นิวซีแลนด์ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์) หลังไซโคลนแกเบรียล (Gabrielle) ซัดถล่ม เกิดน้ำท่วมฉับพลันตัดขาดถนนหลายสาย หลายคนต้องปีนหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่ประชาชนอีกนับพันต้องอพยพย้ายที่อยู่อาศัย ส่วนเหตุแผ่นดินถล่มก็ทำลายบ้านเรือนเสียหายหนัก ประชาชนกว่า 2 แสนชีวิตต้องอยู่ใต้ความมืดมิดเนื่องจากไฟฟ้าดับ ด้านเจ้าหน้าที่หลายคนยอมรับว่า นี่เป็นภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมาก ‘อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน’
ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินของนิวซีแลนด์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย โดยการประกาศในวันนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐบาลกลางสามารถส่งทรัพยากรและความช่วยเหลือต่างๆ ไปทั่วประเทศโดยเร็วที่สุด
คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า “ไซโคลนแกเบรียลเป็นเหตุการณ์ด้านสภาพอากาศที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่เกิดกับนิวซีแลนด์ในศตวรรษนี้ ความรุนแรงและความเสียหายที่เกิดขึ้นในระดับนี้เป็นสิ่งที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อนในชั่วอายุคน” พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลยังคงอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบจากไซโคลนที่ยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในประเทศ แต่ยอมรับว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นหนักหนาและกระจายตัวเป็นวงกว้าง
ข้อมูล ณ บ่ายวันนี้ระบุว่า มีผู้ที่ต้องพลัดถิ่นฐานแล้วอย่างน้อย 2,500 คน แต่ตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นได้อีก เพราะยังมีหลายพื้นที่ที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง และการสื่อสารถูกตัดขาด ส่วนประชาชนกว่า 225,000 คนทั่วเกาะเหนือไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่าการซ่อมแซมนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์
เจมส์ ชอว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของนิวซีแลนด์ กล่าวถึงผลกระทบร้ายแรงของไซโคลนว่า “นี่คือผลพวงจากโลกรวน”
ชอว์กล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาด้วยน้ำเสียงเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เราเสียเวลาไปเป็นสิบๆ ปีจากการทะเลาะและโต้เถียงกันว่าภาวะโลกรวนนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เกิดจากฝีมือมนุษย์หรือเปล่า มันเลวร้ายจริงหรือ เราควรลงมือทำอะไรสักอย่างดีหรือเปล่า
“เราต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้” ชอว์ย้ำด้วยเสียงที่หนักแน่น
อ้างอิง:
