×

แชตไลน์-ดูไลน์ทีวี ไม่คิดค่าเน็ต! LINE Mobile เปิดทดลองใช้บริการเวอร์ชัน Beta ตั้งเป้าบริการเต็มรูปแบบปีนี้

26.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 mins read
  • LINE Mobile เปิดให้ทดลองใช้บริการโทรศัพท์มือถือเวอร์ชัน Beta จนถึงสิ้นปีนี้ โดยตั้งเป้าเตรียมเปิดบริการเต็มรูปแบบภายในปี 2017 พร้อมชูจุดเด่นความสะดวกสบายในการใช้งาน รวมถึงการใช้ LINE Messenger และ LINE TV โดยไม่เสียค่าบริการหรือเปลืองข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต
  • เป็นบริการโทรศัพท์มือถือดิจิทัลบนเครือข่าย DTN (DTAC TriNet) ที่โดดเด่นด้วยรูปแบบบริการใช้งานที่ง่ายบนสัญญาณ 4G ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมความเร็วของอินเทอร์เน็ต ค่าโทร เลือกซื้อแพ็กเกจเสริม หรือต่ออายุแพ็กเกจได้ตามความต้องการตลอดเวลาบนแอปพลิเคชัน ‘LINE Mobile’

     LINE Mobile เปิดให้ทดลองใช้บริการโทรศัพท์มือถือเวอร์ชัน Beta ตั้งเป้าเตรียมเปิดบริการเต็มรูปแบบภายในปีนี้ พร้อมชูจุดเด่นความสะดวกสบายในการใช้งาน

     นอกจากนี้ LINE Mobile ยังใจป้ำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการของ LINE ทั้ง LINE Chat Application – แชตสนทนาทั่วไป, ดาวน์โหลดหรืออัพโหลดรูปภาพ, voice call และ video call รวมถึงใช้งาน LINE TV ที่คุณภาพความคมชัดระดับสูงสุด โดยไม่เสียค่าบริการและเปลืองข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต

     ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ‘LINE Mobile’ ได้เปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือเวอร์ชันทดสอบระบบ (Beta) ให้ผู้ใช้งานบางส่วนได้ทดลองใช้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่การทดสอบระบบในครั้งที่ 2 นี้ได้เพิ่มฟีเจอร์การใช้ LINE TV โดยไม่เสียค่าบริการเพิ่มขึ้นมา

 

 

LINE Mobile บริการโทรศัพท์มือถือที่เกิดจาก pain point ของผู้ใช้บริการ

     LINE Mobile คือบริการโทรศัพท์มือถือดิจิทัลบนเครือข่าย DTN (DTAC TriNet) เกิดจากความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง LINE ประเทศไทยและ Dtac ที่โดดเด่นด้วยรูปแบบบริการใช้งานที่ง่ายบนสัญญาณ 4G ที่ผู้ใช้สามารถควบคุมความเร็วของอินเทอร์เน็ต ค่าโทร เลือกซื้อแพ็กเกจเสริม หรือต่ออายุแพ็กเกจได้ตามความต้องการตลอดเวลาบนแอปพลิเคชัน ‘LINE Mobile’ ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android โดยที่ไม่มีสัญญาผูกมัดแต่อย่างใด

     บริการของ LINE Mobile เกิดขึ้นจากการรวบรวมข้อมูล pain point ของผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันที่ต้องประสบกับปัญหาหลัก 4 ประการ ได้แก่

  • การมีสัญญาผูกมัด
  • การเสียเวลารอใช้บริการที่ศูนย์นาน
  • ไม่สามารถควบคุมปริมาณการใช้บริการ
  • ความรู้สึกไม่เป็นธรรมที่มีต่อแพ็กเกจและโปรโมชัน

     ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงตั้งใจมอบบริการโทรศัพท์มือถือที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติ 4 ข้อดังนี้

  • Transparency & Flexability โปร่งใสและยืดหยุ่น

     ผู้ใช้สามารถเลือกแพ็กเกจได้ตามความต้องการ ไม่มีค่าบริการแอบแฝงเพิ่มเติม โดยที่ไม่มีสัญญาผูกมัด

  • Convenience ความสะดวกสบาย

     เปลี่ยนและยกเลิกแพ็กเกจได้ตลอดเวลาบนแอปพลิเคชัน LINE Mobile และยังสามารถเลือกควบคุมปริมาณการใช้งาน จำกัดวงเงินสูงสุด และเปลี่ยนมาใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ต 4G ที่ 256 Kbps แบบอันลิมิตได้ เพื่อประหยัดข้อมูลอินเทอร์เน็ตตามแพ็กเกจที่ได้รับ

     นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์แสดงผลข้อมูลการการโทรทางไกลต่างแดน พร้อมค่าใช้จ่ายและรหัสโทรศัพท์ต่างประเทศแบบเสร็จสรรพ ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

  • Leading Data Network ให้บริการอยู่บนเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือชั้นนำของประเทศ

     ใช้สัญญาณบนโครงข่ายของ DTN ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงสุดแบบ 4G/3G ได้ตามความต้องการ

  • Free LINE Service ใช้บริการแอปพลิเคชันของ LINE ฟรี

     ใช้บริการของ LINE ทั้ง LINE Messenger และ LINE TV ที่คุณภาพความคมชัดระดับสูงสุดโดยไม่เปลืองการใช้งานข้อมูลอินเทอร์เน็ต

 

 

อยากทดลองใช้งานต้องเริ่มต้นอย่างไร

     ณ ปัจจุบัน LINE Mobile ยังเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันทดลองระบบเท่านั้น โดยผู้ที่สนใจอยากทดสอบระบบ Beta ก็สามารถไปลงทะเบียนเพื่อรอการติดต่อกลับได้ที่ th.linemobile.com (ยังเป็นการสุ่มเลือกผู้ทดสอบระบบ) ซึ่งในวันที่ 1 สิงหาคมนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่ได้รับเลือกเป็นผู้ทดสอบระบบสามารถทดลองใช้งานได้ แต่คาดว่าภายในปีนี้จะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ

     ทั้งนี้ข้อมูลที่จะต้องใช้ในการลงทะเบียนสมัครบริการเพื่อขอรับซิมการ์ด ประกอบไปด้วย บัตรประชาชน (ตรงกับชื่อที่ลงทะเบียนซื้อซิม) , รูปถ่ายเจ้าของบัตรถือบัตรประชาชน, ข้อมูลที่อยู่ในการจัดส่งซิมการ์ด ใบเสร็จรับเงิน และใบเสร็จค่าบริการ

     เมื่อเข้าไปลงทะเบียนและสมัครซื้อซิมการ์ด ผู้ใช้จะสามารถเลือกเบอร์โทรศัพท์ตามที่ต้องการ ก่อนชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ Rabbit LINE Pay เท่านั้น แต่ต่อไปจะขยับขยายช่องทางการชำระเงินที่เคาน์เตอร์บริการตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป และยังมีแพลนจะให้ผู้ใช้สามารถเลือกเบอร์สวย เบอร์มงคล ได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

     เมื่อเลือกเบอร์ที่ต้องการเสร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกแพ็กเกจบริการ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 6 แพ็กเกจได้แก่

  • XS – ค่าบริการเต็ม 299 บาท (ลดเหลือ 69 บาท) / โทรฟรี 100 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 1.5 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต) / SMS (ฟรี) / LINE Messenger และ LINE TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)
  • S – ค่าบริการเต็ม 399 บาท (ลดเหลือ 99 บาท) / โทรฟรี 150 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 5 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต / SMS (ฟรี) / LINE Messenger และ LINE TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)
  • M – ค่าบริการเต็ม 499 บาท (ลดเหลือ 119 บาท) / โทรฟรี 200 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 10 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต / SMS (ฟรี) / LINE Messenger และ LINE TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)
  • L – ค่าบริการเต็ม 699 บาท (ลดเหลือ 169 บาท) / โทรฟรี 300 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 20 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต / SMS (ฟรี) / LINE Messenger และ LINE TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)
  • XL – ค่าบริการเต็ม 899 บาท (ลดเหลือ 219 บาท) / โทรฟรี 400 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 30 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต / SMS (ฟรี) / LINE Messenger และ LINE TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)
  • XXL – ค่าบริการเต็ม 1,099 บาท (ลดเหลือ 269 บาท) / โทรฟรี 600 นาที / อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 40 GB เมื่อใช้ครบตามแพ็กเกจจะปรับความเร็วลงมาอยู่ที่ 256 Kbps (หรือสามารถปรับความเร็วการใช้งานที่ 256 Kbps ชั่วคราวได้เพื่อเซฟค่าเน็ต / SMS (ฟรี) / Line Messenger และ Line TV ไม่เสียค่าเน็ต (ฟรี)

     ในกรณีที่ใช้งานค่าโทรเกินแพ็กเกจจะมีค่าบริการอยู่ที่ 0.99 บาท/นาที (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และสามารถเลือกซื้อแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วเสริมที่ 1 GB ในราคา 24 บาท (จากราคาปกติ 120 บาท) โดยในช่วงเวลานี้ LINE Mobile จะให้ส่วนลดค่าบริการกับผู้ใช้งานในระบบ BETA ที่ 75% จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 นี้ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

     เมื่อเลือกเบอร์โทร-แพ็กเกจบริการ และชำระค่าบริการเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดส่งซิมการ์ด ซึ่งใช้ระยะเวลาในการจัดส่งอยู่ที่ 3-5 วันทั่วประเทศ ขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยการจัดส่งซิมการ์ดก็จะรวมขั้นตอนการ verify เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง ป้องกันกรณีการสวมสิทธิบัตรประชาชนไม่ตรงกับตัวผู้ซื้อ

 

ต่างจากบริการโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆ อย่างไร

     จุดเด่นของ LINE Mobile ที่ต่างจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเจ้าอื่นๆ คือความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ตามพฤติกรรมและความต้องการได้อย่างอิสระบนแอปพลิเคชัน LINE Mobile

     นอกจากนี้ยังชูจุดเด่นเรื่องฟีเจอร์การโทรทางไกลในแต่ละประเทศ รวมถึงการโรมมิ่งในต่างประเทศ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลและค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด และยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านการแชตกับผู้ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงช่องทางคอลเซ็นเตอร์ 0 2202 8585 ที่ใช้เวลารอสายไม่เกิน 3 นาทีตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. ทุกวัน

 

 

     และหลังจากที่เราได้ลองใช้งานตัวแอปพลิเคชันก็พบว่า อินเทอร์เฟซและรูปแบบการใช้งานบนตัวแอปฯ ค่อนข้างลื่นไหลและใช้งานได้สะดวกไม่น้อย ส่วนในด้านการใช้งานโทรศัพท์ทั่วไป เช่น การโทรเข้า-ออก และการใช้งานอินเทอร์เน็ต ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ (จากการได้ทดลองใช้เป็นระยะเวลา 1 วัน)

     แต่ก็ยังคงพบข้อบกพร่องในด้านความเร็วอินเทอร์เน็ตอยู่เช่นกัน เพราะเมื่อทดสอบความเร็วด้วยแอปพลิเคชัน Speedtest ในสถานที่จัดงานเวิร์กช็อป (อโศก) เมื่อเวลา 14.48 น. ได้ผลลัพธ์อยู่ที่ – Ping 15 ms / Download 67.87 Mbps / Upload 33.68 Mbps แต่เมื่อทดสอบความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตอีกครั้งจากพื้นที่บริเวณอาร์ซีเอ ซอยศูนย์วิจัย เมื่อเวลา 20.30 น. กลับได้ผลลัพธ์ความเร็วที่ตกลงมาพอสมควรดังนี้ – Ping 19 ms / Download 4.21 Mbps / Upload 6.87 Mbps

     อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อไปในระยะยาวว่าหาก LINE Mobile เริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ พวกเขาจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน เช่นเดียวกับผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆ ที่คงจะต้องปรับกลยุทธ์ในการเดินเกมกันพอสมควรเลยทีเดียว

     ซึ่งผู้ที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการแข่งขันที่ดุเดือดเช่นนี้ของตลาดผู้ให้บริการสัญญาณมือถือก็หนีไม่พ้นผู้บริโภคอย่างเรานั่นเอง

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising