×

ค่ายรถรอรัฐบาลใหม่ไฟเขียวแพ็กเกจส่งเสริม EV-แบตเตอรี่ ระบุหากจัดตั้งล่าช้าอาจทำแผนลงทุนชะงักและไร้ความต่อเนื่อง

24.05.2023
  • LOADING...
รถยนต์ EV

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่หลายแบรนด์ จับตาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ลุ้นสานต่อแพ็กเกจส่งเสริมรถยนต์ EV 3.5 กลุ่มผู้ผลิตรถมองขึ้นค่าแรง 450 บาท ไม่กระทบกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ แต่จะกระทบผู้ประกอบการ SMEs สุดท้ายเมื่อต้นทุนเพิ่มย่อมส่งผลต่อราคาขายรถยนต์

 

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สภาอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับเสียงสะท้อนจากนักลงทุนและผู้ผลิตรถยนต์ มาตรการส่งเสริมรถยนต์ EV ถึงคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) คือแพ็กเกจส่งเสริมรถยนต์ EV 3.5 เพื่อส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ในไทย โดยภาคเอกชนเองอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งรัดอนุมัติโดยเร็ว เพื่อให้แพ็กเกจดังกล่าวไม่สะดุด เกิดความต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568-2569 ช่วยผลักดันให้ไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นอันดับที่ 1 ต่อไป

 

โดยเชื่อว่าเพื่อเดินหน้านโยบาย EV รัฐบาลใหม่อนุมัติได้ภายในปี 2566 แน่นอน แต่หากอนุมัติภายในปีนี้ไม่ทัน หรือเลื่อนไปในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 คาดว่ายังสามารถส่งเสริมแพ็กเกจย้อนหลังได้ 

 

ส่วนความกังวล คือระยะเวลาในการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า โดยประเมินว่าน่าจะได้เห็นหน้าตารัฐบาลชุดใหม่ที่ชัดเจนได้ในเดือนสิงหาคม 2566 แต่หากยืดระยะเวลาไปมากกว่านั้นจะส่งผลต่อโครงการหรือแพ็กเกจส่งเสริมลงทุน รวมถึงโครงการในปี 2567 ที่จะชะงักเช่นกัน เนื่องจากข้อตกลงกรณีส่วนลดการซื้อรถยนต์คันใหม่ ที่ได้มีการตกลงกับกรมสรรพสามิตในการลดภาษีสรรพสามิต ที่วงเงิน 1.5 แสนบาท หรือแพ็กเกจ EV 3.0 แต่แพ็กเกจนี้จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นปี 2566 ซึ่งก่อนหน้านี้บอร์ด EV ได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว แต่ไม่ทัน จึงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่อนุมัติเท่านั้น

 

“ผู้ผลิตรถยนต์รายใหม่หลายยี่ห้อมีความต้องการที่จะได้แพ็กเกจดังกล่าว เพื่อสร้างโรงงานเสร็จให้ทันในปี 2567-2568 จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งอนุมัติ เพื่อจูงใจนักลงทุนค่ายรถรายใหม่ๆ ที่จะเข้ามาให้ประเทศต่างๆ เข้ามาลงทุนในไทยเยอะขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการทำงานให้กับคนไทย หากสามารถทำได้ก็มีโอกาสที่จะทำให้ไทยหลุดพ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลางขึ้นไปเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้อีกด้วย ซึ่งผมหวังให้เป็นเช่นนั้น” 

 

จัดตั้งรัฐบาลเร็วเท่าไร ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ได้มากขึ้นเท่านั้น

สำหรับการผลิตรถยนต์ทุกประเภทเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 117,636 คัน ลดลง 0.13% เมื่อเทียบกับช่วงเมษายน 2565 ส่วนเป้าหมายยอดขายรถยนต์ในประเทศในปี 2566 เป้าหมายยังอยู่ที่ 1.95 ล้านคัน ยอดผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 1.05 ล้านคัน ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า EV ในเดือนเมษายน 2566 มีจำนวน 3,820 คัน เพิ่มขึ้น 882%

 

อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าครึ่งปีหลังเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลจะทำให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อการเช่าซื้อรถยนต์ได้มากขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าหาก กนง. ไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว จะส่งผลให้การชำระหนี้ลดลงในบางกลุ่มที่อยู่ในหนี้ครัวเรือน และช่วยให้ธนาคารกลับมาปล่อยสินเชื่อให้ดีขึ้นอีกด้วย

 

ขึ้นค่าแรงไม่กระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ แต่กระทบกลุ่ม SMEs

สุรพงษ์กล่าวอีกว่า การขึ้นค่าแรงของพรรคการเมืองที่จะมีผลในช่วงปลายปี 2566 นั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบในกลุ่มธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ เนื่องจากมีการจ้างงานในอัตราที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว แต่ห่วงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ต่อเนื่อง ช่วง 3-4 (Tier 3-4) ต้องรับภาระต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลชุดใหม่ปรับขึ้นค่าแรงทันที ต้องมาดูว่าเมื่อนโยบายดังกล่าวถูกนำออกมาใช้แล้ว ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าใดต่อไป 

 

“เมื่อต้นทุนในส่วนนี้เพิ่มขึ้น เป็นไปได้ว่าจะมีการปรับเพิ่มราคาชิ้นส่วนยานยนต์ และในที่สุดก็ส่งผลให้รถยนต์มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบจากค่าวัตถุดิบที่แพงขึ้น เช่น เซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) และค่าขนส่ง ซึ่งเราได้มีการปรับขึ้นราคานิดหน่อย ในกรณีนี้ก็เหมือนกัน ต้องดูต่อไปว่าผู้ประกอบการจะสามารถรองรับได้เท่าไร”

 

เขากล่าวว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ EV หรือชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยนั้นยังไม่มีความกังวลในเรื่องของนโยบายเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ และยังไม่ถึงขั้นต้องชะลอการลงทุนเพื่อรอดูนโยบายที่ชัดเจน เพราะเรื่องเวลาเป็นต้นทุนสำคัญที่จะทำให้เสียโอกาสในการขาย และขณะนี้ก็มีนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อที่ดินในไทยต่อเนื่อง และมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มขั้นตอนการผลิตในไทยได้ในปี 2567

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising