ในปัจจุบันผู้ให้บริการสตรีมมิงแข่งขันกันอย่างดุเดือด จากการเข้ามาของผู้เล่นยักษ์ใหญ่หลายแห่งอย่าง Disney+ และ HBO Max ทำให้ผู้บุกเบิกตลาดอย่าง Netflix เกิดความตึงเครียดยิ่งขึ้น
ดังนั้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Netflix จึงได้เดินกลยุทธ์ขยาย Landscape พื้นที่แข่งขันของธุรกิจตัวเองให้กว้างกว่าเดิม ซึ่งขยายไปยังธุรกิจเกมโมบายล์ โดยเปิดตัวเกมโมบายล์จากหนังดังอย่าง Stranger Things: 1984 และ Stranger Things 3: The Game รวมถึงเกมอื่นๆ อย่าง Card Blast, Teeter Up และ Shooting Hoops ซึ่งเริ่มเปิดให้เล่นในประเทศอิตาลีและโปแลนด์ก่อน
ล่าสุด Netflix ตั้งใจจะขยายไปมากกว่าเกมโมบายล์แล้ว โดยได้ทำการเข้าซื้อบริษัทเกม Night School Studio ซึ่งเป็นผู้สร้างเกมดังอย่าง Oxenfree โดยบริษัทนี้เป็นบริษัทที่สร้างเกมสำหรับ PlayStation, Xbox, Nintendo Switch และ PCs ถือเป็นการซื้อบริษัทที่ไม่ใช่เกมโมบายล์แห่งแรกของ Netflix ซึ่งเกมทั้งหมดที่ Netflix เปิดตัว จะรวมอยู่ในแพ็กเกจสมัครสมาชิกดูสตรีมมิงของ Netflix โดยในเกมจะไม่มีโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้นมารบกวน
นอกจากนั้น Netflix กล่าวว่า “เกมก็เป็นเหมือนหมวดหมู่คอนเทนต์ใหม่อีกหมวดของเรา เหมือนกับแอนิเมชัน ออริจินัลคอนเทนต์ และอื่นๆ โดยเราจะทำความเข้าใจให้มากขึ้น ว่าลูกค้าเราต้องการคอนเทนต์เกมแนวไหน”
จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ของ Netflix เป็นการขยับตัวนำคู่แข่งขึ้นไปอีกก้าว จากตลาดสตรีมมิงที่เเข่งขันกันอย่างเบียดเสียดหนาแน่น และยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วอย่างซีรีส์เรื่อง Stranger Things นำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการทำเป็นเกมขึ้นมาแบบไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด เพราะมีเนื้อเรื่อง ธีมของหนัง และตัวละครต่างๆ ไว้อยู่แล้ว แถมยังมีฐานแฟนคลับของซีรีส์เรื่องนี้อยู่เป็นจำนวนไม่น้อยอยู่แล้วอีกด้วย
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP