‘ไม่มีการคุยโทรศัพท์ใดมีค่ากว่าชีวิตคุณ’ #ItCanWait แคมเปญรณรงค์งดใช้มือถือขณะเดินทาง

ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงถึง 1,300,000 คน นั่นหมายความว่า ในทุกๆ วันจะมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 3,000 คน และการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเดินทางก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญอันดับต้นๆ จะดีกว่าไหม ถ้าพวกเรามีส่วนช่วยทำให้ตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านี้ลดลงได้

แคมเปญ ‘มันรอได้ #ItCanWait’ จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2010 โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากใช้โทรศัพท์มือถือพิมพ์ข้อความขณะเดินทาง และลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนและทางเดินเท้า อันมีสาเหตุมาจากการเพ่งสมาธิจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือมากจนเกินไป

ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของสหรัฐฯ อย่าง AT&T ที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเผยแพร่ข้อมูลในพื้นที่ทางการศึกษาอย่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมถึงสังคมในภาคส่วนต่างๆ ทั้งยังได้รับเสียงตอบรับจากโลกอินเทอร์เน็ตในการรณรงค์แคมเปญนี้เป็นอย่างดี ก่อนจะขยายความร่วมมือไปยังองค์กรต่างๆ กว่า 1,500 องค์กร และมีผู้ร่วมรณรงค์แคมเปญ #ItCanWait ในโลกออนไลน์มากกว่า 19,080,000 คนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ออกประกาศห้ามในเรื่องนี้ในกว่า 40 มลรัฐ ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตและจำนวนครั้งในการเกิดอุบัติเหตุลดลงอย่างเห็นได้ชัด

กลุ่ม #ItCanWait จึงออกมาเชิญชวนให้ทุกคนงดใช้โทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดขณะขับรถหรือเดินทางเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน เนื่องจากพวกเขาเชื่อในทฤษฎี 21 วันเปลี่ยนนิสัย เพราะเมื่อไรที่คนเราทำพฤติกรรมเดิมซ้ำๆ สักระยะหนึ่ง (21 วัน) พฤติกรรมนั้นจะค่อยๆ กลายเป็นพฤติกรรมใหม่

AT&T ยังได้ออกแบบแอปพลิเคชัน AT&T DriveMode® เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้สมาร์ตโฟนต่างๆ ได้ใช้บริการ โดยแอปพลิเคชันนี้จะส่งข้อความตอบกลับอัตโนมัติไปยังบุคคลที่ส่งข้อความมาหาคุณในขณะขับรถ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ณ ขณะนั้นคุณไม่สะดวกที่จะตอบกลับพวกเขาในทันที ซึ่งลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

อีกทั้งยังได้จัดทำคลิปวิดีโอที่กลายเป็นไวรัลอยู่ในโลกออนไลน์ ณ ขณะนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้คิดทบทวนอีกครั้งถึงความปลอดภัยในการเดินทางของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางทุกคน

‘ไม่มีการคุยโทรศัพท์หรือข้อความใดมีค่าไปกว่าชีวิตของคุณ เพราะมันรอได้! #ItCanWait’