×

Nectar อัลบั้มใหม่ของ Joji ที่หลากหลายมากขึ้น แต่ยังคงเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์ของซาวด์ฮิปฮอป Lo-Fi

25.09.2020
  • LOADING...
Joji

หลังห่างหายจากการปล่อยผลงานอัลบั้มไปเกือบสองปีเต็ม นับตั้งแต่ออกอัลบั้ม Ballads 1 ผลงานเดบิวต์ที่แจ้งเกิด และทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการดนตรีเมื่อปี 2018 ในที่สุด จอร์จ มิลเลอร์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม โจจิ ศิลปินที่เป็นหัวหอกคนสำคัญแห่งค่ายเพลง 88rising ก็ปล่อยสตูดิโออัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ Nectar ออกมาให้เราได้ฟังกันเสียที

 

Nectar เป็นอัลบั้มที่เราขอนิยามแนวทางของมันว่า อัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอปอาร์แอนด์บี ที่โดดเด่นด้วยซาวด์ดนตรีแบบ Lo-Fi และบีตจังหวะเท่ๆ ตามสไตล์ถนัดของโจจิ มีทั้งหมด 18 เพลง อีกทั้งอัลบั้มนี้ยังได้ศิลปินหลายคนมาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นดีเจระดับท็อปอย่าง ดิปโล ในเพลง Daylight และเหล่าศิลปินคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง ทั้ง โอมาร์ อพอลโล (เพลง High Hopes), ลิล ยาช์ตี้ (เพลง Pretty Boy), เรอิ บราวน์ (เพลง Normal People) และ บีนี (เพลง Afterthought)

 

สำหรับภาพรวมของอัลบั้มนี้ต้องบอกว่า โจจิ ยังคงยึดมั่นในแนวทางการทำงานแบบเดิมตามที่เขาถนัด ซึ่งนั่นก็คือการทำเพลงแนวฮิปฮอปอาร์แอนด์บี แต่เป็นแบบที่ไม่เมนสตรีม มีความแปลกแหวกแนว ความเท่ และความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับศิลปินคนอื่นๆ ที่ทำเพลงแนวเดียวกัน

 

ทางด้านเนื้อหาไม่ค่อยแตกต่างจากงานชุดก่อนมากนัก หลักๆ ยังคงวนเวียนอยู่กับการพูดถึงเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ความผิดหวัง ความเศร้าโศกเสียใจและการจากลา ซึ่งปัจจุบันมันแทบจะกลายเป็นภาพลักษณ์ติดตัว และเปรียบเสมือนลายเซ็นอันเด่นชัดสำหรับการทำเพลงของเขาไปแล้ว 

 

ส่วนสิ่งที่ทำให้อัลบั้มนี้แตกต่างจากงานชุดก่อนดูเหมือนจะเป็นความหลากหลายขององค์ประกอบทางดนตรีที่มีมิติมากขึ้นกว่าเดิม มีการใช้เครื่องดนตรีคลาสสิกอย่างไวโอลินในเพลง Ew แทร็กเปิดอัลบั้ม ซึ่งมีความอีพิกและเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงเรื่องรักๆ เลิกๆ หรือ Like You Do เพลงบัลลาดสุดไพเราะที่เต็มไปด้วยมวลอารมณ์ บรรเลงเปียโนคลอไปกับเสียงของซินธิไซเซอร์ได้อย่างลงตัว

 

Sanctuary, Run และ Gimme Love คือสามบทเพลงเด่นที่เรายกให้เป็นพระเอกของอัลบั้มชุดนี้ ชนิดที่ว่าหากได้ฟังครั้งหนึ่งแล้วก็ต้องฟังซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่หยุดหย่อน เป็นสามเพลงที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความยอดเยี่ยมในการทำเพลงของโจจิได้อย่างดี 

 

ท่อนที่ร้องว่า If you’ve been waiting for falling in love. Babe, you don’t have to wait on me. ในเพลง Sanctuary ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม Nectar น่าจะติดหูใครหลายคนตั้งแต่วันแรกที่ถูกปล่อยออกมา ท่อนโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าสุดเดือดช่วงท้ายเพลง Run เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์เรามากตอนฟังครั้งแรก เนื่องจากไม่คิดว่าศิลปินที่ทำเพลงฮิปฮอปอาร์แอนด์บีมาตลอดอย่างเขาจะมีมุมร็อกๆ แบบนี้ด้วย

 

Gimme Love คือหนึ่งในเพลงที่เราชอบมากที่สุดในอัลบั้ม เพลงเนื้อหาหม่นเทาที่เปิดขึ้นมาด้วยบีตฮิปฮอปจังหวะเร็ว มาพร้อมกับซาวน์อิเล็กทรอนิกส์ Lo-Fi ที่ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเพลงสนุกสนานชวนเต้น แต่พอเข้าช่วงกลางเพลงก็ตบจังหวะให้ช้าลงกลายเป็นเพลงบัลลาดเมโลดีสวยงาม แล้วปล่อยให้เราจมดิ่งไปกับความทุกข์ระทมที่โจจิมอบให้ซะอย่างนั้น 

 

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบทเพลงในอัลบั้มที่น่าสนใจและเราไม่ได้กล่าวถึง ทั้ง MODUS, Tick Tock, Upgrade, NITROUS, Mr. Hollowood, 777, Reanimator และ Your Man ซึ่งแต่ละเพลงก็มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยรวมแล้ว Nectar ถือเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มยอดเยี่ยมของปี 2020 และควรค่าแก่การฟังอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงของโจจิหรือไม่ก็ตาม

 

สามารถฟังอัลบั้ม Nectar ได้ที่

https://open.spotify.com/album/5EzDhyNZuO7kuaABHwbBKX?si=pP2ir6mxTW-OCpX4LeSOwg

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising