×

คนไทยคาดหวังอะไรจากราเยวัช ส่องทัศนะคนในวงการ ก่อนอุ่นเครื่องนัดแรกกับอุซเบกิสถาน

06.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • มิโลวาน ราเยวัช เตรียมคุมทีมชาติไทยลงสนามครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องกับ อุซเบกิสถาน ทีมอันดับ 62 ของโลกในวันที่ 6 มิถุนายนนี้
  • ราเยวัช ประกาศในวันแถลงข่าวรับตำแหน่งผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ตั้งเป้าพาไทยไปบอลโลก ปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์
  • ราเยวัชถูกคาดหวังให้นำความเปลี่ยนแปลงเรื่องของแท็กติกและเกมรับให้กับทีมชาติไทย
  • แฟนบอลและคนในวงการกีฬาฟุตบอลไทยต่างก็ชื่นชมการเลือกนักเตะทีมชาติไทยที่เน้นฟอร์มการเล่นที่ดี ซึ่งไม่สำคัญว่าจะเป็นดาวรุ่งหรือนักเตะอายุเกิน 30 ไปแล้ว
  • คาดว่าราเยวัชจะใช้แผนการเล่น 4-2-3-1 เหมือนกับสมัยที่เคยคุมทีมชาติกานาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก ปี 2010

พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แถลงข่าวเปิดตัว มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยภายใต้สัญญา 1 ปี เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2560

 

     ฟุตบอลทีมชาติไทยในวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยเรื่องใหญ่สุดในขณะนี้คงหนีไม่พ้นการแต่งตั้งโค้ชมิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบียมาคุมทีมชาติไทยเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ต่อจากซิโก้-เกียรติศักด์ เสนาเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ทำผลงานไว้อย่างยอดเยี่ยม แต่ด้วยความคาดหวังที่มากขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลหลายๆ คนจึงได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

     และหลังจากที่เราได้โค้ชต่างชาติเข้ามาทำงานแล้ว เราควรจะเซตความคาดหวังไว้ที่ตรงไหน

     “เราควรคาดหวังอะไรกับมิโลวาน ราเยวัช

     เราถามคำถามนี้กับผู้คนต่างๆ ในวงการบอลไทย และคำตอบที่ได้มักเป็นเสียงเดียว คือความเปลี่ยนแปลงโดยมีฐานความสำเร็จไม่ต่ำกว่าผลงานที่โค้ชคนเก่า ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ทำไว้ด้วยการพาทีมชาติไทยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน โดยขึ้นไปต่อกรกับ 12 ชาติชั้นนำในเอเชียในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย

     ซึ่งความคาดหวังหลักอยู่ที่การแก้เกมจากประสบการณ์ของราเยวัช และการวางแท็กติกเกมรับที่รัดกุม เป็นสิ่งที่ทุกคนเชื่อว่าจะได้เห็นจากโค้ชชาวเซอร์เบียคนนี้

 

มิโลวาน ราเยวัช เดินทางไปชมฟอร์มของนักเตะที่สนามเอสซีจี สเตเดียม เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2560 ในเกมไทยลีกระหว่างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะราชนาวีไป 4-0  

เกมรับที่แน่นกว่าเดิม ความเก๋าในการแก้เกม สิ่งที่คาดหวังต่อราเยวัช

     ธีรยุทธ บัญหนองสา ผู้บรรยายกีฬาและผู้ประกาศข่าวช่อง True4U ที่มีประสบการณ์พากย์บอลและข่าวสารกีฬาในประเทศไทยมาอย่างยาวนานเชื่อว่า ทั้งแฟนบอลและตัวเขาเองมีสิทธิคาดหวังในรูปแบบเกมที่ดีขึ้น

     “แน่นอน ทุกคนอยากชนะ อยากมีแต้ม แต่ผมว่าความใจสู้และสิ่งที่ต้องมีคือการแสดงให้เห็นถึงองค์ความรู้ของราเยวัชที่เคยคุมทีมไปฟุตบอลโลกมาแล้ว มันควรจะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงเวลา 3 เกมที่เหลือในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ดังนั้นไม่ควรมีข้อแก้ตัวอะไรเลย ถ้าออกมาแบบไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย”

 

     ฝั่งผู้สิ่อข่าวกีฬาอย่าง กฤติกร ธนมหามงคล บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์ โฟร์โฟร์ทรู ประจำประเทศไทย สื่อกีฬาฟุตบอลชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ก็มีความคาดหวังที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของแท็กติกเป็นหลัก

     “ในยุคของซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เราเห็นข้อดีมากมาย ไม่ว่าเรื่องของการพยายามที่จะเลือกใช้นักเตะที่มีความเข้าใจกัน แต่เมื่อไปเจอเกมใหญ่ของเอเชีย หลายๆ ครั้ง เราไม่ได้เห็นวิธีการแก้เกมหรือวิธีการเล่นใหม่ๆ ที่จะรับมือผู้เล่นฝั่งตรงข้าม ซึ่งประสบการณ์ของราเยวัชและการเป็นคนทำงานหนักในเรื่องของการทำการบ้านต่างๆ ผมว่าราเยวัชน่าจะมาอุดรอยรั่วนี้ได้

     “ไม่ใช่ว่าซิโก้ทำไม่ได้ เขาทำดีในรูปแบบของเขา แต่มันก็ควรมีอะไรบางอย่างที่ราเยวัชเองน่าจะมาเติมเต็มได้ดีกว่า”

 

     ขณะที่มุมมองของนักข่าวต่างประเทศอย่างพอล เมอร์ฟีย์ (Paul Murphy) นักเขียนฟรีแลนซ์ของ ESPN FC ประจำประเทศไทย ซึ่งติดตามรายงานข่าวฟุตบอลในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2013 ก็เชื่อว่าเราจะได้เห็นการเล่นที่เป็นระบบระเบียบมากขึ้น

     “ซิโก้ทำให้ผู้เล่นมีความมั่นใจและเน้นการบุกของทีมเป็นหลัก แต่ราเยวัชได้แสดงจุดยืนแล้วว่าจะเน้นเกมรับของทีมเป็นหลัก ผมว่าเขาจะทำให้ทีมมีความเป็นระเบียบมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม”

     แต่ในอีกมุมหนึ่ง เมอร์ฟีย์บอกว่า ด้วยเงื่อนไขของเวลาทำให้งานของราเยวัชไม่ง่าย

     “ราเยวัชได้ก้าวเข้ามาในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของทีม และแฟนบอลก็ต้องยอมรับความจริงได้ ในการคุมทีมเกมแรก เขามาในช่วงที่นักฟุตบอลของเอสซีจี เมืองทอง  ยูไนเต็ด กำลังเหนื่อยล้า และในช่วงที่ทีมชาติไทยต้องเจอกับคู่แข่งที่ยังมีลุ้นผ่านเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลกได้ในกรุ๊ปบีของศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย

     “หากเขาสามารถยันเสมอได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ผมหวังว่าเขาจะพยายามใช้เกมรับที่รัดกุม และใช้ความสามารถของผู้เล่นในเกมรุกเล่นงานทีมคู่แข่งในเกมสวนกลับ”

 

     ด้านแฟนบอลทีมชาติไทยอย่าง ชัยวัฒน์ แก้วผลึก ประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์ กลุ่มกองเชียร์ทีมชาติไทยที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 16 ปี และเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยลงสนามแข่งขันคาดว่า อย่างน้อยทีมชาติไทยในยุคราเยวัชต้องดีกว่าหรือเทียบเท่าซิโก้

     “ในฐานะแฟนบอล แน่นอน ทุกคนก็คาดหวังว่าราเยวัชเข้ามา อย่างน้อยต้องทำให้เทียบเท่ากับซิโก้หรือดีกว่านั้น

     “ที่ผ่านมาราเยวัชสามารถที่จะพาทีมเข้ารอบลึกๆ ได้ ผลงานก็ดี ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าโค้ชที่มีโปรไฟล์ที่ดีจะประสบความสำเร็จกับทีมที่เข้าไปคุมเสมอไป แต่เขาต้องมีองค์ประกอบอื่น ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนของสมาคมกีฬาฟุตบอล ฟุตบอลลีกภายในที่แข็งแกร่ง นักฟุตบอลที่มีทัศนคติที่ดี และผู้เล่นคนที่ 12 ที่คอยสนับสนุนไปด้วย ฉะนั้น ณ เวลานี้องค์ประกอบต่างๆ เกือบจะสมบูรณ์แล้ว และเชื่อว่าจะผลักดันให้ราเยวัชทำผลงานให้ดีขึ้นต่อจากนี้”

 

ความคาดหวังกับนักเตะที่จะลงสนามคืนนี้

     ในการเรียกตัวนักฟุตบอลทั้งหมด 35 คนก่อนที่จะคัดตัวเหลือ 22 คนที่ได้เดินทางไปเตรียมอุ่นเครื่องนัดแรกภายใต้การคุมทีมของราเยวัช บุคคลในวงการฟุตบอลต่างก็ชื่นชอบทั้งการให้โอกาสนักเตะใหม่อย่างเควิน ดีรมรัมย์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 19 ปี ซึ่งกฤติกร ธนมหามงคล บรรณาธิการบริหารเว็บไซต์ โฟร์โฟร์ทรู ประจำประเทศไทย มองว่าเป็นข้อดีที่ราเยวัชให้โอกาสดาวรุ่งมีชื่อติดทีมชาติไทย 

     “ผมมองว่านักฟุตบอล 35 คนนี้เป็นคนที่ดีที่สุดในประเทศ อาจจะเห็นผู้เล่นเก่าที่แฟนบอลบางคนขัดใจ แต่อาจจะมีอะไรบางอย่างที่ราเยวัชเขามองเห็น หนึ่งคือเรื่องของความสามารถ สองคือการเล่นของเขาอาจจะถูกจริตของราเยวัช โดยที่เราไม่รู้ว่าราเยวัชจะใช้นักเตะเหล่านี้ยังไง แต่เท่าที่ดู ราเยวัชเรียกตามฟอร์ม ไม่ได้ตามกระแสที่แฟนบอลเรียกร้องให้ติด เขาดูตามความเหมาะสมและฟอร์มการเล่นในปัจจุบัน

     “เช่น เควิน ดีรมรัมย์ เขาก็กล้าเลือกใช้เด็กอายุ 19 ปีที่เพิ่งขึ้นมา เขาก็มองว่าไม่จำที่เด็กอายุ 19 ต้องไปเริ่มเล่นจากทีมซีเกมส์ก่อน ทีมงานชุดนี้เขามองว่าผู้เล่นที่ดี ไม่ว่าจะอายุเท่าไร คุณก็สามารถขึ้นมาได้เลย”

     นอกจากนี้ นักฟุตบอลอย่างลีซอ-ธีรเทพ วิโนทัย ซึ่งฤดูกาลนี้ยิงไปแล้ว 5 ประตู ก็เป็นการกลับมาติดทีมชาติไทยครั้งแรกในรอบ 3 ปีเลยทีเดียว

     ซึ่งการเรียกติดทีมชาติครั้งนี้ต่างก็เป็นที่พอใจของแฟนบอลชาวไทย ชัยวัฒน์ แก้วผลึก ประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์มองว่า เป็นการพิสูจน์มาตรฐานการเลือกนักเตะว่าไม่สำคัญว่าคุณเป็นใคร คุณก็สามารถมีชื่อติดทีมชาติ

     “ผมชอบที่เปิดโอกาสให้ลีซอที่ห่างหายจากทีมชาติไทยไปนาน ซึ่งช่วงนี้เขาก็สามารถทำผลงานกับแบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ดี และถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติไทยใหม่อีกครั้ง ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการแสดงให้นักเตะเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แต่ถ้าทำผลงานได้ดีก็สามารถกลับมาติดทีมชาติได้ และส่งผลให้เกิดการแข่งขัน เพราะโค้ชเปิดโอกาสให้กับนักเตะทุกคนที่สามารถเล่นได้ดีกับสโมสรต้นสังกัด”

 

ธีรเทพ วิโนทัย เข้ารายงานตัวกับฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในรอบ 3 ปี 

     นอกจากนี้นักเตะอย่างเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังวัย 30 ปีก็มีโอกาสติดทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก ธีรยุทธ บัญหนองสา ผู้บรรยายกีฬาและผู้ประกาศข่าว True4U ที่มองว่าโค้ชราเยวัชทำการบ้านมาดีในการเฟ้นหากองหลังที่มีความแข็งแกร่งอย่างเฉลิมพงษ์มาช่วยเสริมแท็กติกที่เน้นเกมรับมากขึ้น

     “ทีมโคราชเล่นบอลเกมรับได้ดีมาก และเฉลิมพงษ์ก็เป็นคนที่ทำผลงานได้ดี เพียงแต่ก่อนหน้านี้เฉลิมพงษ์ไม่เคยมีชื่อใกล้เคียงที่จะติดทีมชาติไทยมาก่อน”

คาด ‘ลีซอ’ คือ 1 ใน 11 ผู้เล่นตัวหลักเกมอุ่นเครื่องนัดแรก

     ฟุตบอลทีมชาติไทยจะลงสนามอุ่นเครื่องเกมแรกในการพบกับทีมชาติอุซเบกิสสถานในช่วง 22.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย. 2560) ตามเวลาประเทศไทย ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะไม่มีผลเท่าไรนัก แต่ความคาดหวังกับเฮดโค้ชวัย 63 ปี ซึ่งมีประสบการณ์พาทีมชาติกานาผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกไปจนถึงสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบลึกที่สุดในเวิลด์คัพครั้งนั้นด้วยการเป็น 8 ทีมสุดท้าย ก่อนพ่ายจุดโทษให้กับทีมชาติอุรุกวัย ที่สำคัญเขายังมีประสบการณ์ทำงานในเอเชียกับสโมสรอัล อาห์ลี และ ทีมชาติกาตาร์ รวมถึงยังมีดีกรีเป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกา และโค้ชยอดเยี่ยมสมาคมฟุตบอลเซอร์เบีย ซึ่งในเกมวันนี้ ราเยวัชอาจจะเลือกใช้ระบบที่เขาใช้กับทีมชาติกานาตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบ 8 ทีมในฟุตบอลโลก ปี 2010 นั่นก็คือ 4-2-3-1

     ผู้รักษาประตู คาดว่าจะเป็นสินทวีชัย หทัยรัตนกุล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีม จึงน่าจะเป็นตัวเลือกคนแรก

     เควิน ดีรมรัมย์ จากราชบุรี มิตรผล เอฟซี น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้าย ขณะที่ฝั่งขวาเป็นนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

     กองหลังคาดว่าจะเป็นการจับคู่ระหว่างพรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังบุรีรัมย์ที่มีความสูง 191 ซม. และเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

     ในแดนกลางคาดว่าจะเป็นแพ็กคู่จากเชียงราย ยูไนเต็ด ทั้งธนบูรณ์ เกษารัตน์ และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรืออาจจะเป็นคู่จากแบงค็อก ยูไนเต็ด อย่างปกเกล้า อนันต์ และแอนโทนี่ อำไพพิทักษ์วงศ์

     เกมรุกทางริมเส้นฝั่งซ้ายและขวาน่าจะเป็นสิโรจน์ ฉัตรทอง นักเตะป้ายแดงของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ส่วนฝั่งขวามีโอกาสเป็นนูรูล ศรียานเก็ม จากฟอร์มการเล่นในลีก

     กลางตัวรุกหลังจากที่ไม่มีชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็ถือว่าเป็นโอกาสของสรรวัชญ์ เดชมิตร ที่ชอบเล่นตำแหน่งเกมรุกอิสระ

     หน้าเป้าเมื่อไม่มีศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งอย่างธีรศิลป์ แดงดา ก็มีโอกาสเป็นธีรเทพ วิโนทัย รองกัปตันทีมชาติชุดนี้ที่มีโอกาสได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงสำหรับทีมชาติไทยอีกครั้ง

 

นักฟุตบอลทีมชาติไทยออกเดินทางไปพักที่คาซัคสถาน 1 คืน และเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เดินทางเข้าสู่อุซเบกิสถาน ก่อนเกมกระชับมิตรวันที่ 6 มิ.ย.นี้ 

 

     หลังจากที่รับรู้ความคาดหวังของแต่ละคนในวงการฟุตบอลไปแล้ว ก่อนที่เสียงนกหวีดแมตช์อุ่นเครื่องจะเริ่มขึ้นในคืนนี้

     คุณคาดหวังอะไรกับทีมชาติไทยในยุคของราเยวัช?

 

Cover: มิโลวาน ราเยวัช ระหว่างคุมทีมชาติไทยฝึกซ้อมที่สนามเกียรติธานี คันทรี คลับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมอุ่นเครื่องในฟีฟ่าเดย์กับอุซเบกิสถาน วันที่ 6 มิ.ย.นี้

Photo:: FA Thailand

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising