×

กสทช. สั่งทรูเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายกรณีบัตรประชาชนหลุด และต้องจัดช่องทางให้ผู้บริโภคตรวจสอบฟรี

โดย THE STANDARD TEAM
19.04.2018
  • LOADING...

กสทช. สั่งทรูเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายกรณีบัตรประชาชนหลุด และต้องจัดช่องทางให้ผู้บริโภคตรวจสอบฟรี ย้ำผู้ให้บริการรายอื่นต้องให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

 

หลังตัวแทนจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้าชี้แจงต่อ กสทช. กรณีถูกกล่าวหาว่าทำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้กว่า 46,000 รายหลุดโดยไม่มีการป้องกันใดๆ บนระบบออนไลน์นานเกือบ 1 เดือนเต็ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 เม.ย) โดยทรูได้ให้คำตอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ และได้ดำเนินการแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนจำนวนข้อมูลผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบก็มีแค่ 11,400 รายเท่านั้น

 

แม้คำชี้แจงจากทรูจะถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึง ‘ความน่าเชื่อถือ’ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของทรู ซึ่งก็คงต้องรอดูบทสรุปอีกครั้งว่าเหตุการณ์นี้จะคลี่คลายลงเช่นไร แต่ล่าสุดในวันพุธที่ 18 เมษายนที่ผ่านมาเริ่มมีความเคลื่อนไหวจากฝั่ง กสทช. อีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้ส่งหนังสือแจ้งทรูให้รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการกรณีข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุดทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงจะต้องจัดช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมกำชับผู้ให้บริการรายอื่นต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ

 

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า “วันนี้ สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึง บริษัท เรียล มูฟ จำกัด ให้ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มีคำสั่งให้บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง และปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมในเรื่องดังต่อไปนี้

 

  1. จัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอย่างน้อยต้องปรับระดับรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยี และให้มีการตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล

 

  1. จัดให้มีช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

 

  1. ให้ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งและทางอาญา

 

  1. ให้รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อ 1. 2. และ 3. มายังสำนักงาน กสทช. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นระยะๆ ทุก 15 วัน

 

“หาก บริษัท เรียล มูฟ จำกัด ไม่ดำเนินการตามคำสั่งนี้ เลขาธิการ กสทช. จะใช้มาตรการบังคับทางปกครองกำหนดค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อวัน ตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ทั้งนี้ บริษัท เรียล มูฟ จำกัด มีสิทธิ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้โดยยื่นอุทธรณ์ต่อ กสทช. ภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ ตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544”

 

นายฐากรยังกล่าวอีกด้วยว่า กสทช. ได้มีหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นๆ ว่าต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละบริการโทรคมนาคม ตามข้อ 10 ของประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมกำหนด

 

“ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศอย่างเคร่งครัด และหากเกิดกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่ประกาศกำหนด ผู้รับใบอนุญาตต้องควบคุมดูแลให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง หรือปฏิบัติตามให้ถูกต้องเหมาะสม และผู้รับใบอนุญาตต้องผูกพันในการดำเนินการใดๆ ของบุคคลดังกล่าวเสมือนว่าผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเอง ตามข้อ 18 ของประกาศดังกล่าวกำหนดไว้”

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising