เนเน่-พรนับพัน พรเพ็ญพิพัฒน์ ศิลปินสาวเสียงใสมากความสามารถ ที่ในวันนี้เธอก้าวเข้าสู่การเป็นศิลปินเดี่ยววัย 27 ปีอย่างเต็มตัว ทั้งได้ลองทำงานเพลงที่เธอชอบและดำเนินชีวิตตามแบบฉบับของตัวเอง โดยเนเน่ก็กำลังมองหาสิ่งที่เธอต้องการในอนาคต และต้องการหลุดออกจากเซฟโซนของตัวเองอยู่เช่นกัน
เนเน่เปิดใจกับ THE STANDARD POP ผ่านรายการ Chairs to Share EP.50 ว่า ในปีนี้เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการที่จะอยู่ในกรอบ และได้ทำงานเพลงที่เธอรักอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเนเน่มักจะเป็นคนประเภทที่ชอบพูดคุยกับตัวเอง เพื่อค้นหาคำตอบว่า ณ ตอนนี้ตัวเองกำลังต้องการทำอะไร
เนเน่ หรือ เจิ้งหน่ายซิน ตัวแทนเด็กฝึกหัดจากประเทศไทยเพียงคนเดียวในรายการ CHUANG 2020 ที่ด้วยความสามารถและเสน่ห์อันเป็นที่ประจักษ์ ทำให้เนเน่ได้รับคะแนนโหวตอย่างถล่มทลาย จนเธอเป็นสมาชิกสัญชาติไทยเพียงคนเดียวที่ได้เดบิวต์กับวงเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติจีนอย่าง BonBon Girls 303 ได้สำเร็จ และได้ดำเนินกิจกรรมในฐานะไอดอลอย่างที่เธอตั้งเป้าหมายเอาไว้
“ตอนอายุเท่านั้นเราชัดเจนมากว่าอยากเป็นไอดอล เลยเข้าประกวดในรายการ อยากโชว์อัตลักษณ์และความเป็นตัวเองให้ผู้คนได้เห็นค่ะ
“ตอนนี้ในวัย 27 ปี เรากำลังหาตัวเอง พร้อมหาด้วยว่าในอนาคตเราต้องการอะไร อยากทำอะไร อยากออกจากเซฟโซนค่ะ”
เมื่อเนเน่ได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่และลงมือสร้างสรรค์ผลงานเพลงด้วยตัวเองอย่างเต็มตัวในฐานะศิลปินเดี่ยว ณ ปัจจุบัน เธอได้ปล่อยผลงานเพลงที่เธอตั้งใจทำเพื่อผู้ฟังออกมามากมาย โดยเนเน่เคยเล่าถึงเป้าหมายในการทำเพลงของเธอว่า ต้องการให้ผู้ฟังรู้สึกได้รับการเยียวยาจิตใจ เป็นเพลงที่มีความหมาย และสามารถฮีลใจผู้คนได้ ซึ่งเธอก็ยังคงยึดมั่นในสิ่งนี้อยู่เช่นเดิม
“งานเพลงของหนูไม่ใช่การขึ้นบีตหรือขึ้นเนื้อเพลงอะไรออกมาก็ได้ให้ผู้ฟัง หนูรู้สึกว่ามันต้อง Meaningful กับคนฟัง เราอยากสื่อสารอะไร มันเลยมีค่าสำหรับหนูมากในการทำงานชิ้นหนึ่ง
“เราจะมีความสุขก็ต่อเมื่อคนรอบข้างมีความสุข แล้วคนรอบข้างจะมีความสุขก็ขึ้นอยู่กับงานที่หนูทำออกไป”
เนเน่เปรียบเทียบงานเพลงเป็นเหมือนกับไดอารีชีวิต ที่บอกเล่าความรู้สึกและชีวิตของเธอในช่วงนั้นๆ ที่มีทั้งความสุข ความเศร้า และมีความรักให้กับแฟนคลับ หรือแม้แต่มอบให้กับคุณแม่ ผู้เป็นกำลังใจสำคัญให้เธอในการทำตามความฝันมาโดยตลอด
“แม่เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ สำหรับหนู หนูระลึกตัวเองอยู่เสมอว่ากำลังทำสิ่งนี้ไปเพื่อใคร และจะต้องมีกำลังใจหนึ่งที่สำคัญคือคุณแม่ แม่ให้หนูได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ แม่ทำให้หนูโตมาอย่างภูมิใจที่ได้เป็นตัวเองแบบนี้ เราเลือกไม่ได้ว่าจะโตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน แต่หนูโชคดีที่ได้เกิดมากับเขา” แม้บางครั้งอาจจะมีคนอื่นมากมายที่ไม่เชื่อมั่นว่าเธอจะทำสิ่งใดได้ แต่คุณแม่ของเธอจะเชื่อมั่นเสมอและสนับสนุนเนเน่มาโดยตลอดในทุกๆ ด้าน
ในรายการ Chairs to Share เอพิโสดนี้ ผู้ชมจะสัมผัสได้ถึงความเป็นศิลปินในตัวของเนเน่ไปพร้อมๆ กับการเติบโตของเธอในด้านมุมมองและความคิด รวมไปถึงในเรื่องความรัก
“ความรักในตอนนี้ของหนูมันสบายมาก เราไม่ได้ตัวติดกันตลอดเวลา แต่รู้ว่ามีกันอยู่เสมอ มันแข็งแรง หนูรู้สึกจริงๆ ว่านี่คือรักครั้งสุดท้ายของหนู”
เนเน่ ผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่คนโรแมนติก แต่ลงมือจรดปลายปากกาแต่งเพลงให้คนรัก โดยเธอเล่าว่า การแต่งเพลงเป็นการใช้ความรู้สึกที่ผ่านกระบวนการมามากมายเพื่อมอบให้คนคนหนึ่ง รวมถึงเวลาที่เธอตั้งใจแต่งเพลงเพื่อมอบเป็นของขวัญให้แฟนๆ เช่นกัน ซึ่งเพลง Mad Love เป็นเพลงที่เนเน่กล่าวว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่เธออยากจะใช้ในวันแต่งงานอีกด้วย
“เราตายไปแล้วเราจะได้เกิดใหม่จริงเหรอ ถ้าเราหลับไปเฉยๆ ไม่ได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตอีกแล้ว ชีวิตนี้จะเป็นชีวิตสุดท้ายจริงๆ แล้วมันจะโคตรเศร้าเลย ทุกวันนี้หนูเลยใช้ชีวิตแบบไม่นึกเสียดายอะไรเลย จะไม่เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่โดนเอาเปรียบ หนูต้องใช้ชีวิตเต็มที่ นี่อาจจะเป็นชีวิตสุดท้ายก็ได้”
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้ชมและแฟนๆ ได้ข้อคิดและตกตะกอนจากคำพูดของเนเน่ในเอพิโสดนี้ก็ต้องเป็นเรื่องของการเต็มที่ในการใช้ชีวิตของเธอ เนเน่ในวัย 27 ปี ณ ตอนนี้กำลังใช้ชีวิตของเธออย่างเต็มที่และมีความสุขกับเส้นทางที่เธอเลือก ทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพศิลปินของเธอ โดยมีคนที่รักเธอคอยเป็นกำลังใจก้อนสำคัญให้กับเธออยู่ในทุกเส้นทาง
แฟนๆ ที่ติดตามและคอยสนับสนุนเนเน่มาตลอดน่าจะเกิดความรู้สึกภูมิใจและตื้นตันใจอยู่ไม่น้อย ที่ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เราเฝ้ามองมาตลอดได้โบยบินและเติบโตบนเส้นทางที่เธอได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ในแบบฉบับของตัวเองอย่างสมบูรณ์ในวันนี้ ซึ่งเนเน่ก็ยังคงมั่นคงที่จะมอบผลงานที่รังสรรค์ออกมาจากหัวใจของเธอแบบนี้ให้กับทุกคนต่อไป โดยจะมีเหล่าแฟนคลับทุกคนคอยสนับสนุนแบบนี้ไปอีกนานแสนนานอย่างแน่นอน
รับชมรายการ Chairs to Share EP.50 ได้ที่
