ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าไมโครซอฟต์จะปล่อยผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกมาแบบจัดหนักจัดเต็ม หลังจากปล่อยให้บริษัทคู่แข่งแย่งสปอตไลต์มานาน ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปตระกูล Surface หรืออย่างงาน CES 2017 เมื่อต้นปี ที่ไมโครซอฟต์ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวบริการใหม่สำหรับรถยนต์อัจฉริยะบนแพลตฟอร์ม Connected Vehicle Platform โดยจับมือกับนิสสัน นำผู้ช่วยส่วนบุคคลผ่านเสียง Cortana ในระบบปฏิบัติการ Window 10 เข้ามาใช้ในรถยนต์เป็นครั้งแรก ข่าวดังกล่าวทำให้บริษัทดึงความสนใจจากสาธารณชนกลับมาได้อีกครั้ง
ล่าสุด (19 กรกฎาคม) ไมโครซอฟต์ปล่อยคลิปเผยโฉมสินค้าใหม่ที่มีชื่อว่า GLAS อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทจอห์นสัน คอนโทรลส์ (Johnson Controls) ผู้ผลิตระบบระบายอากาศและป้องกันเพลิงไหม้ในอาคาร
จุดเด่นของเครื่องปรับอุณหภูมินี้อยู่ตรงที่เราสามารถออกคำสั่งปรับโหมดและควบคุมอุณหภูมิได้ตามใจชอบผ่านระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Cortana ที่ล้ำไปกว่านั้นคือ GLAS มีเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีคนอยู่ในห้องหรือไม่ และแสดงผลบนหน้าจอทัชสกรีน เช่น ‘อยู่บ้าน’ (Home) ‘ออกไปข้างนอก’ (Away) ช่วยปรับระดับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านและนอกบ้านโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านหรือที่ทำงานให้น่าอยู่ และประหยัดพลังงานไปในตัว รวมทั้งรายงานข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ บนหน้าจอทัชสกรีน เช่น ระดับอุณหภูมิ ปริมาณพลังงานที่ใช้ คุณภาพอากาศเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ Azure และระบบปฏิบัติการ Window 10 IoTs ของไมโครซอฟต์
ไมโครซอฟต์ไม่ใช่รายแรกที่พยายามหันมาจับตลาด IoTs (Internet of Things) โดยเจาะกลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน ถ้ามองเชิงเปรียบเทียบในแง่ตลาดของสินค้าประเภทเดียวกัน ก็เท่ากับว่าไมโครซอฟต์ต้องเจอกับคู่แข่งสายแข็งที่ครองในตลาดนี้มาก่อน คือ Honeywell บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอุณหภูมิรายใหญ่ในอเมริกา และ Nest บริษัทสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิสุดล้ำ Nest Learning Thermostat ที่มาแรงจนแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Honeywell มาได้ กระทั่งถูก Google ซื้อกิจการในปี 2014 ปัจจุบัน Nest รองรับคำสั่งด้วยเสียงผ่านลำโพงอัจฉริยะ Google Home และกำลังจะพัฒนาระบบให้ฉลาดและอ่านพฤติกรรมผู้ใช้งานได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยคาดว่าทีมผู้เชี่ยวชาญ AI และหุ่นยนต์ของ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลจะเข้ามาเสริมทัพอีกแรง ซึ่งถ้าหากทำได้สำเร็จ งานนี้ Microsoft อาจตกที่นั่งลำบาก เพราะจุดเด่นของ GLAS ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งที่ Nest ทำได้ซะทีเดียว
นอกเหนือจากไมโครซอฟต์ยังมีคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Amazon ที่ส่ง Amazon Echo ลำโพงอัจฉริยะมาตีตลาดสมาร์ตโฮม และเป็นที่นิยมแพร่หลาย ทั้งยังมีข่าวว่ากำลังพัฒนาระบบผู้ช่วยอัจฉริยะในรถยนต์ Ford และตู้เย็นอัจฉริยะของ LG
แต่ GLAS อาจเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของระบบนิเวศทั้งหมดที่ไมโครซอฟต์กำลังวางแผนสร้างขึ้นมาเอง หวังครองตลาดสมาร์ตโฮมและอุปกรณ์อัจฉริยะท่ีใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่ตู้เย็น เครื่องปิ้งขนมปัง อีกทั้งยังมีข่าวว่าไมโครซอฟต์จะร่วมมือพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบจัดการข้อมูลอัจฉริยะให้กับรถยนต์ Volvo, BMW, Toyota และล่าสุดคือ Baidu ที่เพิ่งประกาศว่าจะร่วมมือกันพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในส่วนของบริการนั้นจะเน้นเจาะกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่ต้องการโซลูชันใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาและทำงานในระบบคลาวด์
เป็นไปได้ว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้าน IoTs ที่แข็งแรง บวกกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ไมโครซอฟต์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ในไม่ช้า หลังจากปล่อยให้ Google Apple และ Amazon แซงหน้าขึ้นมาเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกเมื่อปีที่แล้ว
อ้างอิง:
- http://www.businessinsider.com/microsoft-brings-iot-to-the-edge-2017-5
- http://www.businessinsider.com/microsoft-glas-smart-thermostat-cortana-2017-7?IR=T&utm_source=Triggermail&utm_medium=email&utm_campaign=BII%20Daily%202017.7.20&utm_term=BI%20Intelligence%20Daily%20-%20Engaged%2C%20Active%2C%20Passive%2C%20Disengaged
- https://www.theverge.com/2017/7/19/16000474/microsoft-cortana-thermostat-johnson-controls-glas
- http://www.techrepublic.com/article/microsoft-unveils-connected-car-strategy-at-ces-2017-cloud-will-do-the-heavy-lifting/
- http://www.businessinsider.com/nest-looks-to-enhance-ai-machine-learning-2017-1