7 เดือนหลังจากที่เผยว่าจะขยับเข้าสู่ธุรกิจโฆษณา ในที่สุด เน็ตฟลิกซ์ ได้เคาะราคาแพ็กเกจที่มีโฆษณาด้วยตัวเลข 6.99 ดอลลาร์ หรือราว 266 บาทต่อเดือน (คำนวณจาก 1 ดอลลาร์เท่ากับ 38.07 บาท) ซึ่งจะเปิดตัวใน 12 ประเทศทั่วโลก ในช่วงต้นพฤศจิกายนนี้ แต่ยังไม่มีไทย
การเปิดตัวแผนดังกล่าวถือเป็นการหันหลังให้กับทิศทางของ Netflix ได้ตั้งเป้าอย่างแน่วแน่ที่จะไม่นำโฆษณามาสู่แพลตฟอร์มของตัวเอง แต่แล้วเมื่อการเติบโตของจำนวนสมาชิกที่ครั้งหนึ่งเคยเติบโตอย่างรวดเร็วได้ลดลง และกลายเป็นสัญญาณของความอิ่มตัวของตลาดในอเมริกาเหนือ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการเติบโตของจำนวนสมาชิกลดลงในไตรมาสที่ผ่านมา Netflix สูญเสียสมาชิกในสองไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มเพียง 1 ล้านคนในไตรมาสที่ 3 โดย Netflix มีสมาชิกประมาณ 221 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งทำให้เป็นบริการสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Netflix จะออกแพ็กเกจใหม่ที่มีราคาเพียง ‘ครึ่งหนึ่ง’ แต่ลูกค้าจะต้องยอมดู ‘โฆษณา’ คั่นประมาณ 4 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง คาดเห็นสิ้นปีนี้ใน 6 ตลาดนำร่อง
- Disney+ เพิ่ม ‘โฆษณา’ ในแพ็กเกจราคาเดิม หากไม่อยากดูต้อง ‘จ่ายเพิ่ม’ เริ่มก่อนที่อเมริกาปลายปีนี้
- ไม่เกี่ยวกับปริมาณ แต่เป็นเรื่องคุณภาพล้วนๆ! วิธีงัดกับ Netflix ของ Disney+ ที่กำลังแสวงหาการเติบโตในเอเชีย
Greg Peters ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Netflix กล่าวว่าบริการใหม่ที่รองรับโฆษณาซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนจะ “เพิ่มจำนวนสมาชิก และเมื่อเวลาผ่านไปจะสร้างรายได้และผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวเลข 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือนนั้น ถูกกว่า Disney+ และ Hulu ที่รองรับโฆษณา ซึ่งทั้งคู่จะอยู่ที่ 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือน
ผู้ชมที่ใช้แพ็กเกจดังกล่าวจะเจอโฆษณาเฉลี่ย 4-5 นาทีต่อชั่วโมง โดยโฆษณาจะมีความยาว 15 หรือ 30 วินาที และจะเล่นก่อนและระหว่างการดูคอนเทนต์ โดย Netflix เสนอให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาในวงกว้างตามประเทศและประเภท เช่น ความรัก นิยายวิทยาศาสตร์ และแอ็กชัน และปล่อยให้แบรนด์เลือกไม่รับโฆษณาควบคู่ไปกับเนื้อหาทางเพศหรือความรุนแรงทางภาพ
ในขั้นต้น Netflix ยังบอกผู้ซื้อโฆษณาว่าตั้งเป้าที่จะเรียกเก็บเงิน 60 ดอลลาร์ หรือมากกว่าต่อผู้ชม 1,000 คน ซึ่งมากกว่าอัตราของแพลตฟอร์มอื่นๆ ถึง 2 เท่า โดย Netflix คาดว่าผลิตภัณฑ์โฆษณาจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก รวมถึงการกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้นด้วยในอนาคต ซึ่งจะมีการร่วมมือกับ Nielsen ในการวัดเรตติ้งในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2023
กระนั้นการจู่โจมธุรกิจโฆษณาของ Netflix นั้นมีความเสี่ยง รวมถึงความเป็นไปได้ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ตัดสินใจจ่ายน้อยลงเพื่อแลกกับการดูโฆษณา ซึ่งจะทำให้รายได้จากผู้ใช้ลดลง
แต่ Netflix ก็สามารถชดเชยจากรายได้โฆษณา ซึ่ง Morgan Stanley ประเมินว่า Netflix จะสามารถหารายได้จากส่วนนี้ได้เป็นเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในปี 2026 โดยเจ้าพ่อสตรีมมิงบอกว่า ได้ขายพื้นที่โฆษณาเกือบหมดแล้ว ขณะที่มีการประเมินว่า Netflix จะมีรายได้จากโฆษณาเฉลี่ย 3 ดอลลาร์ต่อผู้ใช้ 1 คน
ผู้บริหารด้านโฆษณากล่าวว่า พวกเขารู้สึกประหลาดใจกับความเร็วในการออกสู่ตลาดของ Netflix และกลยุทธ์การกำหนดราคา แต่ผู้โฆษณาหลายรายได้ออกมาบอกว่า พวกเขากระตือรือร้นที่จะแสดงแคมเปญบน Netflix เพราะจะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ ที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดูรายการทีวีและภาพยนตร์อย่างยาวนาน
แพ็กเกจที่มีโฆษณาจะพร้อมใช้งานในแคนาดาและเม็กซิโกในวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามด้วยออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, เม็กซิโก, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนสเปนจะเปิดตัวในวันที่ 10 พฤศจิกายน
อ้างอิง:
