความเป็นอาหารไทยและความเป็นอาหารญี่ปุ่น
เนื้อย่างซอสเนื้อหอม (200 บาท) และข้าวบริยานีไก่ย่างเครื่องเทศ (220 บาท)
น้ำพริกปานีร์มาซาลา (90 บาท)
ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวมาซาลา (350 บาท)
มาดูเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุมชนต่างๆ กันบ้าง ในช่วงที่เราเข้าไปนั้น ทางร้านเพิ่งได้สำรวจย่านชุมชนชาวอินเดียและชาวเนปาลที่อยู่ใกล้กับร้าน ได้ออกมาเป็นเมนู ข้าวบริยานีไก่ย่างเครื่องเทศ (220 บาท) ข้าวบาสมาติผัดกับนมและเครื่องเทศ เสิร์ฟพร้อมไก่ย่างเครื่องเทศที่ใช้น่องไก่และผักจากฟาร์มลุงรีย์ กินคู่กับ น้ำพริกปานีร์มาซาลา (90 บาท) นมวัวที่เคี่ยวจนเป็นชีส นำมาหั่นแล้วย่างจนหอม ราดด้วยน้ำพริกเครื่องเทศ สำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ก็ต้องสั่งเมนูใหญ่ๆ อย่าง ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวมาซาลา (350 บาท) ซี่โครงหมูบาร์บีคิวแบบอเมริกัน แต่มีการปรุงด้วยมาซาลาหรือเครื่องเทศจากอินเดีย ความหวานจากซอสและกลิ่นเผ็ดร้อนจากมาซาลานั้นเข้ากันได้ลงตัวทีเดียว
ช็อกโกสเลอร์ปี (150 บาท)
ช็อกโกแลตร้อน (120 บาท)
ปิดท้ายด้วยหลากเมนูช็อกโกแลตจาก ‘Christoph Chocolate’ คราฟต์ช็อกโกแลตที่ใช้ช็อกโกแลตจากไอวอรีโคสต์ในแถบอเมริกาใต้ที่ปลูกด้วยดินภูเขาไฟ รสชาติออกไปทางนัตตี้ เป็นช็อกโกแลตแท้ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันพืช มีเพียงโกโก้และโกโก้บัตเตอร์เท่านั้น มีทั้งช็อกโกแลตบาร์ ช็อกโกแลตเคลือบข้าวพอง หรือจะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ไม่มีใครเหมือนอย่าง ช็อกโก สเลอร์ปี (150 บาท) สเลอร์ปีช็อกโกแลตที่มีที่นี่ที่เดียว เท็กซ์เจอร์เกล็ดน้ำแข็งเนียนๆ และรสชาติของช็อกโกแลตเข้ากันได้เป็นอย่างดี หรือถ้าใครอยากลองกินช็อกโกแลตร้อนแบบดั้งเดิมก็มี ช็อกโกแลตร้อน (120 บาท)
เรื่องราวของร้านเนื้อหอม คาเฟ่ ยังไม่จบลงเท่านี้ เพราะทางร้านตั้งใจจะทำร้านอาหารที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร ร้านอาหารที่ไม่ว่าคุณจะมากี่ครั้งก็จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ กลับไปเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเมนูอาหารที่เปลี่ยนไปหรือกิจกรรมสนุกใหม่ๆ ที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้นมา
เนื้อหอม คาเฟ่
Open: ทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: 227 ถนนอิสรภาพ สมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน กรุงเทพฯ
Budget: 300-500 บาท
Contact: 0 2121 4964
Website: https://www.facebook.com/nuahomcafe/
Map: https://g.page/nuahomcafe?share
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์